ธุรกิจ
Michelin Guide เผยร้านอาหารใหม่ระดับดาวมิชลิน
The Michelin Guide Thailand 2024 ซึ่งเป็นคู่มือแนะนำร้านอาหาร และที่พัก "Michelin Guide" ฉบับที่ 7 ของประเทศไทย ประกาศรายชื่อร้านอาหารที่คว้ารางวัล "ดาวมิชลิน" (Michelin Star) และรางวัลพิเศษอื่นๆ พร้อมทั้งฉลองความสำเร็จให้แก่บุคลากรมืออาชีพในแวดวงร้านอาหารของประเทศไทยที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ
คู่มือฉบับล่าสุดบรรจุรายชื่อร้านอาหารที่ผ่านการคัดสรรรวมทั้งสิ้น 447 แห่ง เป็นร้านที่ได้รับรางวัล "2 ดาวมิชลิน" 7 ร้าน (เลื่อนระดับจาก "1 ดาวมิชลิน" 2 ร้าน), รางวัล "1 ดาวมิชลิน" 28 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 3 ร้าน และเลื่อนระดับจาก Michelin Selected 3 ร้าน), รางวัล "บิบ กูร์มองด์" 196 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 29 ร้าน และมาจาก Michelin Selected 3 ร้าน) และร้านแนะนำ หรือ Michelin Selected อีก 216 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 37 ร้าน)
ในจำนวนร้านหน้าใหม่ที่ได้รับการตีพิมพ์ในคู่มือฯ ฉบับล่าสุดซึ่งเป็นฉบับที่ 7 ของไทย 23 ร้านตั้งอยู่ในเกาะสมุย (ร้านระดับ "บิบ กูร์มองด์" 4 ร้าน และร้านแนะนำ หรือ Michelin Selected 7 ร้าน) และสุราษฎร์ธานี (ร้านระดับ "บิบ กูร์มองด์" 8 ร้าน และร้านแนะนำ หรือ Michelin Selected 4 ร้าน) ซึ่ง "Michelin Guide" ขยายขอบเขตเข้าดำเนินการสำรวจ และจัดอันดับเป็นปีแรก
Gwendal Poullennec ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ "Michelin Guide" ทั่วโลก เปิดเผยว่า บรรยากาศโดยรวมของภาคธุรกิจอาหารที่มีชีวิตชีวา และหลากหลายของเกาะสมุย และสุราษฎร์ธานี ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางทัศนียภาพที่สวยงามฝั่งอ่าวไทย มีผลิตผลท้องถิ่นที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะอาหารทะเลที่ได้คุณภาพ และสดใหม่ ผสานหลากวัฒนธรรมที่รุ่มรวย ช่วยเสริมให้รายชื่อร้านอาหารของคู่มือ "Michelin Guide" ฉบับประเทศไทย มีสีสันน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
“ผู้ตรวจสอบของ Michelin Guide ได้สัมผัสความหลากหลายในแวดวงร้านอาหารของไทย ทั้งร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นที่พยายามก้าวข้ามขอบเขต และขีดจำกัดเดิมๆ ไปจนถึงแผงขายอาหารริมทางที่พบได้ทั่วไป ความหลากหลายที่โดดเด่นเช่นนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงวัฒนธรรม และภูมิปัญญาด้านอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของไทย คู่มือ "Michelin Guide" ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2567 ไม่เพียงสะท้อนถึงประสบการณ์สุดพิเศษดังกล่าวที่ผู้ตรวจสอบของเราได้สัมผัส แต่ยังชี้ให้เห็นถึงแนวโน้ม และทิศทางล่าสุดในแวดวงอาหารของประเทศไทยด้วย”
รางวัล "2 ดาวมิชลิน" มีร้านติดอันดับเพิ่มขึ้น 2 ร้าน
ในคู่มือ "Michelin Guide" ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2567 มีร้านอาหารคว้ารางวัล "2 ดาวมิชลิน" เพิ่มขึ้น 2 ร้าน โดยได้รับการเลื่อนระดับจาก "1 ดาวมิชลิน" ได้แก่ บ้านเทพา ร้านอาหารไทยร่วมสมัยที่นำแนวคิด Farm to Table มาใช้รังสรรค์อาหารชุด Tasting Menu ซึ่งจัดแต่งอย่างพิถีพิถันสวยงาม โดยเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลทั้งที่ปลูกเอง และที่ปลูกโดยผู้ผลิตที่คำนึงถึงความยั่งยืน และร้านกา ร้านอาหารอินเดียร่วมสมัยที่ผสานศาสตร์การทำอาหารแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคนิค และการนำเสนอแบบสมัยใหม่ เสิร์ฟอาหารที่ผ่านการปรุงโดยใช้ทักษะ และความประณีต ใส่เครื่องเทศอย่างพอเหมาะ ให้รสชาติที่ลุ่มลึกด้วยเนื้อสัมผัสที่แตกต่าง และการควบคุมอุณหภูมิที่ดี
เป็นที่น่าสังเกตว่าทั้ง 2 ร้านล้วนดำเนินงานโดยเชฟผู้หญิง คือ เชฟตาม-ชุดารี เทพาคำ แห่งร้านบ้านเทพา และ เชฟการิมา อโรรา แห่งร้านกา ทั้งนี้ บ้านเทพา ได้รับรางวัล "2 ดาวมิชลิน" จากคู่มือ "Michelin Guide" ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2567 เพียงปีเดียวหลังจากขึ้นแท่นร้านอาหารหน้าใหม่ที่คว้ารางวัล "1 ดาวมิชลิน" จากคู่มือฯ ฉบับประจำปี 2566 ไปครอง ขณะที่ ร้านกา เป็นร้านอาหารอินเดีย 1 ใน 2 แห่งทั่วโลก ที่ครองสถานะ "2 ดาวมิชลิน" อยู่ในปัจจุบัน
รางวัล "1 ดาวมิชลิน" มีร้านติดอันดับเพิ่มขึ้น 6 ร้าน
สำหรับรางวัล "1 ดาวมิชลิน" ซึ่งมีร้านใหม่ติดโผ 6 ร้าน ในจำนวนนี้ 3 ร้านได้รับการจัดอันดับในคู่มือ "Michelin Guide ประเทศไทย" เป็นครั้งแรก ส่วนอีก 3 ร้านได้รับการเลื่อนระดับจากร้านแนะนำ หรือ Michelin Selected
ร้านใหม่ระดับ "1 ดาวมิชลิน" ที่ติดอันดับในคู่มือ "Michelin Guide ประเทศไทย" เป็นครั้งแรก ได้แก่ อินดี ร้านอาหารอินเดียสมัยใหม่ที่นำเสนอรายการอาหารชุด (Set Menu) ซึ่งจะพานักชิมท่องไปตามแคว้นต่างๆ ของอินเดียผ่านเมนูย่างเตาถ่านเป็นหลัก, ร้านนว ร้านอาหารไทยร่วมสมัยที่นำเสนออาหารภายใต้แนวคิดนวัตกรรม โดยใช้เทคนิคใหม่ในการรังสรรค์อาหารไทยแต่ยังคงรสชาติอาหารภาคกลางดั้งเดิมที่เรียบง่ายทว่าซับซ้อน ร้านนี้เสิร์ฟ Tasting Menu ตามฤดูกาล ซึ่งประกอบด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยขนาดพอดีคำ (Finger Food) และอาหารจานหลักแบบสำรับหลายรายการ และสำรับสำหรับไทย ร้านอาหารไทยที่นำเสนอ Tasting Menu จากการพลิกแพลงสูตรตำราอาหารหายากให้มีความเป็นไทยโบราณใหม่ตามยุคสมัย ได้รสชาติไทยแท้กรุ่นกลิ่นหอมระคนกัน โดยเมนูของร้านจะปรับเปลี่ยนทุก 2 เดือน
ร้านใหม่ระดับ "1 ดาวมิชลิน" ที่เลื่อนระดับจากร้านแนะนำ หรือ Michelin Selected ได้แก่ มีอา ร้านอาหารที่นำเสนออาหารยุโรปสไตล์โมเดิร์นเปี่ยมกลิ่นอายความเป็นเอเชียแบบ 5 หรือ 8 คอร์ส ผ่านเมนู "Taste of Mia" ตามฤดูกาลที่โดดเด่นด้วยรสชาติกลมกล่อมซับซ้อน นอกจากนี้ ยังมีเมนูวีแกน และมังสวิรัติให้เลือก พร้อมทั้งให้บริการจับคู่อาหารกับคอคเทล มอคเทล หรือไวน์, เรโซแนนซ์ ร้านอาหารที่นำเสนอ Tasting Menu ตามฤดูกาล และนำนักชิมเดินทางผ่านอาหารจานพิเศษ ซึ่งรังสรรค์ขึ้นด้วยแรงบันดาลใจที่เชฟได้รับจากการเดินทางไปทำงานในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ที่นี่ยังมีบริการจับคู่อาหารกับชา (Tea Pairing) เมื่อแจ้งล่วงหน้าเท่านั้นด้วย และ วรรณยุค ร้านอาหารที่เสิร์ฟ Tasting Menu อาหารไทยร่วมสมัยตามฤดูกาลซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก “ข้าวแกง” หรือ “ข้าวราดแกง” โดยแต่ละคอร์สเลือกใช้พันธุ์ข้าวจากหลากหลายท้องถิ่นทั่วประเทศ
รางวัล Michelin Green Star หรือ “ดาวมิชลินรักษ์โลก” เพิ่มขึ้น 1 ร้าน รวมเป็น 4 ร้าน
นอกจาก พรุ, Haoma และจำปา ซึ่งครองรางวัล Michelin Green Star หรือ “ดาวมิชลินรักษ์โลก” ที่มอบให้แก่ร้านอาหารซึ่งดำเนินกิจการ และมีแนวปฏิบัติประจำวันด้านการประกอบอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนแล้ว ยังมีร้านอาหารร่วมครองรางวัลนี้อีก 1 ร้าน ในคู่มือ "Michelin Guide" ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2567 ได้แก่ เเฌม บาย ฌอง-มิเชล โลรองต์ ร้านอาหารฝรั่งเศสสุดสร้างสรรค์ที่เชฟ และทีมงานให้ความสำคัญกับความยั่งยืน โดยไม่เพียงเสริมสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ผลิตในไทย แต่ยังตรวจสอบแนวทางปฏิบัติงานในครัวอย่างเข้มงวดสม่ำเสมอ ครอบคลุมตั้งแต่การจัดการขยะ การรีไซเคิล ไปจนถึงโครงการริเริ่มอื่นๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
รางวัลพิเศษ 4 รางวัล
ปัจจุบัน คู่มือ "Michelin Guide ประเทศไทย" มอบรางวัลพิเศษรวม 4 รางวัล ให้กับบุคลากรมืออาชีพจากร้านอาหารที่ติดอันดับในคู่มือฯ ซึ่งมีความสามารถโดดเด่น และมีบทบาทในการยกระดับประสบการณ์ด้านอาหารให้ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น อันเป็นการส่งเสริมให้ภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมด้านอาหาร และบริการเป็นที่น่าสนใจ และน่าทำงานด้วย
รางวัล Michelin Young Chef Award
Michelin Young Chef Award เป็นรางวัลพิเศษที่ได้รับการสนับสนุนโดย “บลองแปง” (Blancpain) แบรนด์นาฬิกาจากสวิทเซอร์แลนด์ รางวัลนี้มอบให้แก่สุดยอดเชฟรุ่นใหม่ของร้านอาหารระดับดาวมิชลินที่มีทักษะความสามารถโดดเด่น โดยผู้ได้รับรางวัลประจำปี 2567 คือ เชฟ “ตาม” ชุดารี เทพาคำ จากร้านบ้านเทพา เชฟตามเป็นเชฟหญิงไทยที่ถือเป็นดาวรุ่งที่มาแรง และมีอนาคตไกล หลังสั่งสมประสบการณ์จากร้านอาหารชั้นนำอย่าง Gaggan, Water Library Group และทำงานในตำแหน่ง Chef de Partie ณ ร้าน Blue Hill at Stone Barns ในนครนิวยอร์ค เธอได้เดินทางกลับมายังประเทศไทย และสร้างปรากฎการณ์น่าทึ่งให้แก่แวดวงร้านอาหารในไทยเมื่อร้านบ้านเทพาของเธอก้าวขึ้นคว้ารางวัล "1 ดาวมิชลิน" มาครองในฐานะร้านหน้าใหม่ในคู่มือ "Michelin Guide" ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2566 และล่าสุดในปีถัดมายังสามารถเลื่อนระดับสู่รางวัล "2 ดาวมิชลิน" ได้สำเร็จ
รางวัล Michelin Opening of the Year Award
Michelin Opening of the Year Award เป็นรางวัลพิเศษที่ได้รับการสนับสนุนโดยธนาคารยูโอบี (UOB) รางวัลนี้มอบให้แก่บุคลากร และทีมงานซึ่งประสบความสำเร็จในการเปิดร้านอาหารใหม่ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยมีแนวคิดที่โดดเด่นในการนำเสนออาหารอย่างสร้างสรรค์ จนกลายเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจจากวงการอาหารในประเทศ สำหรับผู้ได้รับรางวัลประจำปี 2567 คือ วิชชุพล เจริญทรัพย์ เจ้าของร้านนว ร้านอาหารซึ่งเปิดตัวเมื่อต้นปี 2566 และติดอันดับร้านระดับรางวัล "1 ดาวมิชลิน" ในคู่มือ "Michelin Guide" ประเทศไทย ฉบับล่าสุด โดย ณพล จันทรเกตุ หรือเชฟโจ และคู่ชีวิตของเขา เชฟซากิ ฮาชิโนะ ดูแลในครัว ขณะที่ เนย์ วิชชุพล เจริญทรัพย์ ทำหน้าที่ดูแลหน้าร้าน ทั้ง 3 คนเป็นทีมที่แข็งแกร่ง ร้านนวจึงเป็นร้านที่โดดเด่น และได้รับเลือกให้ครองรางวัล Michelin Opening of the Year Award ด้วยการรังสรรค์อาหารไทยภาคกลางรสชาติดั้งเดิมที่ผ่านการตีความใหม่ออกมาในแบบที่ทันสมัย และน่าสนใจ
รางวัล Michelin Service Award
Michelin Service Award เป็นรางวัลพิเศษที่ได้รับการสนับสนุนโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รางวัลนี้มอบให้สุดยอดบุคลากรของร้านอาหารที่ทุ่มเทให้แก่การบริการเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การทานอาหารที่ยอดเยี่ยม สำหรับผู้ได้รับรางวัลประจำปี 2567 คือ หลุยส์ บูร์ชัวส์ (Louise Bourgeois) จากร้านเชฟส์เทเบิล มิสบูร์ชัวส์ ผู้จัดการร้านเชฟส์เทเบิล ให้การต้อนรับแขกผู้มาเยือนอย่างอบอุ่น และดูแลให้บริการอย่างใส่ใจ ความสุภาพ และเป็นกันเองของเธอ สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย และเป็นมิตร ขณะเดียวกัน บุคลิกความเป็นผู้นำที่โดดเด่นในฐานะผู้จัดการร้านยังส่งผลต่อการให้บริการของทีมงานอย่างมืออาชีพด้วย
รางวัล Michelin Sommelier Award
Michelin Sommelier Award เป็นรางวัลที่มอบให้แก่ “ซอมเมอลิเยร์” หรือผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ที่มีคุณสมบัติโดดเด่น โดยให้บริการอย่างมืออาชีพ และมีความชำนาญในการให้คำแนะนำเกี่ยวกับไวน์ชนิดต่างๆ รวมถึงการจับคู่ไวน์กับเมนูอาหาร เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ด้านอรรถรสสูงสุด โดยผู้ได้รับรางวัลประจำปี 2567 คือ ธนากร บอทอร์ฟ จากร้านอินดี ธนากรเป็น “ซอมเมอลิเยร์” หรือผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ที่มีคุณสมบัติโดดเด่น สามารถนำเสนอ และแนะนำไวน์ที่คัดสรรมาให้เลือกมากถึง 600 ประเภท ซึ่งรวมถึงไวน์ที่เสิร์ฟเป็นแก้วเกือบ 60 ประเภท โดยจัดทำรายการไวน์พร้อมตั้งคำถามสนุกๆ ให้ได้ทาย และเรียนรู้เกี่ยวกับไวน์ เขาไม่เพียงให้บริการอย่างอบอุ่น และเป็นกันเอง แต่ยังเป็นนักสื่อสารที่ดีในเรื่องไวน์ ทั้งยังไม่เพียงจับคู่ไวน์ได้เหมาะกับอาหาร แต่ยังแนะนำไวน์อย่างใส่ใจ และคำนึงถึงรสนิยมของลูกค้า
สรุปจำนวนร้านอาหารที่ได้รับรางวัลจากคู่มือ "Michelin Guide ประเทศไทย 2567"
ร้านอาหาร 2 ดาวมิชลิน จำนวน 7 ร้าน (เลื่อนระดับจาก "1 ดาวมิชลิน" 2 ร้าน)
ร้านอาหาร 1 ดาวมิชลิน จำนวน 28 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 3 ร้าน และเลื่อนระดับจาก Michelin Selected 3 ร้าน)
ร้านอาหาร ดาวมิชลินรักษ์โลก จำนวน 4 ร้าน (ติดอันดับเพิ่มขึ้น 1 ร้าน)
ร้านอาหารรางวัล "บิบ กูร์มองด์" จำนวน 196 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 28 ร้าน และเลื่อนระดับจาก Michelin Selected 4 ร้าน)
ร้านแนะนำ หรือ Michelin Selected จำนวน 216 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 37 ร้าน)
นอกจากรายชื่อร้านอาหารแล้ว คู่มือ "Michelin Guide" ฉบับประเทศไทย ยังบรรจุข้อมูลโรงแรมที่พักทั้งในประเทศไทย และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งผ่านการคัดสรรว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นเอาไว้ด้วย ผู้สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ผ่านทางเวบไซท์ และแอพพลิเคชันของ "Michelin Guide" ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ทั้งยังสามารถสำรองโรงแรมที่พักผ่านช่องทางดังกล่าวได้โดยตรง อนึ่ง ผู้เชี่ยวชาญของ "Michelin Guide" ดำเนินการคัดสรรโรงแรมที่พักทุกแห่งโดยพิจารณาจากอัตลักษณ์เฉพาะตัว บริการ และสไตล์ที่โดดเด่น สำหรับรายชื่อโรงแรมที่พักในประเทศไทยซึ่งผ่านการคัดสรร และตีพิมพ์ไว้ในคู่มือฉบับล่าสุดครอบคลุมทั้งโรงแรมสไตล์บูติคสุดหรูดีไซจ์นทันสมัย และโรงแรมที่พักเหนือระดับในกลุ่ม Plus Collection ทั้งนี้ คู่มือ "Michelin Guide" ไม่เพียงได้รับยกย่องว่าเป็นบรรทัดฐานของวงการอาหาร แต่ยังมีบทบาทในการกำหนดมาตรฐานใหม่ให้แก่ธุรกิจโรงแรมที่พัก คลิคดูข้อมูลร้านอาหาร และโรงแรมที่พักซึ่งผ่านการคัดสรรทั้งหมด ตลอดจนสำรองที่นั่ง และที่พักผ่านทางเวบไซท์ หรือแอพพลิเคชันของ "Michelin Guide" ที่มีให้ดาวน์โหลดได้ฟรี เพื่อสัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจ