ธุรกิจ
Mitsubishi ชวนลูกค้าสัมผัส All-New Triton ทุกรุ่น แต่งเต็มทุกแนว
Mitsubishi ชวนลูกค้าสัมผัส All-New Triton ทุกรุ่น แต่งเต็มทุกแนว บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ชวนลูกค้าชมโฉม All-New Mitsubishi Triton ครบทุกรุ่น ครั้งแรก ที่งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40" นำทัพโดย All-New Mitsubishi Triton Athlete และ All-New Mitsubishi Triton Double Cab ขับเคลื่อน 4 ล้อ Ultra เกียร์อัตโนมัติ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD II เอกลักษณ์เฉพาะ Mitsubishi Motors ที่โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อฟูลล์ไทม์ (4H) เจ้าแรกในตลาดกระบะไทย ใหม่ล่าสุดด้วย 7 โหมดการขับขี่ และระบบควบคุมการขับเคลื่อน และสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) ขับ ขี่คล่องตัวด้วยความปลอดภัยสูงสุดบนทุกสภาพถนน พร้อมสัมผัสกลุ่มรถกระบะ All-New Triton ตัวเตี้ย ครบทุกแคบ ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ที่ประหยัดน้ำมันกว่า แชส์ซีส์ใหม่ “Mega Frame” สุดแกร่งที่ใหญ่กว่าเดิม ทั้งยังจับมือสำนักแต่งรถทุกสายทั้งแนวเรซิง แนวแคมพิง 4WD และเชิงพาณิชย์ จัดแสดงรถแต่งทรงต่างๆ สร้างแรงบันดาลใจ ทั้งกระบะตัวเตี้ยแต่งเต็มสไตล์เรซิงสุดเท่ คอกซิ่งสุดหล่อ และติดตั้งตู้ทึบสำหรับใช้งานเชิงพา ณิชย์ รวมถึงกระบะยกสูงจัดทรงสายแรลลี สายแคมพิง มอเตอร์โฮม และอื่นๆ มาให้ยลโฉมอีกด้วย
เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นับตั้งแต่ที่เราได้เปิดตัวรถยนต์ All-New Mitsubishi Triton ในงานเวิร์ลด์พรีเมียร์ที่ประเทศไทย ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา งานนี้ถือเป็นครั้งแรกของการจัดแสดงรถยนต์ All-New Mitsubishi Triton ครบทุกรุ่น ที่เกิดมาเพื่อปฏิวัติความเชื่อ เป็นได้มากกว่า ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม ด้วยจุดเด่นด้านความสะดวกสบายสุดหรูของห้องโดยสารที่เทียบเคียงได้กับรถเอสยูวี ควบคู่กับสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ที่ให้พละกำลังสูงแต่ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม พร้อมเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้รถกระบะยุคใหม่ได้ดี เหมาะทั้งสำหรับใช้เป็นรถเพื่อประกอบอาชีพสร้างผลกำไร และเติมเต็มความสนุกเร้าใจในการใช้งานส่วนตัว
บูธ Mitsubishi Motors ในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40" แบ่งการจัดแสดงรถไว้ทั้งหมด 3 โซน ประกอบด้วย Play Zone, Work Zone และ Lifestyle Zone เพื่อสะท้อนถึงอรรถประโยชน์มากมายของรถ Mitsubishi หลากหลายรุ่น ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าหลากหลายกลุ่ม
ไฮไลท์ของ Play Zone ณ บูธ Mitsubishi Motors
Mitsubishi Motors ออกแบบ Play Zone โดยมุ่งเน้นการจัดแสดงยนตรกรรมเพื่อคนรักการผจญภัย เน้นโชว์รถกระบะตัวทอพ และตัวแต่ง อาทิ All-New Mitsubishi Triton Athlete ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Hyper Power X2 เทอร์โบ 2 สเตจ ด้วยพละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ภายใต้การออกแบบสไตล์สปอร์ทสุดล้ำ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ชื่นชอบการผจญภัย พร้อมความสะดวกสบายสุดหรูของห้องโดยสาร สะกดทุกสายตาของผู้ชื่นชอบรถกระบะด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ด้วยแนวคิด Beast Mode ที่ผสมผสานความปราดเปรียวเข้ากับการออกแบบที่แข็งแกร่งของ Mitsubishi Motors เพื่อสร้างสรรค์รูปลักษณ์อันโดดเด่นสะดุดตา พร้อมสะท้อนความบึกบึน และทรงพลังในแบบฉบับรถกระบะที่แท้จริง การันตีด้วยรางวัลออกแบบยอดเยี่ยม หรือ Good Design Award 2023 ที่จัดโดยสถาบันส่งเสริมการออกแบบแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan Institute of Design Promotion)
All-New Mitsubishi Triton Athlete ได้หลอมรวมความเป็น “ที่สุด” แห่งดีเอนเอของ Mitsubishi Motors เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน Daimond Sense ที่มาพร้อมกับระบบลอคความเร็วแบบแปรผันอัตโน มัติ (Diamond Sense with Adaptive Cruise Control) พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation System: FCM) ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW) ระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist: LCA) ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert: RCTA) ระบบปรับระดับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ (Auto High Beam: AHB) กล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor: MAM) ซึ่งเทคโนโลยีความปลอดภัยทั้งหมดนี้ สามารถตรวจจับการเคลื่อนที่ของตัวรถและสภาพแวดล้อมด้วยเซนเซอร์ และเรดาร์ที่ควบคุมด้วยระบบ AI ได้รอบคัน พร้อมด้วยระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า (Electric Power Steering: EPS)
All-New Mitsubishi Triton Double Cab รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ทุกรุ่นย่อย จะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ “Super Select 4WD II" เป็นเอกลักษณ์ของ Mitsubishi Motors โดดเด่นด้วยโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อฟูลล์ไทม์ (Full-Time All Wheel Control) เจ้าแรกในตลาดกระบะไทย ซึ่งสามารถเปลี่ยนจากโหมดขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นขับเคลื่อน 4 ล้อแบบฟูลล์ไทม์ (4H) ได้ทันที แม้ในขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง (Shift-on-The-Fly) เสริมความปลอดภัยให้ขับขี่คล่องตัวพร้อมตะลุยทุกสภาพอากาศ และทุกรูปแบบของพื้นผิว ด้วย 7 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมดปกติ (Normal), โหมดประหยัดเชื้อเพลิง และรักษ์โลก (Eco), โหมดขับขี่บนทางลูกรังหรือทางฝุ่น (Gravel), โหมดขับขี่บนพื้นหิมะ หรือขณะฝนตกผิวถนนเปียกลื่น (Snow), โหมดขับขี่ลุยโคลน หรือผิวทางที่เหนียวลื่น (Mud), โหมดขับขี่ตะลุยทราย หรือผิวทางที่ดินร่วน (Sand), โหมดไต่หิน หรือขับขี่บนผิวทางที่เป็นหินขรุขระ (Rock) แตกต่างอย่างเหนือกว่าด้วยระบบควบคุมการขับเคลื่อน และสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) ช่วยให้ขับขี่คล่องตัว ควบคุมได้ดังใจ
นอกจากนี้ อีกไฮไลท์สำคัญของ Mitsubishi Motors Play Zone คือ All-New Mitsubishi Triton Double Cab ขับเคลื่อน 4 ล้อ Ultra เกียร์อัตโนมัติ และ All-New Triton รุ่นตัวเตี้ย ทั้ง Mega Cab ตอนครึ่ง และ Double Cab 4 ประตู ตัวเตี้ย ซึ่งพร้อมส่งมอบในช่วงปักษ์แรกของเดือนธันวาคม 2566 โดยจัดแสดงแบบแต่งเต็มหล่อเข้มเต็มพิกัด จัดทรงโชว์ความเท่สไตล์เรซิงบวกอารมณ์สปอร์ท ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง และผู้รักความเร็วสไตล์มอเตอร์สปอร์ท
ภายในงาน ยังมีการนำเสนอเทคโนโลยี Mitsubishi Connect ที่เชื่อมต่อ และควบคุมตัวรถได้จากระยะไกล สามารถรองรับได้ทั้งระบบ IOS และ Android ผ่านการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชัน “My Mitsubishi Connect” เพื่อความสะดวกสบาย และความปลอดภัย เพิ่มความอุ่นใจในทุกมิติ ทั้งระบบขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน SOS ผ่านตัวรถ (E-Call) ระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อเกิดการชน นอกจากนี้ยังให้ความสะดวกสบายด้วยฟังค์ชันการสั่งการจากระยะไกล ทั้งการควบคุมเครื่องปรับอากาศจากระยะไกล การลอค และปลดลอคประตูรถได้จากระยะไกล การควบคุมแตรรถ และการเปิดปิดไฟหน้าจากระยะไกล รวมถึงการรายงาน และตรวจสอบสถานะของรถยนต์ เช่น ระดับน้ำมันคงเหลือและระยะทางที่วิ่งต่อได้ ความดันลมยาง และมีฟังค์ชันความปลอดภัยอื่นๆ อาทิ การขอความช่วยเหลือบนท้องถนน (Roadside Assistance) การระบุตำแหน่งรถยนต์ และการช่วยเหลือเมื่อรถถูกโจรกรรม (Stolen Vehicle Assistance)
ไฮไลท์ของ Work Zone ณ บูธ Mitsubishi Motors
การจัดแสดงรถใน Work Zone มุ่งฉายภาพโอกาสทางธุรกิจให้แก่เจ้าของกิจการ ผู้ประกอบการ และหน่วยงานองค์กรต่างๆ ผ่านการปรับทัพรถกระบะให้ครองใจเจ้าของธุรกิจ และผู้ขับขี่ได้ดีขึ้นในราคาที่จับต้องได้ ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมของ All-New Triton ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ที่ให้พละกำลังสูงแต่ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม แชสซีส์ใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม แข็งแกร่งทนทานยิ่งกว่า และขนาดกระบะท้ายที่ใหญ่ที่สุดในบรรดารถกระ บะด้วยกัน จึงสามารถรองรับโหลดบรรทุกในแต่ละรอบได้มากขึ้น ทั้งยังบำรุงรักษาง่ายในงบประมาณที่ประหยัดกว่า พร้อมจับมือพาร์ทเนอร์ในการติดตั้งตู้ทึบ หรือเสริมคอกบรรทุกได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และด้วยจุดเด่นด้านอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และการตกแต่งภายในที่ช่วยสวยงาม ภายใต้แนวคิด "Mitsubishi Touch" โดยเฉพาะเบาะนั่งของ All-New Triton ที่ออกแบบเป็นพิเศษให้ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ และผู้โดย สารเมื่อต้องเดินทางไกล รถกระบะ All-New Triton ที่แต่งเชิงพาณิชย์จึงเป็นได้มากกว่ารถขนส่ง โดยรุ่นที่นำมาจัดแสดง ได้แก่ All-New Triton รุ่น Single Cab ตัวเตี้ย รุ่น Mega Cab ตัวเตี้ย และรุ่น Mega Cab ยกสูง
นอกจากนี้ ภายใน Work Zone ยังเน้นโชว์สมรรถนะ และฟังค์ชันความสะดวกสบายของตัวรถ รวมถึงศักยภาพการบรรทุก และการใช้งานด้านต่างๆ ของ All-New Mitsubishi Triton ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับความต้อง การใช้งานเชิงพาณิชย์ของลูกค้าชาวไทย จากการศึกษาตลาดของ Mitsubishi Motors อย่างต่อเนื่อง ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ 4N16 ที่ทรงพลังกว่าเดิม ด้วยกำลัง 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ Hyper Power 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร สำหรับรุ่น Single Cab ประหยัดน้ำมันที่ดียิ่งขึ้น มาพร้อมแชสซีส์ใหม่ “Mega Frame” ที่ได้รับการออกแบบให้ใหญ่ และแข็งแกร่งกว่าเดิม ตัวถังมีขนาดใหญ่ขึ้น จึงมีพื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขึ้น และมีพื้นที่กระบะท้ายกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ผสานช่วงล่างใหม่ ตอบรับทุกการใช้งาน มั่นใจทุกการบรรทุกได้เต็มพิกัด ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ดี และมีความทนทานกว่า นำไปสู่ผลกำไรที่สูงขึ้นสำหรับลูกค้าที่ใช้งานเพื่อการพาณิชย์
ภายในห้องโดยสารของ All-New Mitsubishi Triton รุ่น Single Cab และรุ่น Mega Cab ยังได้รับการออกแบบให้มีความพรีเมียมมากยิ่งขึ้น ตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูงให้ความนุ่มนวลทุกสัมผัส จับถนัดคล่องตัว และสะดวกสบาย เสริมด้วยเบาะนั่งดีไซจ์นใหม่ที่โอบอุ้มสรีระ เน้นให้ขับขี่ทางไกลได้อย่างไม่เหนื่อยล้า ร่วมด้วย พวงมาลัยและสวิทช์ควบคุมต่างๆ ที่ได้รับการออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานได้ง่ายขึ้น แม้ขณะสวมถุงมือ เพื่อให้ผู้ขับขี่มีสมาธิในการขับขี่อย่างเต็มที่ พร้อมติดตั้งชุดเครื่องเสียง และหน้าจอสัมผัสขนาด 10 นิ้ว ที่ใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน รองรับการเชื่อมต่อ Apple Car Play และ Android Auto ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการออก แบบที่มุ่งครองใจเจ้าของกิจการ และผู้ใช้งานจริง
นอกเหนือจากสมรรถนะ และความสะดวกสบายเหนือระดับแล้ว All-New Mitsubishi Triton ทุกรุ่น ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครันที่สุด เมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน โดยในรถทุกรุ่นย่อยรวมถึงรุ่นเริ่มต้น มีระบบป้องกันล้อลอคขณะเบรค (ABS) ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรคแบบอีเลคทรอนิคส์ (EBD) ระบบเสริมแรงเบรค (BA) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC) ระบบป้องกันการลื่นไถล (TCL) และระบบแอคทีฟลิมิเทดสลิพที่เฟืองท้ายแบบควบคุมด้วยเบรค (Active LSD)
All-New Mitsubishi Triton ทุกรุ่น จึงเป็นเสมือนหุ้นส่วนทางธุรกิจที่ดีที่สุดสำหรับเจ้าของกิจการไทย ที่พร้อมรองรับการดัดแปลงเพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์ได้หลากหลาย มีความสะดวกสบายเต็มพิกัดขณะใช้งาน ทั้งยังบำ รุงรักษาง่ายในงบประมาณที่ประหยัดกว่า เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถสร้างผลกำไรได้เร็วที่สุด
ไฮไลท์ของ Lifestyle Zone ณ บูธ Mitsubishi Motors
สัมผัสกับรถยนต์ Mitsubishi Motors อีกหลากหลายรุ่น ใน Lifestyle Zone ได้แก่ Mitsubishi Pajero Sport Elite Edition ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ติดตั้งเทนท์แคมพิง เพื่อสะท้อนความเป็นเพื่อนคู่ใจที่ดีที่สุดบนทุกเส้นทางที่มุ่งมั่นตะลุย พร้อมด้วย Mitsubishi Pajero Sport GT-Plus ที่โดดเด่นในสไตล์สปอร์ต
นอกจากนี้ ภายใน Lifestyle Zone ยังมีการจัดแสดง Mitsubishi Xpander ใหม่ รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง สไตล์หรูหราที่ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าได้มากกว่า และผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบการผจญภัยยังสามารถเลือกชม Mitsubishi Xpander Cross ในสไตล์สุดหรูพร้อมลุย โดยทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยอันเหนือระ ดับ อาทิ ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) ให้ความมั่นใจในการขับขี่ เข้าโค้งกระชับเฉียบคมบนทุกสภาพถนนและสภาพอากาศ อีกทั้งยังจัดแสดง Mitsubishi Attrage Special Edition รถยนต์อีโคคาร์ดีไซจ์นโดดเด่น คุ้มค่า เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ใช้ชีวิตในเมือง
ผู้สนใจสามารถชมโฉม All-New Triton ทุกรุ่น พร้อมทดลองขับรถยนต์ Mitsubishi หลากหลายรุ่น ได้ที่งาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40" หรือ "Motor Expo 2023" ระหว่างวันที่ 30 พย.-11 ธค. 2566 ณ อิมแพคท์ ชาลเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี พร้อมพบกับโปรโมชันมากมาย และข้อเสนอสุดพิเศษ อาทิ แคมเปญดอกเบี้ย 0 % และข้อเสนอพิเศษกว่า 120,000 บาท สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถ Mitsubishi Xpander และ Mitsubishi Xpander Cross