ธุรกิจ
อีวี ไพรมัสฯ เสริมความแข็งแกร่ง ชูวิสัยทัศน์ 3 ธุรกิจหลัก
อีวี ไพรมัสฯ เสริมความแข็งแกร่งบริษัท ทุ่มกว่า 200 ล้านบาท สร้างโรงงานประกอบ ชูวิสัยทัศน์ 3 ธุรกิจหลัก เพื่อสร้างความยั่งยืนในการพัฒนาตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
· เดินหน้าทุ่มกว่า 200 ล้านบาท สร้างโรงงานประกอบรถอีวี ที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง
บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบบมัลทิแบรนด์ (Multi-Brand EV Distributor) แห่งแรกของไทย และเป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Volt และ Wuling แต่ผู้เดียวในประเทศไทย (Sole Distributor) เดินหน้าทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาท สร้างโรงงานประกอบ ชูวิสัยทัศน์ 3 ธุรกิจหลัก เพื่อสร้างความยั่งยืนในการพัฒนาตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต รุกสร้างองค์กรให้เข้มแข็ง
พิทยา ธนาดำรงศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเริ่มมีผู้เล่นที่มากขึ้น มีการแข่งขันที่สูงขึ้น และเนื่องด้วยเป็นตลาดที่เกิดขึ้นใหม่ ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมผู้บริโภคอยู่เรื่อยๆ บริษัทที่จะตอบโจทย์ลูกค้าได้จึงต้องพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ อีวี ไพรมัสฯ จึงได้มีการจัดตั้งกลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อรุกตลาดอีวีได้อย่างมั่นคง และตอบโจทย์ผู้บริโภคที่หลากหลายได้อย่างทันท่วงที รวมถึงในการบริหารจัดการนั้น ต้องยกระดับให้มีความเป็นสากลมากขึ้น จึงมีการเชิญพันธมิตร และบอร์ดบริหารที่มีประสบการณ์เข้ามาร่วมพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน
คณะบอร์ดบริหารชุดใหม่ ได้พัฒนาแนววิสัยทัศน์ สร้างธุรกิจหลัก 3 ธุรกิจได้แก่
· EV Distribution: ธุรกิจประกอบ และจัดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้า
· EV B2C Solution: ธุรกิจให้เช่ายานยนต์ไฟฟ้าสำหรับบุคคลทั่วไป และนักท่องเที่ยว
· EV B2B Solution: ธุรกิจให้เช่ายานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์สำหรับลูกค้าแบบธุรกิจ
สุรพล สุประดิษฐ์ ประธานบอร์ด บริษัทฯ กล่าวว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้า เติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีนี้ โดยเติบโตจากปีที่แล้วที่มียอดขายเพียงหลัก 10,000 คัน มาเป็น กว่า 70,000 คัน ในช่วง 10 เดือนของปีนี้ และคาดว่าสิ้นปีนี้ ยอดขายจะเติบโตไปถึง 80,000-90,000 คัน ทั้งนี้เป็นเพราะนโยบายการสนับสนุนการเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าของกรมสรรพสามิตที่เริ่มตั้งแต่ปีที่แล้ว
“จากนโยบายสนันสนุนยานยนต์ไฟฟ้าของกรมสรรพสามิต รวมถึงการลงทุนของค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนหลายค่าย ทำให้ประชาชนมั่นใจ และเลือกใช้รถอีวีมากขึ้น สิ่งที่จะตามมา คือ Supply Chain ของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยจะเริ่มเกิดขึ้นอย่างมีนัยยะ ส่งเสริมให้ไทยอยู่ในระดับแนวหน้าของภูมิภาคอาเซียนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างแน่นอน” สุรพล กล่าว และเสริมว่า โอกาสของรถยนต์ไฟฟ้าแบบ Compact และ City EV จะสดใสมากเพราะเป็นรถยนต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ ในราคาที่เหมาะสม ใครๆ ก็เข้าถึงได้ เหมาะสำหรับยุคเปลี่ยนถ่ายที่คนเริ่มเปลี่ยนจากรถยนต์สันดาปมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้า
นายแพทย์ฆนัท รองประธานบอร์ด บริษัทฯ เสริมว่า โอกาสของการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ใช่เพียงแค่การขายเท่านั้น แต่การประยุกต์เอารถยนต์ไฟฟ้ามาอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้น ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตจะเปรียบเสมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่ทุกบ้านจะต้องมีในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ในยุคสังคมแบบ Sharing Economy ผู้บริโภคจำนวนหนึ่งอาจจะไม่นิยมการซื้อทรัพย์สินอย่างรถยนต์ไฟฟ้า แต่จะวางแผนทางการเงินด้วยการเช่าใช้แทน กล่าวคือ การถือครองรถยนต์ในยุคใหม่จะมีรูปแบบที่หลากหลายขึ้น อีวี ไพรมัสฯ จึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ด้วยการสร้าง Business Model ที่เปิดให้ลูกค้าใช้รถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทในลักษณะเช่าใช้ ซึ่งจะมีทั้งแบบ B2C และ B2B เป็นทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค และภาคธุรกิจได้อย่างตรงจุด
“Business Model ของ B2C เรายังได้แบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ บุคคลทั่วไป และนักท่องเที่ยวที่เน้นการเช่าระยะสั้นๆ ซึ่งรถประเภท Compact และ City EV มีข้อได้เปรียบเรื่องราคา อีกทั้งพฤติกรรมลูกค้ากลุ่มนี้เน้นการขับระยะสั้นๆ เท่านั้น ทั้ง Volt City EV และ Wuling Air EV มีราคาที่ต่ำกว่ารถสันดาปถึงครึ่งหนึ่ง ทำให้สามารถกดราคาค่าเช่าให้เป็นทางเลือกที่ดึงดูดลูกค้ากลุ่มนี้ได้อย่างมาก และที่สำคัญ คนรุ่นใหม่เล็งเห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม Solution นี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด” นายแพทย์ฆนัท กล่าว
นายแพทย์ฆนัท กล่าวอีกว่า ในส่วนของยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ที่จะให้เช่าใช้แบบ B2B นั้น ขณะนี้ อีวี ไพรมัสฯ อยู่ระหว่างการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ที่มีระบบ Battery Swap เพื่อลดต้นทุนการขนส่งของธุรกิจไปพร้อมๆ กับการไม่ต้องจอดรอชาร์จ ซึ่งถือเป็นการแก้ Paint Point ของธุรกิจในสาขาต่างๆ ที่กำลังประสบปัญหาค่าขนส่งที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
เฉลิมศักดิ์ ที่ปรึกษาคณะบอร์ด และผู้จัดการโรงงานประกอบ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ อีวี ไพรมัสฯ กำลังดำเนินการสร้างไลน์ผลิตในโรงงานประกอบรถยนต์ของบริษัทฯ ให้เสร็จพร้อมประกอบรถยนต์ไฟฟ้าป้อนให้แก่ตลาดประเทศไทย ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของการขอรับเงินสนับสนุนจากกรมสรรพสามิต โดยโรงงานประกอบจะตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 5 ไร่ ที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ในเขตประกอบการเสรี ด้วยงบประมาณการลงทุนมากกว่า 200 ล้านบาท และมีกำลังการผลิต 6,000 คัน/ปี โดยจะประกอบรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มต้นที่ 2 แบรนด์ คือ Volt City EV และ Wuling และในอนาคตจะประกอบรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์อีกด้วย
“โรงงานนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่เช่าที่อยู่ในเขตปลอดอากรใกล้ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง ซึ่งเหมาะมากที่จะใช้เป็นฐานการส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไฟฟ้าสำเร็จรูปในอนาคต โรงงานแห่งนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก SGMW บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Wuling ในการออกแบบไลน์ประกอบ ไลน์ทดสอบคุณภาพ ทำให้เราได้เป็นโรงงานประกอบอย่างเป็นทางการของ SGMW ที่มีระบบบริหารจัดการ และควบคุมคุณภาพในระดับสากล อีกทั้งยังทำให้เรามีโอกาสที่จะส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าประกอบสำเร็จจากประเทศไทยไปต่างประเทศอีกด้วย”
ภัทร์ลดานันท์ กรรมการผู้จัดการ และผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดกล่าวว่าจากการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของ อีวี ไพรมัสฯ ภายใต้แบรนด์ Volt City EV และ Wuling ได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาด โดยเฉพาะ Segment ของ Compact และ City EV ที่ยังมีช่องว่างให้ อีวี ไพรมัสฯ เป็นผู้ทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งรถทั้ง 2 แบรนด์นี้ ลูกค้าส่วนใหญ่จะซื้อเป็นคันที่ 2 หรือคันที่ 3 ของบ้าน และนำรถไปใช้ในชีวิตประจำวันที่เดินทางระยะสั้นๆ เพื่อทำธุระประจำวัน เช่น ไปตลาด หรือห้างสรรพสินค้า ไปรับ-ส่งลูกไปโรงเรียน เป็นต้น
“ในการสื่อสารทางการตลาดของแบรนด์ Volt และ Wuling นั้น เราไม่ได้วางตำแหน่งตนเองเป็น Economic Choice แต่เป็น Smart Choice ของผู้ที่ต้องการเข้าสู่โลกยานยนต์ไฟฟ้า และต้องการแสดงวิถีชีวิตที่แตกต่าง ซึ่งลูกค้าของเราส่วนใหญ่แล้ว เป็นกลุ่มคนที่ทันสมัย และมีรายได้สูง มีความต้องการเข้าถึงเทคโนโลยี และอยากใช้รถอีวี แบบ Smart Usage ที่เป็นรถเสริมที่อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน” ภัทร์ลดานันท์ กล่าว
ภัทร์ลดานันท์ กล่าวถึง SGMW หรือ Wuling นั้นเป็นผู้นำยานยนต์ไฟฟ้าแบบ Compact และ City EV ในจีนและยังเป็นผู้ริเริ่มในการปฏิวัติยานยนต์ไฟฟ้าในจีน เมื่อหลายปีที่แล้ว ด้วยการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กในคุณภาพสูง ในราคาจับต้องได้ ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนสามารถเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่าย และสามารถกวาดยอดขายในประเทศจีนไปแล้วมากกว่า 2 ล้านคัน ในหลายปีที่ผ่านมา ซึ่ง Wuling Air EV นี้ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 3 ของ Wuling ที่พัฒนามาจากรุ่นก่อนๆ ที่เน้นคุณภาพ และรูปลักษณ์ที่ทันสมัย ทำให้ยอดขาย Wuling Air EV ในประเทศไทยทะลุ 1,000 คัน ในช่วงระยะเวลาเพียง 4 เดือนของการเปิดตัว
“เรายืนยันว่าเราจะดูแลลูกค้ากว่า 1,000 คันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อให้เกิดกระแสแบบปากต่อปาก ซึ่งจะส่งผลระยะยาวกับแบรนด์ Wuling ในประเทศไทย ดังนั้นในปีหน้าเราจะจัดกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ให้เข้มข้นขึ้น เพื่อตอกย้ำกลยุทธ์การบอกต่อจากลูกค้าที่ใช้จริง และรวมถึงการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดความพึงพอใจในสินค้า และบริการของ Wuling ซึ่งจะส่งผลต่อแบรนด์ให้แข็งแรง และเติบโตในระยะยาว” ภัทร์ลดานันท์ กล่าว
พิทยา กล่าวเสริมว่า ในอนาคต อีวี ไพรมัสฯ จะยังคงให้ความสำคัญในการนำรถ Wuling รุ่นใหม่ๆ เข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายฐานลูกค้าของ Wuling ให้กว้างขึ้นโดยได้มีการเจรจากับ SGMW แล้วว่าภายใน 3 ปีข้างหน้า อีวี ไพรมัสฯ จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า Wuling เพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 3 รุ่น เพื่อให้ Wuling สามารถเป็นผู้นำในตลาด Compact และ City EV ได้อย่างแท้จริง
เฉิน เฉาจุน ผู้แทนจากกลุ่มบริษัท Lesso Group และผู้อำนวยการด้านพัฒนาธุรกิจใหม่ กล่าวถึง Lesso Group ว่าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ฮ่องกง และเป็นผู้นำทางด้านการผลิตท่อน้ำ PVC และแผงโซลาร์เซลล์ อุปกรณ์ชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้า และ Power Storage ระดับแนวหน้าของประเทศจีน ซึ่งธุรกิจของ อีวี ไพรมัสฯ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Wuling ให้เป็นผู้นำรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน จึงทำให้ Lesso Group มีความสนใจที่จะร่วมธุรกิจกับ อีวี ไพรมัสฯ ด้วยเงินลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท ทั้งนี้เพราะกลยุทธ์ระยะยาวของ อีวี ไพรมัสฯ มีความสอดคล้องกับธุรกิจที่ Lesso Group ตั้งใจจะทำในภูมิภาคอาเซียน
“ธุรกิจของ Lesso Group มีผลิตภัณฑ์หลายตัวที่สอดคล้องกับแนวธุรกิจของ อีวี ไพรมัสฯ ซึ่งสินค้าของเรานั้นมีส่วนที่เกี่ยวข้อง และสามารถเดินหน้าไปกับธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าได้ ตัวอย่างเช่น แผงโซลาร์เซลล์ และชุด Power Storage ติดตั้งในโรงงาน หรือที่จอดรถ เพื่อชาร์จไฟให้รถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิขย์ จะช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งให้ธุรกิจได้ ดังนั้น Lesso Group ได้เล็งเห็นโอกาส และศักยภาพในการขยายตลาดเข้าสู่ตลาดประเทศไทย โดยการร่วมมือกับ อีวี ไพรมัสฯ ซึ่งเราสามารถสร้าง Concept ของการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และการสำรองไฟผ่าน Power Storage ไม่ว่าจะเป็นที่พักอาศัย หรือโรงงาน และนำไฟฟ้ากลับมาใช้ได้เมื่อต้องการ ทำให้เกิดการประหยัดพลังงาน และลดต้นทุนให้คนไทยได้เป็นอย่างดี”