เผยภาพ Hyundai Ioniq 5 บนบิลล์บอร์ดขนาดใหญ่กลางแยกอโศกมนตรี

ล่าสุดทาง ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย)ฯ เผยภาพบิลล์บอร์ดขนาดใหญ่ติดตั้งใจกลางแยกอโศกมนตรี กรุงเทพ ฯ สร้างกระแส "Thailand Meets Ioniq" เตรียมส่ง Ioniq 5 เจ้าของรางวัล Car of The Year สู้ศึกตลาดรถไฟฟ้าในไทย

 

เดิมที่ ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์)ฯ อยู่ภายใต้ตัวแทนจำหน่ายกลุ่มทุนญี่ปุ่น Sojitz Corporation ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2007-2023 โดยต่อจากตัวแทนจำหน่ายรายแรกอย่าง พระนครยนตรการฯ ที่เป็นผู้นำรถ Hyundai เข้ามาในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 1992-2000

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่รอบล่าสุดสำหรับ Hyundai ประเทศไทย เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2023 Hyundai ถูกเปลี่ยนมือให้แก่บริษัทแม่จากเกาหลีใต้ ในชื่อ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด

 

Hyundai Ioniq 5 รถไฟฟ้า 100 % จากเดิมที่เคยมีแผนทำตลาดในช่วงเดือนพฤษภาคม 2022 โดยเป็นการนำเข้าจากเกาหลีใต้ เมื่อมีการเปลี่ยนผู้จำหน่ายในประเทศไทย ทำให้กำหนดการถูกเลื่อนออกมา เปิดตัวสิ้นเดือนนี้ โดยจะเป็นการนำเข้ามาจากโรงงานในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจะได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี AFTA ทำให้ลุ้นราคาให้แข่งขันกับรถไฟฟ้าจากจีนได้

 

Hyundai เชื่อมั่นว่า Ioniq 5 ที่ประสบความสำเร็จในตลาดโลก พร้อมสร้างปรากฏการณ์ยานยนต์ไฟฟ้าในงาน Motor Expo 2023 ที่กำลังจะมาถึง

 

Hyundai Ioniq เป็นรถครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีในกลุ่มคอมแพคท์ ตัวถังแบบ 5 ประตู 5 ที่นั่ง ได้รับการพัฒนาขึ้นบนพแลทฟอร์มใหม่ E-GMP หรือ Electric Global Modular Platform ที่ Hyundai ออกแบบมาเพื่อผลิตรถ ยนต์พลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ

 

การออกแบบภายนอก ได้แรงบันดาลใจจาก Hyundai Pony เก๋งรุ่นแรกของค่ายยุค 70 ไฟหน้า และไฟท้ายจะเป็น Parametric Pixel แบบ LED ทรงเหลี่ยม โดดเด่นด้วยเส้นสายที่เฉียบคม ไฟหน้า LED คู่รูปตัว U พร้อมโลโก Hyundai บนฝากระโปรง

 

มิติตัวถังมีความยาว 4,635 มม. กว้าง 1,890 มม. สูง 1,605 มม. ฐานล้อ 3,000 มม. น้ำหนักรถ 2,020 กก. ซึ่งมีขนาดมิติตัวถังใกล้เคียงกับ Honda CR-V/Mazda CX-5 โดย All-New Honda CR-V มีมิติตัวถังยาว 4,694 มม. กว้าง 1,864 มม. สูง 1,692 มม. และระยะฐานล้อ 2,700 มม. และ Mazda CX-5 (2019) มีความยาว 4,550 มม. กว้าง 1,840 มม. สูง 1,680 มม. และระยะฐานล้อ 2,700 มม.

 

ภายในออกแบบได้อย่างเรียบหรู มีการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยวัสดุรีไซเคิล เช่น แผงประตูเคลือบด้วยสีชีวภาพ เบาะนั่ง ผ้าบุหลังคา และพรม ประกอบด้วยส่วนประกอบที่สกัดจากอ้อย และข้าวโพด ส่วนหนังที่ใช้ในห้องโดยสารย้อมด้วยน้ำมันเมล็ดฟแลกซ์ ผ้าที่ใช้ในการตกแต่งทำมาจากขวดพลาสติค ที่ถูกนำไปหลอม และปั่นเป็นเส้นด้าย แล้วนำมาใช้กับที่นั่งที่วางแขนข้างประตู

 

หน้าจอแสดงผลขนาด 12 นิ้ว 2 จอ ถูกติดตั้งอยู่กับแดชบอร์ด สามารถแสดงผลผ่าน Head up Display เบาะหลังสามารถปรับเอน และเลื่อนถอยเดินหน้า-ถอยหลัง ด้วยไฟฟ้าได้สูงสุด 135 มม.

 

ประตูตกแต่งด้วยไฟ Ambient Lighting คอนโซลตรงกลางมีที่ชาร์จ USB และช่องเสียบปลั๊กไฟสามารถเสียบปลั๊กต่อกับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้เลย สามารถจ่ายไฟให้แก่อุปกรณ์ได้สูงสุด 3.6 กิโลวัตต์ แม้ในขณะที่รถดับอยู่

 

ขุมพลังการขับเคลื่อนรุ่น Standard Range มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลัง 170 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ความจุแบทเตอรี 58 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งไกลสุด/การชาร์จ 384 กม. ตามมาตรฐาน WLTP อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 8.5 วินาที

 

รุ่น Extended Range ขับเคลื่อนล้อหลังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวให้กำลังมากสุด 218 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร แบทเตอรีขนาด 72.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งไกลสุด/การชาร์จ 481 กม. ตามมาตรฐาน WLTP อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 7.4 วินาที

 

รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้พละกำลัง 306 แรงม้า แรงบิด 605 นิวตันเมตร แบทเตอรีขนาด 72.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งไกลสุด/การชาร์จ 460 กม. ตามมาตรฐาน WLTP อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 5.2 วินาที

 

ทุกรุ่นจำกัดความแรงที่ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม. การชาร์จไฟฟ้า

รุ่น Standard Range แบทเตอรี 58 kWh 

- กระแสสลับ AC Type2 11 กิโลวัตต์ ใช้เวลา 5 ชม. 30 นาที

- กระแสตรง DC Fast Charging 50 กิโลวัตต์ จาก 10-80 % ใช้เวลา 47 นาที

- รองรับระบบ Ultra-Fast Charging 350 กิโลวัตต์ จาก 10-80 % ใช้เวลา 18 นาที

 

รุ่น Long Range แบทเตอรี 72.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง

- กระแสสลับ AC Type2 11 กิโลวัตต์ ใช้เวลา 6 ชม. 45 นาที

- กระแสตรง DC Fast Charging 50 กิโลวัตต์ จาก 10-80 % ใช้เวลา 1 ชม.

- กระแสตรง Ultra-Fast Charging 350 กิโลวัตต์ จาก 10-80 % ใช้เวลา 18 นาที