กลุ่มตรีเพชรเดินหน้าจัดการแข่งขันศึกมวยไทย พร้อมยกระดับกีฬาต่อสู้ประจำชาติไทยถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ด้วยการเปิดตัวรายการ “Isuzu Thailand Championship” โดยปรับรูปแบบจาก “ศึกอีซูซุคัพ” มวยไทยระดับตำนานเป็นศึกชิงแชมพ์การแข่งขันนักมวยไทยในรูปแบบยกทีม ค้นหาสายเลือดนักสู้รุ่นใหม่ทั่วประเทศไทย เข้าสู่วงการมวยไทย และเป็นตัวแทนนักชกไทยในสังเวียนมวยโลก Thai Fight พร้อมชิงถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรถพิคอัพ Isuzu D-MAX Spark 1.9 Ddi ทั้งหมด 3 คัน มูลค่ารวมกว่า 1,700,000 บาท
ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “Isuzu ได้จัดการแข่งขันมวยรอบถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ และยาวนานที่สุดของไทยมากกว่า 3 ทศวรรษ จนได้ชื่อว่า “มวยไทยทางทีวีระดับตำนาน” ปีนี้เราได้ปรับปรุงรูปแบบใหม่ เป็นการแข่งขัน 18 สุดยอดนักมวยจากทั่วประเทศ เพื่อชิงแชมพ์ประเทศไทย ซึ่งนับว่าเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่อีกครั้ง ในชื่อ “Isuzu Thailand Championship” ผู้ชนะเลิศการแข่งขันในปี 2024 นี้จะได้รับถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรถพิคอัพ Isuzu D-MAX รุ่นใหม่ จำนวน 3 คัน พร้อมเข็มขัดแชมพ์ และสิทธิ์ในการเป็นตัวแทนของประเทศไทยในการแข่งขัน Thai Fight 2024 อีกด้วย”
การแข่งขันมวย Isuzu Thailand Championship เป็นการยกระดับมวยไทยถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ให้สูงยิ่งขึ้น เพิ่มความสนุกเร้าใจตลอดเกมการแข่งขัน ด้วยเกมการต่อสู้ชิงไหวชิงพริบของนักสู้บนสังเวียนมวยไทย พร้อมความเดือดทะลุจอด้วยการเปลี่ยนจากมวยสวมนวมเป็นมวยคาดเชือก โดยการจัดแข่งขันชกมวยแบบ “ยกทีมปะทะกัน” ซึ่งThai Fight International Boxing Association (TFIBA) หรือสมาคมกีฬามวยไทยไฟท์นานาชาติ เป็นผู้รับรองการแข่งขัน ด้วยการนำนักมวยท้องถิ่นในแต่ละภูมิภาค จัดเป็นทีมๆ ละ 3 คน เป็นตัวแทนของภูมิภาค โดยแบ่งเป็น 6 ภูมิภาค นักมวย 18 คน ดังนี้
1. ภาคเหนือ
พิกัด 65 กิโลกรัม รุ่น เฟเธอร์เวท ได้แก่ กล้าศึก ส.รัตนพล
พิกัด 67 กิโลกรัม รุ่น ซูเพอร์เฟเธอร์เวท ได้แก่ ซามูไร สีโอปอล
พิกัด 69 กิโลกรัม รุ่น มีนี มิดเดิลเวท ได้แก่ วรจักรเล็ก เกียรติฉัตรชัย
2. ภาคอีสานตอนบน
พิกัด 65 กิโลกรัม รุ่น เฟเธอร์เวท ได้แก่ ชัยบุรี ลูกสิงห์นำชัย
พิกัด 67 กิโลกรัม รุ่น ซูเพอร์เฟเธอร์เวท ได้แก่ เพชรตะวัน เกียรติเมืองปรางค์
พิกัด 69 กิโลกรัม รุ่น มีนี มิดเดิลเวท ได้แก่ ศักดิ์ณรงค์ ป้ายนต์ผลไม้
3. ภาคอีสานใต้
พิกัด 65 กิโลกรัม รุ่น มีนี มิดเดิลเวท ได้แก่ เพชรเอก บ้านไร่มณฑา
พิกัด 67 กิโลกรัม รุ่น ซูเพอร์เฟเธอร์เวท ได้แก่ ปูซาน ปราสาทหินพิมาย
พิกัด 69 กิโลกรัม รุ่น มีนี มิดเดิลเวท ได้แก่ กิตติศักดิ์ ศิษย์ช่างเปา
4. ภาคตะวันออก+ตะวันตก
พิกัด 65 กิโลกรัม รุ่น มีนี มิดเดิลเวท ได้แก่ ธงชัย เพชรรุ่งเรือง
พิกัด 67 กิโลกรัม รุ่น ซูเพอร์เฟเธอร์เวท ได้แก่ ฉลามดำ ที.บี.เอ็ม.ยิม
พิกัด 69 กิโลกรัม รุ่น มีนี มิดเดิลเวท ได้แก่ สิบสองปันนา เกียรติวินัย
5. ภาคกลาง
พิกัด 65 กิโลกรัม รุ่น มีนี มิดเดิลเวท ได้แก่ เพชรภาคใหม่ ช.ชนะมวยไทย
พิกัด 67 กิโลกรัม รุ่น ซูเพอร์เฟเธอร์เวท ได้แก่ ยอดเทวินทร์ ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
พิกัด 69 กิโลกรัม รุ่น มีนี มิดเดิลเวท ได้แก่ ชนะชัย ช.ชนะมวยไทย
6. ภาคใต้
พิกัด 65 กิโลกรัม รุ่น มีนี มิดเดิลเวท ได้แก่ เมืองทรัพย์ เกียรติทรงฤทธิ์
พิกัด 67 กิโลกรัม รุ่น ซูเพอร์เฟเธอร์เวท ได้แก่ รักณรงค์ ช.ณรงค์ศักดิ์
พิกัด 69 กิโลกรัม รุ่น มีนี มิดเดิลเวท ได้แก่ ยอดแสนชัย นายกเอท่าศาลา
รูปแบบการแข่งขัน
ทำการแข่งขันชกในรูปแบบมวยคาดเชือก แข่งขันชกกัน 3 ยก จะมีทีมเข้าแข่งขัน 6 ทีม ตามภูมิภาคที่กำหนดไว้ และทำการแข่งขันแบบยกทีม ซึ่งนักมวยทั้ง 3 คน 3 รุ่นน้ำหนักของแต่ละทีม จะต้องแข่งขันชกเพื่อชัยชนะในการสะสมคะแนน ซึ่งทุกทีมจะแข่งขันแบบพบกันหมด ทั้ง 6 ทีม โดยทุกทีมจะทำการแข่งขันในรอบแรก ทีมละ 5 ไฟท์ รวมการแข่งขันในรอบแรก และมีการเก็บคะแนนแบบระบบ League โดยกำหนดการให้คะแนน ดังนี้
• ชนะนอค ได้ 3 แต้ม
• ชนะคะแนน ได้ 2 แต้ม
• ในกรณีแข่งขันชกครบ 3 ยก ผลการตัดสินออกมา “เสมอ” จะทำการแข่งขันชกกันต่อในยกที่ 4 ซึ่งจะเป็นยกตัดสิน เพื่อหาผู้ชนะ เมื่อทุกทีมทำการแข่งขันครบทุกทีมแล้ว จะนำเอาทีมที่มีคะแนนรวมมากเป็นอันดับที่ 1-4 เข้ารอบสองต่อไป แล้วทำการแข่งขันกันต่อ เพื่อหาทีมที่ดีที่สุด
การแข่งขันรอบแรก จะมีจำนวนทีม 6 ทีม นำมาแข่งขันแบบพบกันหมด โดยทุกทีมจะทำการแข่งขันในรอบแรก ทีมละ 5 ไฟท์ แล้วเอาทีมที่มีคะแนนเก็บมากที่สุด 4 อันดับแรก นำเข้าสู่รอบสอง (รอบ 4 ทีมสุดท้าย)
การแข่งขันรอบสอง จะมีจำนวนทีม 4 ทีม นำมาแข่งขันแบบไขว้ทีม คือ ด้วยการนำเอาทีมที่มีคะแนนรวมมากเป็นอันดับที่ 1 มาแข่งขันกับทีมที่มีคะแนนรวมมากเป็นอันดับที่ 4 และนำทีมที่มีคะแนนรวมมากเป็นอันดับที่ 2 มาแข่งขันกับทีมที่มีคะแนนรวมมากเป็นอันดับที่ 3 ในกรณีที่ทีมมีคะแนนผลการแข่งขันรวมเท่ากัน ก็จะนำเอาผลการให้คะแนนย่อยในแต่ละยก ของแต่ละคู่ นำมารวมกันทั้ง 3 คู่ ออกมาเป็นคะแนนรวมตัดสิน ซึ่งจะทำการแข่งขันยกทีมเพียงแค่ 2 ไฟท์ ทีมใดแพ้จะตกรอบทันที และทีมที่ชนะจะได้เข้ารอบชิงชนะเลิศในสังเวียน Thai Fight และนักมวยทีมชนะเลิศ จะเป็นนักมวยในสังกัด Thai Fight
โดยทีมที่เป็นแชมพ์จะได้รับถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเข็มขัดแชมพ์ และรถพิคอัพ Isuzu D-MAX Spark 1.9 Ddi คนละ 1 คัน รวมทั้งหมด 3 คัน เป็นมูลค่ารวมกว่า 1,700,000 บาท พร้อมได้รับสิทธิ์เป็นตัวแทนนักชกไทยในสังเวียนมวยโลก Thai Fight 2024
ผลการแข่งขันในไฟท์ที่ 1
พิกัด 65 กิโลกรัม รุ่น มีนี มิดเดิลเวท
ภาคกลาง - เพชรภาคใหม่ ช.ชนะมวยไทย (แพ้คะแนน) ภาคตะวันออก - ธงชัย เพชรรุ่งเรือง
ภาคเหนือ - กล้าศึก ส.รัตนพล (ชนะคะแนน) ภาคอีสานเหนือ - ชัยบุรี ลูกสิงห์นำชัย
พิกัด 67 กิโลกรัม รุ่น ซูเพอร์เฟเธอร์เวท
ภาคเหนือ - ซามูไร สีโอปอล (ชนะนอค ยก 2) ภาคอีสานเหนือ - เพชรตะวัน เกียรติเมืองปรางค์
ภาคกลาง - ยอดเทวินทร์ ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง (เสมอ) ภาคตะวันออก - ฉลามดำ ที.บี.เอ็ม.ยิม
พิกัด 69 กิโลกรัม รุ่น มีนี มิดเดิลเวท
ภาคกลาง - ชนะชัย ช.ชนะมวยไทยยิม (ชนะคะแนน) ภาคตะวันออก - สิบสองปันนา เกียรติวินัย
ภาคเหนือ - วรจักรเล็ก เกียรติฉัตรชัย (ชนะคะแนน) ภาคอีสานเหนือ - ศักดิ์ณรงค์ ป้ายนต์ผลไม้