ธุรกิจ
BMW เตรียมส่งรุ่นใหม่ลุยไตรมาสสุดท้าย
BMW ประเทศไทย เตรียมส่งรถยนต์ทรงพลังใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ BMW XM Label Red รถยนต์สปอร์ทอเนกประสงค์สุดโฉบเฉี่ยว สำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ SAV ระบบพลัก-อิน ไฮบริดประสิทธิภาพสูง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ชื่นชอบการออกเดินทางผจญภัยด้วยเอกลักษณ์โดดเด่นสะกดทุกสายตาถึงขีดสุด BMW 740D M Sport อีกรุ่นย่อยในตระกูล BMW ซีรีส์ 7 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล อัดแน่นด้วยนวัตกรรมระดับไฮเอนด์สำหรับยนตรกรรมแห่งอนาคต และยังพร้อมเปิดรับจอ BMW M2 ที่มาพร้อมกับสองตัวเลือกใหม่กับแพคเกจ M Race Track เอาใจสายสปอร์ทสุดขั้ว ปลดลอคความเร็วสูงสุดถึง 285 กม./ชม. พร้อมเบาะ M Carbon Bucket Seat และตัวเลือกรุ่นเกียร์ธรรมดา สำหรับผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบรถยนต์สายสปอร์ทสมรรถนะสูง และต้องการสไตล์การขับขี่แบบคลาสสิค โดยทั้ง 3 รุ่นนี้พร้อมจะมาตอบโจทย์สไตล์การขับขี่บนท้องถนน และการใช้งานยานยนต์ที่หลากหลายของบรรดานักขับและแฟน BMW ในประเทศไทย
BMW XM Label Red รถยนต์รุ่นเรือธงรุ่นนี้รวบรวมเอาที่สุดแห่งขุมพลัง ความพิเศษ และความหรูหรา เพื่อมอบประสบ การณ์การขับขี่ที่เร้าใจ และทรงพลังแบบไม่เหมือนใคร และยังเป็นรถยนต์ BMW M รุ่นทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา ก้าวข้ามขีดจำกัด และสร้างนิยามใหม่ให้แก่การขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าจากระบบพลัก-อิน ไฮบริดสมรรถนะสูง โดยผลิตมาในจำนวนจำกัดทั่วโลกเพียง 500 คัน ซึ่งภายในตัวรถจะมีเลขระบุ “1/500” อยู่บริเวณด้านล่างของจอ Control Display BMW XM Label Red ยังได้รับการรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อตอบสนองผู้ที่มีไลฟ์สไตล์แบบเปิดเผย ชอบการเดินทาง และหลงใหลรถยนต์ซึ่งเปี่ยมด้วยสมรรถนะที่โดดเด่นเหนือขอบเขตเดิมๆ
สัดส่วนที่ล่ำสันของรถยนต์สปอร์ทอเนกประสงค์ หรือ Sports Activity Vehicle (SAV) แบบมีพลวัตร ผสมผสานกับการออก แบบภายนอกที่โดดเด่น ลายเส้นที่ชัดเจน รวมถึงรูปลักษณ์ส่วนหน้าที่มีมาเฉพาะในรถยนต์ BMW ใน Luxury Class การผสมผสานที่ลงตัวยิ่งขึ้นไปอีกขั้น คือ การออกแบบที่เน้นย้ำคุณลักษณะเฉพาะของ BMW XM Label Red ในฐานะรถยนต์ที่มุ่งเน้นการบรรลุขีดสุดแห่งสมรรถนะ ไฮไลท์ที่โดดเด่น คือ สีตัวถังภายนอกสีดำ BMW Individual Frozen Carbon Black Metallic กระจังหน้าทรงไตคู่ตามแบบฉบับ BMW M พร้อมขอบ 2 ชั้นรูปทรงแปดเหลี่ยมที่ด้านหน้ามาในรูปทรงแนวนอนอันโดดเด่น ซึ่งเป็นจุดเด่นของรถสปอร์ทสมรรถนะสูงจาก BMW M ขอบด้านนอกของกระจังหน้าทรงไตคู่แต่ละข้างยังตกแต่งด้วยสีแดง Toronto Red Metallic ในขณะที่ขอบด้านในมากับไฟรูปทรงโค้งมนเป็นวงแหวนไฟที่ให้แสงอย่างคมชัด และต่อเนื่อง แถบเน้นสีมันวาวตัดกับพื้นผิวสีแบบด้านซึ่งส่องแสงระยิบระยับทำให้ภายนอกของ BMW XM Label Red มีลักษณะที่น่าดึงดูดใจเป็นพิเศษ
BMW XM Label Red ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 พร้อมเทคโนโลยี M Twin Power Turbo อันล้ำสมัย และระบบขับเคลื่อน M HYBRID ซึ่งให้กําลังรวมสูงสุด 550 กิโลวัตต์/748 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 1,000 นิวตันเมตร เครื่อง ยนต์สันดาปยังให้กำลังเครื่องยนต์สูงสุด 430 กิโลวัตต์/585 แรงม้า ที่ 5,600-6,500 รตน. พร้อมแรงบิดสูงสุด 750 รตน. ที่ 1,800-5,400 รตน. ส่วนระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าให้กำลังมอเตอร์สูงสุดที่ 145 กิโลวัตต์/197 แรงม้า พร้อมแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 280 นิวตันเมตร นอกเหนือจากการจ่ายกำลังไฟฟ้าในระหว่างการเร่งความเร็วแล้ว มอเตอร์ไฟฟ้ายังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์สันดาป โดย BMW XM Label Red สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.8 วินาที
ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ 4 ล้อ M XDrive ช่วยถ่ายทอดกำลังที่เกิดจากเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้าไปที่ล้อทั้ง 4 ได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และตรงตามความต้องการใช้งานตลอดเวลา ระบบเฟืองท้าย M Sport ยังช่วยเสริมสมรรถนะของรถด้วยการกระจายกำลังขับเคลื่อนระหว่างล้อหลัง ช่วยให้ตัวรถยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเสริมเสถียรภาพการขับขี่ในสถาน การณ์ต่างๆ ในขณะเดียวกัน ช่วงล่างแบบ Adaptive M Suspension Professional มอบการควบคุมแบบสปอร์ทโดยไม่ลดทอนความสะดวกสบายของผู้ขับขี่ นอกจากนี้ ระบบช่วยการขับขี่รุ่น Professional ยังมาพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโน มัติ พร้อมฟังค์ชัน Stop & Go ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาความเร็วของรถในระดับที่ต้องการ และคงระยะห่างจากรถคันหน้าให้สม่ำเสมอเท่านั้น แต่ยังช่วยให้รถยนต์อยู่ในเส้นทางอย่างคงที่ด้วยระบบบังคับพวงมาลัย เพื่อความสะดวกสบายที่เหนือกว่า ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus ยังช่วยให้การจอดรถ และการบังคับรถทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
โทนสีดำ และแดงยังนำรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูด และกลิ่นอายแบบสปอร์ทมาสู่ห้องโดยสารของ BMW XM Label Red ตราสัญ ลักษณ์ "XM" สีแดงสุดโดดเด่นบริเวณใต้หน้าจอ Control Display ควบคู่ไปกับแถบตกแต่งภายในคาร์บอนไฟเบอร์แบบซา ติน ประดับด้วยด้ายเน้นสีแดง และสีน้ำเงิน เสริมมาดให้รถยนต์คันนี้เป็นรถตามแบบฉบับ M อย่างแท้จริง พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซจ์น M มีส่วนประกอบตกแต่งในสีดำโครเมียม พร้อมด้วยปุ่ม M และแป้นเปลี่ยนเกียร์คาร์บอนซึ่งมีสัญลักษณ์บวก และลบเป็นสีแดง พร้อมทั้งคุณสมบัติพิเศษเฉพาะของ BMW XM Label Red จากตราสัญลักษณ์ที่ระบุโหมดการขับขี่แบบ Boost Mode บนแป้นเปลี่ยนเกียร์ด้านซ้าย ส่วนห้องโดยสารด้านท้ายแบบ M Lounge สุดพิเศษ ยังมอบความรู้สึกที่กว้างขวางให้แก่ผู้โดยสาร พร้อมการตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง และการออกแบบที่หรูหรา
ผ้าบุหลังคายังเป็นเสมือนงานประติมากรรม 3 มิติ ลวดลายแบบปริซึม และเมื่อเปิดหลังคาก็จะพบกับหลอดไฟ LED กว่า 100 ดวงบนหลังคาที่ส่องสว่างอย่างงดงามยามค่ำคืน คอนโซลด้านบนยังบุด้วยหนังแบบ BMW Individual ทำให้การตก แต่งภายในสะดุดตา และหรูหราไปอีกขั้น นอกจากนี้ ยังมีชุดไฟตกแต่งภายใน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน ระบบระบายอากาศ ระบบเสียงรอบทิศทางจาก Bowers & Wilkins Diamond Surround Sound System พร้อมด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่cและระบบความปลอดภัยอีกมากมาย
BMW 740D M Sport รุ่นใหม่ สานต่อตำนานความเหนือชั้นของ BMW ซีรีส์ 7 ที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมเหนือระดับ และความหรูหราล้ำสมัย พร้อมส่งต่อสุนทรียภาพในการขับขี่ ความสะดวกสบายในการขับขี่ทางไกลที่ไม่มีใครเทียบชั้น โดยความปราดเปรียวอย่างเหนือชั้นของรถยนต์ซีดานรุ่นนี้ สะท้อนผ่านเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียง ของเครื่องยนต์สันดาปแบบใหม่ ที่ผสานเทคโนโลยี 48V Mild Hybrid รุ่นล่าสุด พร้อมจะมอบความเพลิดเพลินในการขับขี่ในบรรยากาศที่สะดวกสบายพร้อมกันกับการสัมผัสประสบการณ์ดิจิทอล ที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษในห้องโดยสาร ถือเป็นอีกขั้นของการตีความการเดินทางอย่างมีระดับ
BMW 740D M Sport ใหม่ โดดเด่นด้วยขุมพลังทรงสมรรถนะของเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 6 สูบแถวเรียงความจุ 3.0 ลิตร บนเทคโนโลยี BMW Twin Power Turbo ทำงานควบคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Sport Steptronic โดยเครื่องยนต์ดีเซลประสานพลังเข้ากับเทคโนโลยี 48V Mild Hybrid ให้กำลังสูงสุด 210 กิโลวัตต์/286 แรงม้า ที่ 4,000 รตน. และแรงบิดสูง สุด 650 นิวตันเมตร ที่ 1,500-2,500 รตน. ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำลังรวมสูงสุดถึง 220 กิโลวัตต์/299 แรงม้า และแรงบิดรวมสูงสุด 670 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 6 วินาที ที่ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. โดยการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์สันดาป และมอเตอร์ไฟฟ้านี้ ได้ยกระดับประสิทธิภาพ และการทำงานของระบบขับเคลื่อนใน BMW ซีรีส์ 7 ใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
น้องใหม่ในสายผลิตภัณฑ์ BMW ซีรีส์ 7 ยังดูทรงพลัง และโดดเด่นเหนือชั้นด้วยกระจังหน้าไตคู่อันเป็นเอกลักษณ์พร้อมไฟ Iconic Glow ไฟรูปตัว "L" ที่ทำหน้าที่เป็นทั้งไฟด้านข้างรถ และยังเป็นไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน มาในรูปทรงเรขาคณิตแบบกระจกเสริมให้ไฟท้ายดูเตะตายิ่งขึ้น นอกจากนี้ ตัวถังรถที่ยาวเป็นพิเศษยังเพิ่มความสะดวกสบายอย่างเหนือระดับให้แก่ห้องโดยสารด้านหลังอีกด้วย
การตกแต่งภายใน และอุปกรณ์ต่างๆ สะท้อนถึงความสมดุลระหว่างการส่งต่อประสบการณ์ขับขี่อันปราดเปรียวให้แก่คนขับและสุนทรียภาพสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมสร้างบรรยากาศแบบไม่ซ้ำใคร สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง รวมทั้งระบบความบันเทิงภายในรถสุดล้ำสมัย แถบ BMW Interaction Bar ช่วยให้ผู้ขับขี่ และรถยนต์ทำงานอย่างสอดประสานกันได้ดียิ่งขึ้น ผสานฟังค์ชันการควบคุม ชุดไฟส่องสว่างสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร และยังสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ขนาดเบาะนั่งที่กว้างขวางยิ่งขึ้นของ BMW 740D M Sport ยังมาพร้อมฟังค์ชันครบครันทั้งสำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสารตอนหน้า และผู้โดยสารตอนหลัง ด้วยฟังก์ชันนวดผ่อนคลายสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารตอนหลัง ระบบประตูอัตโนมัติ ระบบระบายอากาศสำหรับเบาะที่นั่ง และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน เพิ่มการไหลเวียนอากาศในห้องโดยสาร
ระบบจอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลังมาพร้อม Amazon Fire TV มอบประสบการณ์ความบันเทิงสุดพิเศษสำหรับผู้โดย สารด้านหลัง ประกอบด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 31.3 นิ้ว ความคมชัด 8K พร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง Bowers & Wilkins รี โมทควบคุมแบบสัมผัสติดตั้งอยู่ที่แผงควบคุมบริเวณแผงประตู (BMW Touch Command) ม่านบังแสงด้านหลังจะปิดโดยอัตโนมัติเมื่อระบบจอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลังทำงาน พร้อมเปลี่ยนห้องโดยสารด้านหลังของ BMW 740D M Sport สู่เลาน์จ์ส่วนตัวเคลื่อนที่ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบนำทางแบบ Augmented View ที่ผสานการแสดงภาพจากกล้องหน้าเข้ากับระบบนำทาง และแสดงภาพบนจอหลังพวงมาลัย เพื่อเสริมระบบนำทางให้มีความแม่นยำ และล้ำสมัยยิ่งขึ้น
ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) และระบบป้องกันล้อลอคขณะเบรค (ABS) ระบบช่วยเสริมแรงเบรคอัตโนมัติ (Brake Assist) เซนเซอร์ควบคุมความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) และระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้างติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ Parking Assistant รุ่น Plus และระบบช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistant รุ่น Plus มอบความอุ่นใจตลอดการเดินทาง และทุกจุดหมายปลายทาง
BMW M2 สุดยอดรถยนต์ในดวงใจของแฟนๆ ตระกูล M มาพร้อมตัวเลือกใหม่ในการปรับแต่งสไตล์การขับขี่ที่ตรงใจคุณที่ สุด ผ่านช่องทางการสั่งจองออนไลน์ ซึ่งนอกจากจะเปิดให้คุณปรับตัวเลือกชุดแต่งได้ดั่งใจต้องการ ยังเพิ่มตัวเลือกใหม่ เอา ใจสายสปอร์ทเต็มตัวที่ชอบอารมณ์ของการขับขี่แบบคลาสสิค ด้วยตัวเลือกแบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือนักซิ่งที่รักความสปอร์ทสุดขั้วด้วยตัวเลือกแพคเกจ M Race Track ที่เพิ่ม M Driver’s Package มาพร้อมเบาะนั่งสไตล์สปอร์ท M Carbon ทรง Bucket Seat และระบบ M Driver ที่สามารถปลดลอคความเร็วสูงสุดได้ถึง 285 กม./ชม. โดยลูกค้าสามารถสั่งจองได้อย่างง่ายดายบนช่องทางออนไลน์ผ่าน https://shop.bmw.co.th
เบาะนั่ง M Carbon ทรง Bucket Seat ในแพคเกจ M Race Track
หัวใจของ BMW M2 คือ ขุมพลังเบนซิน 6 สูบ พร้อมเทคโนโลยี BMW M Twin Power Turbo ส่งพลังสูงสุด 338 กิโลวัตต์ /460 แรงม้า ที่ 6,250 รตน. ให้แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ที่ 2,650-5,870 รตน. โลดแล่นจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเว ลาเพียง 4.1 วินาที ส่งความเร็วสูงสุด 285 กม./ชม. สำหรับแพคเกจ M Race Track และภายใน 4.3 วินาที ที่ความเร็วสูง สุด 250 กม./ชม. สำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา
สำหรับ BMW M2 พร้อมแพ็คเกจ M Race Track มาพร้อมสมรรถนะแบบไดนามิคที่ผสานเข้ากับระบบขับเคลื่อนล้อหลังร่วมกับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ Sport Steptronic 8 จังหวะ พร้อมระบบ Drivelogic ส่วนรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ เพิ่มการเปลี่ยนเกียร์ให้สปอร์ทยิ่งขึ้นด้วยระบบการเชื่อมต่อกับเครื่องยนต์โดยตรง พร้อมความสามารถในการลดเกียร์ลงหลายระดับจนถึงเกียร์ต่ำสุด ระบบส่งกำลังพื้นฐานนี้มีส่วนสำคัญในการเร่งความเร็วแบบทันทีทันใดได้อย่างน่าประทับใจ โหมดการขับขี่ M Drive Professional ช่วยเสริมความเร้าใจในการขับขี่ให้มากขึ้น มาพร้อมระบบเฟืองท้าย M Sport เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนน และเสถียรภาพในการขับขี่เมื่อเปลี่ยนเลน หรือเร่งความเร็วออกจากโค้ง และเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง หรือบนพื้นผิวถนนที่แตกต่างกัน นอกจากนั้น ช่วงล่าง Adaptive M Suspension ยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้อย่างอิสระระ หว่างรูปแบบการขับขี่แบบสะดวกสบาย หรือสไตล์สปอร์ท พร้อมอวดโฉมล้อแมกสไตล์ 930 M ลาย Double Spoke ด้วยขนาด 19 นิ้วในล้อหน้า และขนาด 20 นิ้วในล้อหลัง
เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
ตัวถังภายนอกตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา และโคมไฟหน้าตกแต่งสีดำสไตล์ M และเสริมความโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยระบบไฟหน้า Adaptive LED ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ (High-Beam Assistant) ชุดเบรก M Compound สีแดงเงา และหลัง คา M Carbon ภายในอวดโฉมการตกแต่งสไตล์สปอร์ทด้วยชุดไฟส่องสว่างภายใน และภายนอกห้องโดยสาร (Ambient Light) หลังคาภายในดีไซจ์น M Headliner สีดำ Anthracite และคอนโซลด้านบนบุด้วยหนังแบบ BMW Individual เสริม ลุคที่แตกต่างภายในห้องโดยสารด้วยการตกแต่งดีไซจ์น M ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซจ์น M เข็มขัดนิรภัยดีไซจ์น M สามารถปรับแต่งความสะดวกสบายให้แก่ประสบการณ์การขับขี่ด้วย Comfort Access จุดวางอุปกรณ์มือถือ และกาบบันไดดีไซจ์น M แบบเรืองแสง ทั้งยังมาพร้อมกับพวงมาลัยสไตล์คาร์บอนที่มาพร้อมกับเกียร์ Paddle Shift (เฉพาะรุ่น M Race Track)
BMW Live Cockpit Professional นำเสนอจอแสดงข้อมูลสำหรับคนขับที่ทันสมัยผ่านจอโค้ง BMW Curved Display ซึ่งเป็นระบบดิจิทอลเต็มรูปแบบ ทำงานร่วมกับระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน พร้อมระบบความบันเทิง และการสื่อสารล้ำสมัยด้วยจอ Control Display ขนาด 14.9 นิ้ว ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับจอแสดงข้อมูล 12.3 นิ้ว นอกจากนี้ ระบบ BMW Connected Drive และ BMW Connected Package Professional ยังนำเสนอคุณสมบัติ และบริการขั้นสูงมากมายที่ช่วยให้การขับขี่สะ ดวก มีประสิทธิภาพ และสนุกสนานยิ่งขึ้น ระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon มอบประสบการณ์เสียงคุณภาพสูงอันดื่มด่ำที่สามารถปรับแต่งได้ จึงช่วยให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ประทับใจยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ล้ำสมัย อย่างระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังค์ชัน Stop & Go (ในรุ่น M Race Track) รวมถึงระบบ Driving Assistant และระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติในทั้ง 2 รุ่น
BMW M2 มาให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีฟ้า Zandvoort Blue Solid, สีขาว Alpine White, สีเทา Brooklyn Grey Metallic, สีดำ Black Sapphire Metallic และสีแดง Toronto Red Metallic
BMW M2 พร้อม Manual Transmission จำหน่ายในราคา 6,499,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพคเกจบำรุงรักษา BSI Standard) และ BMW M2 พร้อมแพคเกจ M Race Track จำหนายในราคา 6,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพคเกจบำรุงรักษา BSI Standard)
ลูกค้าสามารถทำการจอง BMW M2 ได้ทางออนไลน์ ผ่าน https://shop.bmw.co.th และยังสามารถเลือกปรับแต่งสีภาย นอก ภายใน รวมถึงตัวเลือกล้ออีก 2 ตัวเลือก ได้แก่ ล้ออัลลอยน้ำหนักเบา M ลาย 930 M Double Spoke แบบสลับสี หรือสีดำ Jet Black