ธุรกิจ
MGC-Asia โชว์ฟอร์มงวดครึ่งปีแรกโตร้อนแรง ทำกำไรสุทธิ 197.9 ล้านบาท
บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC-Asia ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 ยังเติบโตโดดเด่นทุกกลุ่มธุรกิจ ทำรายได้รวม 6,895.9 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 116.7 ล้านบาท เติบโต 12.1 % และ 13.1 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ หนุนผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกมีรายได้รวม 12,275.1 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 197.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.8 % และ 20.2 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ เตรียมรับรู้รายได้ ภายในไตรมาส 3/66 หลังจากเปิดศูนย์ซ่อมสี และตัวถังสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า Tesla แย้มผลงานครึ่งปีหลังยังสดใส รับอานิสงส์เศรษฐกิจฟื้นตัว ผู้บริโภคมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ตุน Backlog รถยนต์รอส่งมอบกว่า 1,000 คัน เดินหน้าขยายระบบนิเวศทางธุรกิจต่อเนื่อง ดันรายได้เติบโตอย่างยั่งยืนตามแผนงาน
ดร. สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุร กิจค้าปลีกยานยนต์ Lifestyle Mobility Ecosystem ที่มุ่งตอบสนองไฟล์สไตล์การเดินทางอย่างครบวงจร เปิดเผยผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 รายได้ของกลุ่มบริษัทฯ ยังคงเติบโตโดดเด่นทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีรายได้จากการขาย และบริการรวม 6,895.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.1 % เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปัจจัยการเพิ่มขึ้นของรายได้ในกลุ่มธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ และกลุ่มธุรกิจบริการหลังการขาย และซ่อมบำรุงยานยนต์อิสระที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้แก่กลุ่มบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 116.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.1 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน) ของปี 2566 มีรายได้รวม 12,275.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.8 % และมีกำไรสุทธิ 197.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.2 % เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
MGC-Asia ดำเนินงานด้วยโมเดลธุรกิจ Lifestyle Mobility Ecosystem ที่มีความโดดเด่น และมีระบบนิเวศทางธุรกิจที่ครบวงจร สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าได้อย่างครอบคลุม รวมทั้งการสร้างการเติบโตจากการดำเนินงานร่วมกันภายในองค์กร และพันธมิตร (Synergy) ที่มีความเกี่ยวเนื่อง และส่งเสริมกัน ส่งผลให้รายได้ของกลุ่มบริษัทฯ เพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ประกอบด้วย 1) ธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ มีรายได้เพิ่มขึ้น 14.8% จากยอดจำหน่ายรถยนต์ BMW เรือยอชท์ Azimut เรือ Chris-Craft และบิกไบค์ Harley-Davidson 2) ธุรกิจให้บริการหลังการขาย และให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ มีรายได้เพิ่มขึ้น 13.6 % จากการขยายศูนย์บริการ และสามารถสร้างรายได้ประจำให้กลุ่มบริษัทฯ (Recurring Income) อย่างต่อเนื่อง 3) ธุรกิจบริการเช่ารถยนต์ทั้งระยะสั้น และระยะยาวพร้อมพนักงานขับ มีรายได้เพิ่มขึ้น 18.9 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
"ภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังคาดการณ์ว่าจะเติบโตทุกกลุ่มตามแผนงานที่วางเอาไว้ โดยกลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากยอดขายรถที่รอส่งมอบ (Backlog) มากกว่า 1,000 คัน จากงาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ อาทิ Rolls-Royce, BMW, Honda ฯลฯ สำหรับธุรกิจให้บริการหลังการขาย และให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ กลุ่มบริษัทฯ เตรียมรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 3/2566 หลังเปิดตัวศูนย์ซ่อมสี และตัวถังสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอย่างเป็นทางการจากบริษัทผู้ผลิต (Tesla Approved Body and Paint Service Center) เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ในประเทศ รวมทั้งการขยาย MMS Bosch Car Service and Tire ทั้งด้านการรับรู้ และคุณภาพด้านการให้บริการ โดยมีแผนขยายเครือข่ายครบ 45 สาขา ภายในปี 2568 ส่วนธุรกิจบริการเช่ารถยนต์ทั้งระยะสั้น และระยะยาวพร้อมพนัก งานขับคาดว่าเติบโตโดดเด่น จากการได้รับความไว้วางใจจากองค์กรชั้นนำในการให้บริการรถเช่าในระยะยาวสำหรับใช้ภายในองค์กร (Corporate Fleet) ส่วนธุรกิจให้บริการด้านการเงินครบวงจร Alpha X ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) ยังเดินหน้าขยายกลุ่มลูกค้า Wealth Lending และ Ultra Private Lending ซึ่งเป็นกลุ่มที่ครอบครองเรือยอชท์ และซูเพอร์คาร์เป็นหลัก ขณะที่ Howden Maxi เตรียมเปิดตัวบริการประกันรูปแบบใหม่จากการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก รวมทั้งมุ่งขับเคลื่อนนโยบายตามหลัก ESG"
นอกจากนี้ ช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทฯ ได้เปิดตัวโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการครบวงจร "BMW Millennium Auto" และ "MINI Millennium Auto" สาขาสุราษฎร์ธานี ซึ่งเปรียบเสมือนศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคใต้ เพื่อขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมพื้นที่ภาคใต้ เช่น หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา, ภูเก็ต, นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี, กระบี่, พังงา และอื่นๆ โดยมีเป้าหมายการเป็นประตูเศรษฐกิจด้านตะวันตกของไทยสู่เอเชียใต้ พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ "Southern Model" เพื่อมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด Sixt รถเช่า ประเทศไทย ได้ร่วมมือกับ บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด (EVme Plus) ผู้ให้บริการพแลทฟอร์มเช่ารถยนต์ไฟฟ้า (EV) แบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ขยายบริการรถเช่าระยะสั้นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และเพิ่มศักยภาพการให้บริการรถเช่า EV เพื่อรองรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภาคใต้เติบโต
“ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ยังเติบโตต่อเนื่องจากเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว ประกอบกับกลุ่มลูกค้าหลักของ MGC-Asia เป็นกลุ่ม High Net Worth ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจผันผวนน้อยกว่าลูกค้ากลุ่มอื่น ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังเราเตรียมเปิดตัวพแลทฟอร์ม Loyalty Program เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการต่างๆ ภายในระบบนิเวศทางธุรกิจของ MGC-Asia แบบครบวงจรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบเชิงการแข่ง ขันของเรา ที่จะช่วยหนุนให้ผลประกอบการครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางเอาไว้”
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/461832