รถล่าสุด
MG4 XPower แฮทช์แบคพลังไฟฟ้าสุดแรง ! 435 แรงม้า ราคาคาดว่าจะอยู่ที่ 1 ล้านบาทต้นๆ !
MG4 XPower ยังคงความเป็น “EV สายพันธุ์แท้” ที่มีความโดดเด่นในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่การเป็นยนตรกรรมที่พัฒนาบน Nebula Pure Electric Platform ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เหนือกว่าด้วยการเป็น EV สมรรถนะขั้นสูงขับเคลื่อน 4 ล้อ ของ MG ที่มาพร้อมกับขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ให้พละกำลังสูงสุด 435 แรงม้า (หรือ 320 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 61.2 กก.-ม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที ทั้งยังใช้เทคโนโลยี Rubik’s Cube Battery ขนาดความจุ 64 กิโลวัตต์ชั่วโมง มีระยะทำการสูงสุดเมื่อชาร์จเต็มที่ 480 กม. (มาตรฐาน NEDC)
โดยมีจุดเด่นของ MG4 Electric ไม่ว่าจะเป็นการกระจายน้ำหนักแบบสมมาตร 50:50 ตัวถังมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ (Low Centre of Gravity) กับช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังอิสระ แบบ 5-Link Suspension ลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนได้ดีเยี่ยม และช่วยให้ประสิทธิภาพในการเกาะถนนดียิ่งขึ้น เพิ่มเติมระบบ One Pedal เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบาย และทำให้ระยะทางการขับขี่เสถียรยิ่งขึ้น
ระบบความปลอดภัย ครอบคลุม 23 ระบบ การออกแบบภายนอกแบบสปอร์ทรอบคัน กับตัวถังสีใหม่สีเขียว (Wild Hunter Green) พร้อมด้วยหลังคาแบบทูโทน (Blacktop) ล้อแมกขนาด 18 นิ้ว และคาลิเพอร์เบรคสีส้มสุดร้อนแรง ภายในห้องโดยสารสีดำ โดยเสริมความสปอร์ทพรีเมียมด้วยวัสดุหุ้มเบาะที่ผสมผสานระหว่างหนังสังเคราะห์ และหนัง Alcantara สะดวกยิ่งขึ้นกับระบบอัจฉริยะ Intelligent Smart Access ที่คนขับสามารถเหยียบเบรคแล้วระบบการทำงานของรถจะสตาร์ทอัตโนมัติ และช่วยทำให้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องที่ง่ายด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART เต็มฟังค์ชัน
MG4 XPower ดีไซจ์นภายนอกสปอร์ทรอบคัน
• การออกแบบตัวรถใหม่แบบ Avant-Garde Inductive Design
• ไฟหน้า LED Galaxy Technology Matrix Headlights
• ไฟท้าย LED ลาย Cygnus Symbol Decorative Light
• หลังคาแบบทูโทน พร้อมสปอยเลอร์หลังแบบ Twin Arrow Wing
• ล้อแมกขนาด 18 นิ้ว
• มิติตัวถัง 4,287x1,836x1,516 มม. (ยาวxกว้างxสูง)
• ระยะความยาวฐานล้อ 2,705 มม.
• ระยะต่ำสุดจากพื้น 117 มม.
• เติมความเป็นสปอร์ทด้วยคาลิเพอร์เบรคสีส้ม XPower
ภายในห้องโดยสารเรียบง่ายแต่มีสไตล์ เน้นการใช้งานที่สะดวก เพื่อให้ดูโปร่งโล่งสบาย มาพร้อมความเหนือระดับ
• คอนโซลกลาง Floated Central Control Platform พร้อมอุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สาย (Wireless charger)
• ดีไซจ์นพวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน หุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง
• พวงมาลัย ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
• กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ
• หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Dual Screen แบบดิจิทอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display) และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ลำโพง 6 จุด
• ช่องจ่ายไฟ Power Outlet 12V
• รองรับการเชื่อมต่อมัลทิมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android
• พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB Type A และ Type C
• ระบบกรองอากาศ PM2.5
• เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง
• เบาะนั่งด้านหลังพนักพิง ปรับ 60:40
• โหมด Intelligent Smart Access เมื่อผู้ขับขี่อยู่ในตำแหน่งคนขับ เพียงเหยียบเบรคระบบการทำงานของรถจะสตาร์ทอัตโนมัติ
• ให้ความสปอร์ทพรีเมียมด้วยวัสดุที่ใช้หุ้มเบาะที่ผสมผสานระหว่างหนังสังเคราะห์ และหนัง Alcantara
Iconic Performance EV เลือดใหม่ที่ขับสนุก และเร้าใจ
เปิดมิติใหม่ให้แก่การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้ากับ MG4 XPower ที่มาพร้อมกับสมรรถนะ และการควบคุมที่เป็น “ต้นแบบ และมาตรฐานใหม่ของรถ EV ที่ขับสนุก และเร้าใจกว่าที่เคย”
• ขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor จำนวน 2 ตัว โดยมอเตอร์หน้า กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (150 กิโลวัตต์) และมอเตอร์หลัง กำลังสูงสุด 231 แรงม้า (170 กิโลวัตต์) รวมให้พละกำลังสูงสุดที่ 435 แรงม้า (320 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 61.2 กก.-ม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที
• สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดที่ 200 กม./ชม.
• มาพร้อมกับเทคโนโลยี Rubik’s Cube Battery ขนาดความจุ 64 กิโลวัตต์ชั่วโมง (NMC battery) สามารถวิ่งได้ระยะทาง 480 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC
• ระบบ One Pedal ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น และทำให้ระยะทางการขับขี่เสถียรยิ่งขึ้น
• แบทเตอรีมาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำ และฝุ่น
• ระบายความร้อนด้วยระบบ Liquid Cooling System
• ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ All Wheel Drive
• ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 4 ระดับ ได้แก่ ระดับต่ำ กลาง สูง และแบบแปรผันตามการขับขี่ (Adaptive)
• ระบบโครงสร้างพวงมาลัยรูปแบบใหม่ Dual Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า
• รัศมีวงเลี้ยว 5.3 เมตร
• การกระจายน้ำหนักแบบสมมาตร 50:50 ควบคู่กับการออกแบบลักษณะ Low Centre of Gravity ที่ให้จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำเพื่อการเกาะถนนที่ดีเยี่ยม
• เบรคแบบจาน 4 ล้อ พร้อมระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบอิสระ 5-Link Suspension
• โหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ ECO, Normal, Sport, Custom และ Snow
*ทดสอบตามมาตรฐานความประหยัดพลังงาน New European Driving Cycle (NEDC)
Iconic Safety ขับขี่อย่างมั่นใจในทุกเส้นทางกับระบบความปลอดภัยที่ครอบคลุม
MG4 XPower มาพร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) ปรับแต่งระบบช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension และมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบคัน ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน Advanced Synchronized Protection System 23 ระบบ ได้แก่
• ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรคค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
• ระบบป้องกันล้อลอค ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรค EBD
• ระบบเสริมแรงเบรคด้วยอีเลคทรอนิคส์ EBA (Electronic Brake Assist)
• ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
• ระบบควบคุมการเบรคในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
• ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรคฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
• ระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
• ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
• ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)
• ระบบช่วยเบรกขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Braking)
• ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
• ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
• ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
• ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
• ระบบ One Pedal ช่วยให้ขับขี่ได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ Isofix ระบบลอคประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer และระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (Follow Me Home)
Easy Charge ง่าย สะดวกสบาย ทุกการชาร์จ ด้วยสถานีชาร์จที่ครอบคลุม MG4 XPower ทำให้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องง่าย และสะดวกสบาย ด้วยระบบการชาร์จ 2 รูปแบบ รองรับทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge พร้อมสถานีอัดประจุไฟฟ้าของ MG Super Charge ที่ติดตั้งแล้วกว่า 146 แห่งทั่วประเทศ
• ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 10-80 % ใช้เวลาประมาณ 26 นาที* ที่ความเร็วสูงสุด 140 กิโลวัตต์ชั่วโมง
• ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ผ่าน MG Home Charger 10-100 % ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง 30 นาที* ที่สูงสุด 11 กิโลวัตต์ชั่วโมง
• รองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้แก่อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบทเตอรีคงเหลือ และกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า
พร้อมด้วย ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART ที่ช่วยยกระดับคุณค่า และประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์ MG ที่ประกอบด้วย
ระบบตรวจเชคอัจฉริยะ (Smart Check)
• ระบบตรวจสอบแบทเตอรี Battery Doctor บันทึก และวิเคราะห์ พฤติกรรมการใช้งาน พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลรักษาแบทเตอรีเพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น
• ระบบสั่งการ และระบบค้นหารถ Find My Car
• ระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์
• ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ
• ระบบตรวจสอบสถานะแบทเตอรี การชาร์จ และสถานีชาร์จ
ระบบสั่งการอัจฉริยะ (Smart Command)
• กุญแจดิจิทอล
• ระบบสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย
• ระบบควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
• ระบบโทรออก-รับสายกรณีฉุกเฉิน
• ระบบสั่งการชาร์จ สถานี MG Super Charge ผ่านทางสมาร์ทโฟน
ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Smart Connect)
• ระบบนำทาง Navigation พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time
• ระบบช่วยค้นหาร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง
• อัพเกรดระบบผ่านออนไลน์
• ระบบเล่นเพลงออนไลน์แบบสตรีมิง
• อัพเดทข้อมูลพยากรณ์อากาศ
• ระบบเรียกดูข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน
* อุปกรณ์ที่ติดตั้งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น
โดย MG4 XPower พร้อมเผยโฉมจริงอย่างเป็นทางการ ให้คนไทยได้สัมผัสกับความเร็ว และแรงครั้งใหม่ในงาน “MG Everyday Electric” ระหว่างวันที่ 13-19 มีนาคมนี้ ที่ลานพโรโมชัน ฮอลล์ เซนทรัล ลาดพร้าว และมีกำหนดประกาศราคา และเปิดตัวสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 25 มีนาคม ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45