ข่าวจากประเทศอังกฤษ ระบุว่า หลังจากรัฐบาลเวลส์ประกาศการจำกัดความเร็ว 20 ไมล์ (32 กม./ชม.) สำหรับถนนในเขตพักอาศัย แต่มีนักวิจัยออกมาเตือนว่าการจำกัดความเร็วอาจไม่ทำให้คุณภาพอากาศดีขึ้นตามวัตถุประสงค์
Frank Kelly ศาสตราจารย์ ที่ Imperial College และผู้อำนวยการของกลุ่มวิจัยสิ่งแวดล้อม ที่ King’s College London กล่าวว่า ในช่วงเวลาเร่งด่วนบนถนนในเมืองหลายสาย รถใช้ความเร็วได้เพียง 20 ไมล์/ชม. หรือน้อยกว่าอยู่แล้ว การจำกัดความเร็วแทบไม่มีผลต่อคุณภาพของอากาศเลย
อย่างไรก็ตาม รัฐสภาของเวลส์ได้ประกาศการจำกัดความเร็ว 20 ไมล์/ชม. ในเขตจำกัดความเร็ว 30 ไมล์/ชม. (48 กม./ชม.) และมีผลตั้งแต่กลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา
การเปลี่ยนการจำกัดความเร็ว ต้องใช้งบประมาณถึง 32 ล้านปอนด์ เพื่อให้ถนนมีความปลอดภัยมากขึ้น และส่งเสริมให้ผู้ใช้ถนนเปลี่ยนไปใช้การเดิน หรือขี่จักรยานแทนการใช้รถยนต์ ซึ่งรัฐบาลกล่าวว่า การจำกัดความเร็วจะช่วยลดมลพิษจากการใช้รถส่วนตัว จะเป็นการลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงด้วย
โฆษกรัฐบาลยังยกเหตุผลว่า “การเร่งความเร็วจนถึงระดับ 30 ไมล์/ชม. ต้องใช้พลังงานมากกว่าการเร่งความเร็วถึง 20 ไมล์/ชม.ถึง 2 เท่า” โดยอ้างผลการวิจัยจาก ห้องปฏิบัติการวิจัยการขนส่ง เกี่ยวกับการจำกัดความเร็ว และวิธีการขับรถในเมือง ที่มีผลต่อประสิทธิภาพ และการปล่อยมลพิษของรถยนต์
จากการวิจัยพบว่า รถยนต์ต้องใช้พลังในการเร่งความเร็วให้ถึงความเร็วจำกัด ทำให้รถเกิดความสิ้นเปลือง และสร้างมลพิษในสภาพการจราจรในเมือง
แม้ทราบกันดีอยู่แล้วว่า รถยนต์จะมีประสิทธิภาพสูงสุดที่ความเร็วสูงกว่า แต่แนวคิดนี้ ไม่ได้คำนึงถึงพลังงานที่ใช้ในการเร่งเครื่องให้ไปถึงความเร็วที่ต้องการ
ตัวอย่างเช่น Ford Focus Ecoboost ที่เร่งความเร็วให้ถึง 30 ไมล์/ชม. รถจะมีประสิทธิภาพสูงกว่าการใช้ความเร็ว 20 ไมล์/ชม. แต่ต้องวิ่งโดยไม่หยุดเป็นระยะทาง 0.3 ไมล์ (ประมาณ 480 ม.) ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในสภาพการขับรถในเมือง
อย่างไรก็ตาม Nick Molden ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอของบริษัทวิเคราะห์มลพิษ จากการทดสอบยานพาหนะ มีความเห็นว่าการจำกัดความเร็วที่ 25 ไมล์/ชม. (40 กม./ชม.) เป็นความเร็วที่เหมาะสมกว่า
ในส่วนของหน่วยทางหลวงแห่งชาติ ได้ทำโครงการนำร่องการลดมลพิษ และพัฒนาคุณภาพอากาศ ด้วยการจำกัดความเร็วที่ 60 ไมล์/ชม. (96 กม./ชม.) โดยจะทดลองใช้ช่วงสั้นๆ ในเครือข่ายมอเตอร์เวย์ เช่น M1, M4 และ M6
โดยเน้นการวิจัย ผลจากการจำกัดความเร็วจาก 70 ไมล์/ชม. (112 กม./ชม.) เป็น 60 ไมล์/ชม. จะสามารถลดปริมาณไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) โดยผลการทดสอบในบริเวณที่มีระดับไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
หน่วยทางหลวงแห่งชาติมีเป้าหมายจะเผยแพร่ผลวิจัยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ด้วยความซับซ้อนของข้อมูลจึงทำให้เกิดความล่าช้า อย่างไรก็ตาม จะมีการใช้การจำกัดความเร็วที่ 60 ไมล์/ชม. สามารถลดการปล่อยแกสเรือนกระจกได้ถึง 17 % และการลดความเร็วของรถ (Euro 6) มีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงระดับของไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ด้วย