ระเบียงรถใหม่
All-New Hyundai Kona 2024 มีให้เลือกทั้งน้ำมันล้วน ไฮบริด และไฟฟ้า

Hyundai Kona เป็นรถครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีขนาดเล็ก โดย Kona รุ่นแรกเปิดตัวในเดือนมิถุนายน 2017 มีขนาดตัวรถ และตำแหน่งทางการตลาดเล็กกว่า Tucson
Kona ตั้งชื่อตามเมืองทางตะวันตกของเกาะ Hawai โดยชื่อสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้ายุคใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับการออกแบบอันล้ำสมัย โดยก่อนหน้านี้ Hyundai จะมีการตั้งชื่อรถเอสยูวีตามสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เช่น Creta, Santa Fe, Tucson และ Veracruz
ก่อนหน้านี้ได้มีการเผยโฉม Kona เจเนอเรชันที่ 2 ให้เราได้เห็นเป็นครั้งแรกเพียงเล็กน้อยในเดือนธันวาคม ล่าสุด Hyundai ได้เผยโฉม Kona ใหม่ ที่มีสไตล์ที่ดุดันยิ่งขึ้น และมีขนาดมิติตัวถังยาว 4,350 มม. (รุ่นไฟฟ้าล้วน 4,355 มม.) กว้าง 1,825 มม. สูง 1,580 มม. (รุ่นไฟฟ้าล้วนสูง 1,575 มม.) และระยะฐานล้อ 2,660 มม. ใหญ่ขึ้นทั้งภายใน และภายนอก โดยมียาวกว่ารุ่นเดิม 150 มม. ความกว้างระหว่างล้อเพิ่มขึ้น 25 มม. และพื้นที่ห้องโดยสาร (เมื่อพับเบาะหลัง) 723 ลิตร
การออกแบบของ All-New Hyundai Kona มีการออกแบบให้กระจังหน้ามีความโค้งมน ไฟขอบฟ้าแบบไร้รอยต่อ LED แบบเต็มความกว้าง คล้ายรถตู้ Hyundai Staria แนวหลังคาสูงขึ้น ในขณะที่ด้านท้ายเน้นการออกแบบมีเหลี่ยมมุม ไฟท้ายออกแบบใหม่ เป็นเส้นยาวเรียวบาง
Kona ได้รับการออกแบบ และวิศวกรรมโดยเน้นหลักอากาศพลศาสตร์มากขึ้น โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศลดลงจากเดิม 0.29 มาอยู่ที่ 0.27 แต่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อย ในรุ่นเครื่องยนต์สันดาป และเครื่องยนต์ไฮบริด และ N-Line ที่มาพร้อมชุดแต่งแบบสปอร์ท แต่ยังไม่ใช่รุ่นเครื่องยนต์สมรรถนะสูง จะมีการออกแบบแตกต่างกันทั้งกันชนหน้า และกระจังหน้า
การออกแบบภายในห้องโดยสาร ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Ioniq 5 แผงหน้าปัดดิจิทอลขนาด 12.3 นิ้ว ที่ผสานเข้ากับระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบเสียง Bose Premium แดชบอร์ดออกแบบลักษณะลอย ตรงกลางโค้งโอบล้อมคนขับ คันเกียร์ถูกย้ายไปยังพวงมาลัย ทำให้ห้องโดยสารดูโปร่งโล่งสบาย เรียบง่าย แต่ยังดูหรูหรา เบาะนั่งด้านหน้าบางลง 30 % ทำให้พื้นที่วางขาสำหรับผู้นั่งในเบาะนั่งแถวที่ 2 โดยเบาะนั่งแถวที่ 2 มีพื้นที่กว้างขวาง สะดวกสบายมากขึ้น ขยายพื้นที่เก็บของมากขึ้น
ขุมพลัง All-New Hyundai Kona 2024 มีให้เลือกหลากหลาย ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รุ่นเครื่องยนต์สันดาป ประกอบด้วย เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 1.6 ลิตร กำลังสูงสุด 195 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 265 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 147 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT
รุ่นเครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 4 สูบ GDI Smartstream ขนาด 1.6 ลิตร กำลัง 103 แรงม้า แรงบิด 144 นิวตันเมตร ผสานกำลังกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 139 แรงม้า แรงบิด 265 นิวตันเมตร
และรุ่นไฟฟ้า 100 % แบบ Standard Range มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว กำลัง 156 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตันเมตร มาพร้อมแบทเตอรีขนาด 48.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ไกลสูงสุด 319 กม./การชาร์จไฟ 1 ครั้ง (มาตรฐาน WLTP) และรูปแบบ Long Range มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว กำลัง 218 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตันเมตร มาพร้อมแบทเตอรีขนาด 65.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ไกลสูงสุด 490 กม./การชาร์จไฟ 1 ครั้ง (มาตรฐาน WLTP)
นอกจากนี้ ยังมีระบบ One Pedal ที่ใช้คันเร่ง และเบรคที่แป้นเดียว และ Vehicle-to-Load (V2L) ที่สามารถจ่ายกระแสไฟให้แก่อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ได้ ระบบชาร์จไฟ 400 โวลท์ ของ Hyundai สามารถชาร์จไฟแบบ DC Fast Charge 10-80 % ภายใน 41 นาที แต่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีชาร์จไฟที่เร็วที่สุด 800 โวลท์ ของ Hyundai ที่ติดตั้งใน Ioniq 5 นอกจากนี้ ยังมีระบบควบคุมระยะทางวิ่งที่ไม่ลดลงเมื่อมีสภาพอากาศเย็นจัด (Battery Pre-Conditioning)
ด้านระบบความปลอดภัย Hyundai SmartSense มีกล้องตรวจจับมุมอับสายตา (BVM) ระบบป้องกันการชนด้านหน้า (FCA 2.0) ระบบรักษารถให้อยู่ในเลน (LKA & LFA) ระบบตรวจสอบสภาวการณ์ของผู้ขับขี่ (DSM) ระบบครูสคอนทโรลตามระบบนำทาง (NSCC) และอื่นๆ 
บทความแนะนำ

