ระเบียงรถใหม่
KIA EV5 เอสยูวีไฟฟ้า 100 % เตรียมเปิดตัวในไทยเร็วๆ นี้
บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัทแม่ เข้ามาลุยตลาดประเทศไทยเต็มตัว ตั้งแต่ 31 มกราคม 2567 โดยเตรียมพลิกโฉมนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าครั้งแรกในประเทศไทย กับ Kia EV9 รถเอสยูวีขนาดใหญ่ที่มาพร้อมดีไซจ์นล้ำอนาคต ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100 % เตรียมเปิดตัวในวันที่ 2 มีนาคม 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมแผนบุกเมืองไทยแบบเข้มข้น โดยมี Kia EV5 จ่อเปิดตัวตามมา
Kia EV5 เป็นรถ SUV Compact Crossover เปิดตัวครั้งแรกที่งาน Chengdu Motor Show 2023 เป็นรุ่นที่ 3 ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบทเตอรี EV ต่อจากรุ่น EV6 และ EV9 นอกจากนี้ ยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกที่ Kia ส่งออกจากประเทศจีน ซึ่งผลิตโดยบริษัทร่วมทุน Dongfeng Yueda Kia
Kia EV5 ถอดแบบมาจากรถต้นแบบ ผสานกับรถรุ่นเรือธง EV9 รุ่นพี่ ในร่างคอมแพคท์เอสยูวี กระจังหน้าดีไซจ์นเอกลักษณ์หน้าเสือ Tiger Face แบบทึบ
แถบไฟแบบ LED เป็นเส้นรูปตัว L และไฟ DRL ที่ออกแบบให้เป็นเส้นวางพาดยาวอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้า ที่มีสันเหลี่ยมมุมโฉบเฉี่ยว พร้อมติดตราโลโก KIA ไว้ที่ปลายของฝากระโปรง กันชนหน้ามีช่องดักอากาศทรงสี่เหลี่ยมคางหมูขนาดใหญ่
เส้นสายด้านข้างถูกถ่ายทอดมาจากรถต้นแบบ EV5 Concept กระจกมองข้างทรงเหลี่ยม มือเปิดประตูเป็นแบบราบเรียบไปกับตัวรถ ซุ้มล้อแถบวัสดุชิ้นงานสีดำ
ด้านท้ายมากับชุดไฟท้าย LED ที่ออกแบบให้เป็นเส้นรูปตัว C ที่เชื่อมต่อติดกัน เติมความดุดันด้วยกันชนท้ายขนาดใหญ่ สปอยเลอร์ด้านบนดีไซจ์นดุดัน มาพร้อมเสาอากาศครีบฉลาม
ตัวรถสร้างจากพื้นฐาน E-GMP (Electric Global Modular Platform) เป็นพแลทฟอร์มที่พัฒนาร่วมกับเพื่อนร่วมชาติอย่าง Hyundai ที่ใช้พแลทฟอร์มนี้ผลิตรถซีรีส์ Ioniq ทุกรุ่น รวมถึงรถไฟฟ้าของซับ-แบรนด์หรูอย่าง Genesis GV60 ด้วย
Kia EV9 มิติตัวรถมีความยาวอยู่ที่ 4,615 มม. ความกว้าง 1,875 มม. ความสูง 1,715 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,750 มม. น้ำหนักรถ 1,870 กก. โดยมีขนาดเล็กกว่า Tesla Model Y ซึ่ง Kia มองว่าเป็นคู่แข่งโดยตรง มีมิติตัวถังยาวxกว้างxสูง (มม.) 4,751x1,921x1,624. ระยะฐานล้อ 2,890 มม. ห้องโดยสารวางเลย์เอาท์คล้ายๆ กับ EV6 และ EV9 เป็นแบบ 2 ตอน 5 ที่นั่ง เบาะนั่งตอนที่ 2 พับได้แบบ 60:40
เบาะคู่หน้าออกแบบให้วางเชื่อมต่อกันผ่านคอนโซลกลาง จอทัชสกรีนสำหรับแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ จัดวางแบบลอยตัวเรียงไว้ในกรอบเดียวกัน คือ หน้าจอมาตรวัดดิจิทอล 12.3 นิ้ว และจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รวมทั้งหน้าจอควบคุมสภาพอากาศขนาด 5 นิ้ว
ปุ่มต่างๆ ทั่วทั้งห้องโดยสารจะถูกควบคุมให้เหลือน้อยที่สุด เฉพาะฟังค์ชันที่ใช้เป็นประจำเท่านั้น เช่น ระดับเสียง อุณหภูมิ AC และความเร็วพัดลม เป็นต้น โดยหันไปใช้วัสดุที่ยั่งยืน หมุนเวียนได้ และเป็นธรรมชาติ มีทั้งผ้า PET รีไซเคิลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และหนัง Bio-PU พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน 4 ก้าน แบบเดียวกับ EV9, ถาดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, พอร์ท USB-C และชุดไฟแอมเบียนท์ 64 โทนสี
รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ไร้สาย นอกจากนี้ ยังมาพร้อมหน้าจอ HUD
ขุมพลังไฟฟ้ามาพร้อม 2 ทางเลือกรุ่น Standard Range มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหน้า ให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร ด้วยแบทเตอรีจาก BYD ขนาด 58 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จ 530 กม. ตามมาตรฐาน CLTC
รุ่น Long Range มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหน้า ให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร
ด้วยความจุแบทเตอรี 81 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จ 720 กม. ตามมาตรฐาน CLTC และรุ่น Long Range AWD มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลังมากสุด 309 แรงม้า ความจุแบทเตอรี 81 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จ 650 กม. ตามมาตรฐาน CLTC
จากทั้ง 3 รุ่น ให้ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม. เท่ากัน รองรับการชาร์จเร็วแบบ DC สูงสุด 120 กิโลวัตต์
เพิ่มไฟในแบทเตอรีจาก 30-80 % ในเวลา 27 นาที ส่วนการชาร์จกระแสสลับ AC รองรับกำลังไฟในการชาร์จ 7 และ 11 กิโลวัตต์ โดยหัวชาร์จแบบ CCS Type 2 และ AC แบบ Type 2 สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ทั้งแบบ Normal Mode, Eco Mode, Sport Mode, Smart Mode ช่วยเพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 1 Speed Reduction Gear พร้อมระบบ i-Pedal–One Pedal Driving Function
มีความพยายามในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานใน EV5 โดยผสมผสานฟังค์ชัน Vehicle-to-Load (V2L) การจ่ายไฟให้อุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอก และ Vehicle-to-Grid (V2G) เป็นระบบการชาร์จอัจฉริยะช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถชาร์จในช่วงเวลาที่มีการใช้งานน้อย และคืนให้แก่ระบบไฟฟ้าในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนต้องการใช้ไฟมาก
Kia EV5 มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่บนทางหลวง Highway Driving Assist 2 (HDA2) ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาระยะห่าง รักษาตัวรถให้อยู่กลางเลน ระบบ ADAS อาทิ ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะควบคุมระยะไกล, ระบบช่วยหลีกเลี่ยงการชนขณะจอดรถ และระบบเตือนระยะห่างขณะจอด เพียงสัมผัสกุญแจอัจฉริยะ Kia Digital Key ลูกค้าสามารถใช้งานระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะระยะไกล 2 (RSPA 2) เทคโนโลยีนี้ช่วยให้รถสามารถจอดรถเองได้โดยไม่จำเป็นต้องให้คนขับช่วย ไม่ว่าจะเข้า หรือออกจากรถก็ตาม
สำหรับ Kia EV5 ที่เปิดวางจำหน่ายในเมืองจีน โดยมีราคาจำหน่ายระหว่าง 149,800-174,800 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 7.5-8.7 แสนบาท โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 9 สี รวมถึงตัวเลือกสีด้าน ซึ่ง Kia เรียกว่า “สีเงินไอวอรี”
Kia มีแผนที่จะนำ EV5 นำเข้าจากจีนเตรียมมาไทยช่วงไตรมาสที่ 3 และเป็น 1 ใน 3 รุ่นใหม่ของ Kia ต่อจากรุ่น EV9 และ Sorento เพื่อหวังครองส่วนแบ่ง 5 % ของตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เพิ่มการทำตลาดรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวให้มีสัดส่วนคิดเป็น 50 % ของยอดจำหน่ายทั้งหมด ก้าวขึ้นสู่ทำเนียบแบรนด์ที่มีการรับรู้สูงที่สุด 5 อันดับแรก และขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศให้เติบโตขึ้น 5 เท่าตัว
เรื่องโดย : วิธวินท์ ไตรพิศ
คอลัมน์ Online : ระเบียงรถใหม่ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/469198
พิสูจน์อักษร โดย : ธนธรณ์ โอฬาริกสกุล