ธุรกิจ
Maserati ส่งท้ายก่อนปิดฉากเครื่องยนต์ วี 8

งานเทศกาลรถยนต์ดังกล่าวจะเป็นเวทีเปิดตัวรถยนต์สุดพิเศษทั้ง 2 รุ่นจากค่ายตรีศูล อันเป็นการเฉลิมฉลองปิดฉากการผลิตเครื่องยนต์ วี 8 ทวินเทอร์โบ 572 แรงม้า ซึ่งจะทำให้รถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องยนต์รุ่นนี้กลายเป็นแรร์ไอเทมของนักสะสมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซูเพอร์คาร์พิเศษทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ Ghibli 334 Ultima (ตัวเลขที่ปรากฏในชื่อรุ่นคือความเร็วสูงสุดของรถรุ่นนี้ และทำให้เป็นรถซีดานเครื่องยนต์สันดาปภายในที่เร็วที่สุดในโลก) และ Levante V8 Ultima ซึ่งจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้เข้าชมงานที่โซนจัดแสดงรถรุ่นล่าสุดของแต่ละแบรนด์ (First Glance Paddock) นอกจากนี้ Ghibli 334 Ultima ยังจะโชว์สมรรถนะความเร็วในการแข่งขึ้นเขาในงานนี้อีกด้วย
นอกจากนี้ อีกรุ่นที่จะเข้าร่วมการแข่งขึ้นเขาด้วย คือ Maserati Gran Turismo Trofeo ที่มาพร้อมขุมพลัง 542 แรงม้าจากเครื่องยนต์ Nettuno V6 ซึ่งมีจุดเด่นที่นวัตกรรมระบบจุดระเบิดที่มีหัวเทียนแบบคู่ (Twin Spark Plugs) ที่พัฒนามาจากเทคโนโลยีของรถแข่งฟอร์มูลา วัน
ภายในโซนจัดแสดง Maserati ได้จัดแสดงความสำเร็จที่ผ่านมา และศักยภาพของ Maserati Gran Turismo One Off Prisma และ Maserati Gran Turismo Folgore ให้ผู้เข้าชมงานได้ร่วมชื่นชม และสัมผัสยนตรกรรมสุดหรูที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกนี้ได้อย่างใกล้ชิด
รถยนต์ไฟฟ้าโมเดลใหม่นี้ใช้แบทเตอรี 800 โวลท์ ซึ่งรังสรรค์ขึ้นด้วยสุดยอดเทคโนโลยีที่พัฒนามาจากรถแข่ง Formula E ที่ทำให้รถแข่งแบบคูเป 4 ที่นั่งรุ่นนี้สามารถวิ่งไกลได้ถึง 450 กม. ในการชาร์จเพียงครั้งเดียว และเพิ่มระยะทางวิ่งได้ถึง 100 กม. เมื่อชาร์จเร็วในเวลาเพียง 5 นาที นอกจากนี้ ยังคงมีสมรรถนะเหนือระดับด้วยมอเตอร์สนามแม่เหล็กไฟฟ้าขนาด 300 กิโลวัตต์ 3 ชุด ซึ่งอยู่ด้านหน้ารถ 1 ชุด และท้ายรถ 2 ชุด ทำให้มีพลังสูงถึง 750 แรงม้า และแรงบิดที่ 137.7 กก.-ม. หรือ 1,350 นิวตันเมตร
ซูเพอร์คาร์ในตระกูล Gran Turismo ทั้งหมด ถูกพัฒนาขึ้นจาก Maserati A6 1500 GT ซึ่งเป็นรถยนต์ Grand Touring คันแรกของโลก โดดเด่นด้วยการผสานอย่างลงตัวระหว่างสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เทคโนโลยีสุดล้ำ และสมรรถนะสุดแรง จุดเด่นทั้งหมดนี้มารวมกันอยู่ในรถยนต์สุดเท่สัญชาติอิตาลีเหล่านี้
ยนตรกรรมที่ Maserati นำมาจัดแสดงในส่วนรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Avenue) ของเทศกาลนี้ ได้แก่ Maserati Grecale Folgore ซึ่งเป็นรถยนต์เอสยูวีหรูขนาดกลาง ติดตั้งแบทเตอรี 105 กิโลวัตต์ ที่ใช้เทคโนโลยี 400 โวลท์ และสามารถวิ่งได้ระยะทาง 310 ไมล์ (ประมาณ 500 กม.*) และถูกออกแบบอยางประณีตเพื่อให้การขับขี่ทุกวันเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจเหนือระดับ Grecale Folgore ถือเป็นซูเพอร์คาร์ที่ออกแบบ และผลิตในประเทศอิตาลี ที่สะท้อนความเป็นหนึ่งของ Maserati ทั้งในด้านสมรรถนะ และความหรูหรา ทรงพลังด้วยแรงบิด 83.6 กก.-ม. หรือ 820 นิวตันเมตร และขุมกำลังกว่า 500 แรงม้า
อีกซูเพอร์คาร์ที่จะเป็นดาวตลอด 4 วันของการจัดงาน ได้แก่ Maserati MC20 Cielo ที่เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในอังกฤษเมื่อปีที่แล้วพร้อมกับ เดวิด เบคแฮม ที่งานเทศกาล Goodwood Festival of Speed 2022 และในงานนี้ MC20 Cielo จะกลับมาแสดงพลังอีกครั้งในการเข้าร่วมการแข่งรถขึ้นเขา โดยมี Rosso Vincente เป็นผู้ขับซูเพอร์คาร์ที่โดดเด่นสะดุดตาคันนี้ มีอัตราน้ำหนักต่อแรงม้า (Weight-to-Power Ratio) มหาศาล แชสซีส์ที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ หลังคาเปิดประทุนใส วางขุมพลัง Nettuno V6 ที่พัฒนามาจากรถแข่งฟอร์มูลา วัน ให้พลังสูงถึง 621 แรงม้า
*ตัวเลขคาดการณ์ และสเปคของ EU 

