ระเบียงรถใหม่
GWM Cannon CyberPickup 6x6 กระบะไซซ์ยักษ์ขับเคลื่อน 6 ล้อ

การออกแบบภายนอก ดูเหมือนเป็นส่วนผสมของส่วนหน้าของ Toyota Tundra กับด้านหลัง และรูปแบบล้อของ Ram 1500 แผงบังโคลนรถกว้างเป็นพิเศษ มีกระจังหน้าแบบเปิดพร้อมแถบไฟ LED ในตัว และมีตัวอักษรแบรนด์ย่อย POER บนฝากระโปรงหน้า
การตกแต่งภายในเน้นความหรูหรา ด้วยหนังสีขาวตัดกับอลูมิเนียม และหนังกลับสีเทาอ่อน หน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาดใหญ่ที่ติดตั้งตรงกลาง พร้อมกับแผงหน้าปัดดิจิทอลเต็มรูปแบบ และจอแสดงผลบนกระจกหน้ารถ สวิทช์เกียร์ ปุ่ม และคันเกียร์ทั้งหมดเป็นอลูมิเนียม และมีพื้นผิวสัมผัสแบบขึ้นลาย เค้าโครงแผงหน้าปัด และคอนโซลกลางคล้าย Chevrolet Silverado ใหม่ เบาะมีพื้นผิวที่ให้ความรู้สึกสบาย สำหรับผู้โดยสาร 5 คน
ขุมพลังคาดว่าจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน และพลัก-อิน ไฮบริด PHEV เครื่องยนต์เทอร์โบคู่ ขนาด 3.0 ลิตร V6 และมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้กำลังรวม 510 แรงม้า แรงบิดรวม 750 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.49 วินาที ที่สามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 6 ตัน รองรับน้ำหนักลากจูงสูงสุด 3.3 ตัน และเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร เทอร์โบชาร์จ แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร มีชุดทดเกียร์ในโหมด 4L โดยมีรุ่นให้เลือกทั้ง 4×4 และตัวพิเศษอย่าง 6×6 ขับเคลื่อน 6 ล้อ
มิติตัวถัง ยาว 5,440 มม. กว้าง 1,991 มม. สูง 1,924 มม. ระยะฐานล้อ 3,350 มม. เป็นตัวถังแบบดับเบิลแคบ มีการออกแบบล้อหลังแบบ 2 เพลารวมกันทั้งหมดเป็น 6 ล้อ เพื่อเป็นการเฉลี่ยน้ำหนักบรรทุกท้าย ไม่ให้แบกน้ำหนักเกินไป นอกจากนี้ ด้านท้ายสำหรับบรรทุกสัมภาระยังติดตั้งโครงสำหรับตั้งสิ่งของ และกล่องเก็บของ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานจริงให้ดียิ่งขึ้น
การเพิ่มล้อหลังอีก 1 เพลาเข้ามา จะช่วยเพิ่มความนุ่มนวล และนิ่งเสถียรในการขับทางเรียบ กับเพิ่มความสามารถบรรทุก และให้ความสามารถการลุยในทางออฟโรดมากขึ้น แลกมาด้วยการกินกำลังเครื่องยนต์มากขึ้น ระบบลอคเฟืองท้ายที่ควบคุมด้วยระบบอีเลคทรอนิคส์ จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่เพลาหลังสุด โดยมีมอเตอร์ตัวเดียวอยู่ด้านหน้า ซึ่งจะช่วยให้ระบบทำงานเหมือนที่ระบบขับเคลื่อนของ GMC Hummer ทำเสมือนลอคด้านหลังผ่านการซิงโครไนซ์มอเตอร์ 2 ตัว
ยางใช้ขนาด 285/65R18 (33x11 นิ้ว) Cooper Discoverer AT3 พร้อมด้วยระบบกันสะเทือนสำหรับการใช้งานหนัก และชอคอับที่เติมไนโตรเจน เพื่อเพิ่มการรองรับการเดินทางที่สมบุกสมบัน บนเส้นทางทุรกันดาร ใน Ford F350 มันสามารถลากได้ถึง 18,000 ปอนด์ แต่ถ้าเพิ่มเป็น 4 ล้อหลัง จะสามารถลากจูงเพิ่มขึ้นเป็น 21,000 ปอนด์ แต่การมี 6×6 นั้น ปกติแล้วไม่ได้มีไว้สำหรับการลุยแบบออฟโรดเหมือนที่เราคุ้นเคยในสหรัฐอเมริกา แต่แท้จริงแล้ว ได้รับการออกแบบมาสำหรับตลาดอย่างตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นเส้นทางทรายเป็นหลัก เพื่อประโยชน์ในเรื่องการกระจายน้ำหนัก ไม่ให้ตัวรถจมลงในทราย
ในสหรัฐอเมริกา รถ 6×6 ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ Goliath 6×6 และ VelociRaptor 6×6 ทั้ง 2 คันนี้ไม่เพียงแค่ได้รับการดัดแปลงให้มีเพลาที่ใช้งานได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีการอัพเกรดกำลังให้มีพลังมหาศาลมากขึ้นอีกด้วย 
บทความแนะนำ

