Nissan จุดประกายสร้างความตื่นเต้นในงาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 กับ Nissan Hyper Tourer รถยนต์ไฟฟ้ามีนีแวนต้นแบบ ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ จัดแสดงในไทยเป็นประเทศแรก หลังเปิดตัวในงาน เจแปน โมบิลิที โชว์ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
อิซาโอะ เซคิกุจิ ประธาน นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย)ฯ และ Nissan Asian กล่าวว่า Nissan เชื่อมั่นในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนขณะเดินทางด้วยกัน ดังนั้น รถยนต์ต้นแบบ Hyper Tourer จึงสะท้อนมุมมองใหม่ของ Nissan ที่มีต่อการเดินทางด้วยกันได้อย่างชัดเจน ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประชากรในอาเซียน เราเชื่อว่าแนวคิดการพัฒนารถต้นแบบ Nissan Hyper Tourer จะช่วยให้เรายกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในอนาคต และมีความสุขกับการเดินทางได้อย่างหรูหรา สะดวกสบาย
Nissan Hyper Tourer เป็นหนึ่งในรถต้นแบบ 5 รุ่น ที่ Nissan เปิดตัวในงาน เจแปน โมบิลิที โชว์ 2023 มีนีแวนรุ่นนี้ ผสมผสานจิตวิญญาณของการให้บริการแบบญี่ปุ่นเข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ การขับขี่อัตโนมัติ ฟังค์ชัน V2X หรือ (Vehicle-to-Everything) และแบทเตอรีไฟฟ้าความจุสูงยังช่วยให้สามารถจ่ายไฟฟ้าให้แก่บ้าน ร้านค้า และสำนักงาน ขณะเดินทาง หรือทำกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆ
รูปลักษณ์ภายนอกของรถยนต์รุ่นนี้สื่อถึงความรู้สึกสบายที่มาจากภายใน ด้วยรูปโฉมภายนอกตัวถังที่เรียบ ลื่นไหล มีเส้นสายที่เฉียบคม เข้ากันได้ดีกับรูปลักษณ์ที่ดูโอ่อ่ากลมกลืนกับภูมิทัศน์โดยรอบ พื้นที่ห้องโดยสารภาย ในกว้างขวางเป็นผลมาจากวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าของ Nissan ซึ่งรวบรวมชิ้นส่วนขนาดเล็ก และแบทเตอรีแบบ Solid-State ไว้อย่างกะทัดรัด และลงตัว เพื่อให้เกิดนวัตกรรมยานยนต์ที่มีความสร้างสรรค์ ขณะที่คอนโซลเหนือศีรษะ และไฟส่องสว่างมีลวดลายแบบคูมิโกะ และโคอุชิ อันเป็นลักษณะเฉพาะแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่สร้างความรู้สึกหรูหรา ในขณะที่พื้นห้องโดยสารประกอบด้วยแผง LED แสดงภาพคล้ายแม่น้ำ และท้อง ฟ้า ช่วยสร้างความผ่อนคลายที่ผสมผสานสไตล์ ที่มีทั้งความเป็นดิจิทอล และความธรรมชาติเข้าด้วยกันอย่างลง ตัว
รถยนต์ต้นแบบคันนี้มาพร้อมกับระบบควบคุมการขับขี่ e-4ORCE จาก Nissan จะช่วยควบคุมล้อทั้ง 4 ได้อย่างแม่นยำทั้งตอนเร่ง และชะลอความเร็ว ด้วยการขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถใช้เวลากับเพื่อนร่วมทางได้อย่างเต็มที่ เบาะหน้าสามารถปรับหมุนได้ 360 องศา ช่วยให้ผู้โดยสารตอนหน้า และตอนหลังสามารถหันมาพูดคุยกันได้อย่างสะดวก ผู้โดยสารตอนหลังสามารถใช้จอแสดงผลแบบสวมใส่ (Wearable Display) เพื่อดู และใช้งานระบบนำทาง และควบคุมเครื่องเสียงบนจอแสดงผลตรงกลางเบาะหน้า ช่วยให้ผู้โดย สารทุกคนรู้สึกสะดวกสบาย และมีส่วนร่วมในการเดินทาง นอกจากนี้ ระบบ AI สามารถตรวจจับข้อมูลแบบ Biometrics อาทิ คลื่นสมอง อัตราการเต้นของหัวใจ การหายใจ และเหงื่อ สามารถเลือกเพลงอัตโนมัติ และปรับบรรยากาศในห้องโดยสารให้เหมาะกับอารมณ์ในช่วงนั้นๆ
Nissan Hyper Tourer สะท้อนแนวคิดรถมีนีแวนแห่งอนาคต ในบูท Nissan ยังมีรถยนต์ที่พร้อมให้ลูกค้าเป็นเจ้า ของครบครัน โดยอีกหนึ่งไฮไลท์ประจำบูท ได้แก่
Nissan Kicks E-Power Star Edition รถยนต์คอมแพคท์ เอสยูวี ที่มากับเทคโนโลยี E-Power ที่ให้ประสบ การณ์ในการขับขี่แบบรถยนต์ไฟฟ้า 100 % โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการหาสถานีชาร์จ นอกจากนั้น ยังมาพร้อมเทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ E-Pedal Step สามารถเร่ง และชะลอความเร็วได้ในคันเร่งเดียว รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงรอบคัน "360 Degree Safety Shield" ให้ความมั่นใจทุกการขับขี่ Nissan Kicks E-Power Star Edition ตกแต่งเพิ่มเติมจากรุ่นมาตรฐานในเกรด VL โดยเพิ่มเติมความสปอร์ทพรีเมียมรอบคัน ด้วยชุดตก แต่งวัสดุโทนสีดำ 10 รายการ ทั้งภายนอก และภายใน ได้แก่ กระจังหน้าตัววี คิ้วกันชนหน้าสีดำ กระจกมองข้างสีเงิน สติคเกอร์สัญลักษณ์ Star Edition ที่ตัวถังรถด้านข้าง สัญลักษณ์ Star Edition ด้านหลัง พนักพิงศีรษะคู่หน้า และคิ้วบันไดสแตนเลสส์ ชุดตกแต่งรอบปุ่มควบคุมชุดปรับอากาศสีดำ และชุดพรมพร้อมผ้ายางปูพื้น โดย Nissan Kicks E-Power Star Edition มีราคาเพิ่มขึ้นจากรุ่น มาตรฐานในเกรด VL 19,900 บาท
นอกจากนี้ Nissan ยังนำรถยนต์รุ่นยอดนิยมมาเสริมทัพในงาน ได้แก่ Nissan Almera ใหม่ คอมแพคท์ซีดานที่ “แรงจริง จัดให้” ด้วยเครื่องยนต์ HRA0 ขนาด 1.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุดถึง 100 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 152 นิวตันเมตร (Nm) ให้อัตราเร่งที่แรง และรวดเร็ว ให้ทุกการเดินทางสนุกเต็มพิกัด รูปลักษณ์ปราดเปรียวมากขึ้นด้วยกระจังหน้าคอนเซพท์ Next-Generation V-Motion และสีตัวถังทันสมัยเป็นเอกลักษณ์อย่าง Gray Sky Pearl นอกจากนี้ เทคโนโลยี Nissan Connect Services ให้การเชื่อมต่อระหว่างผู้ขับขี่ และรถผ่านสมาร์ทโฟน แอพพลิเคชัน* เสริมด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย และความสะดวกสบายจากรถพรีเมียมสู่คอมแพคท์ซีดาน อาทิ เทคโนโลยีเซนเซอร์ตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tire Pressure Monitoring System-TPMS) เทคโน โลยีเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Assist-HBA) และเทคโนโลยีแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning-LDW) รวมถึงการติดตั้งฟังค์ชัน SOS เพื่อขอความช่วยเหลือจากศูนย์ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินได้ทันทีผ่านระบบเครื่องเสียงภายในรถยนต์ เมื่อเกิดเหตุต่างๆ
Nissan Navara รถกระบะที่ทุกรุ่นทนถึงใจ ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Nissan Navara Single Cab ซึ่งได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าที่ต้องการรถกระบะใช้งานหนัก และวางไจได้ ด้วยโครง สร้างโมโนเฟรมแชสซีส์ทำจากเหล็กกล้าชิ้นเดียวตลอดคัน (Fully Boxed Frame) รองรับทุกการบรรทุกหนักได้อย่างจุใจ หรือ Nissan Navara Pro-4X และ Nissan Navara Black Edition ที่ให้ผู้ขับขี่สนุกกับทุกการเดินทาง การผจญภัย และการใช้งานทั่วไป ด้วยเครื่องยนต์ทรงพลัง YS23DDTT แบบ 4 สูบ DOHC เทอร์โบคู่ ความจุ 2.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (Ps) แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร (Nm) เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ที่สามารถเลือกโหมดการขับขี่แบบแมนวล (M Mode) ได้เพื่อความสนุกสนาน ควบคุมได้ดังใจ ให้ประโยชน์ใช้ สอย และความสะดวกเต็มพิกัด กับฝาท้ายแบบช่วยผ่อนแรงในการเปิด/ปิด และขนของที่กระบะได้สะดวก ตอบโจทย์การบรรทุกสัมภาระทั้งขนาดใหญ่ และเล็ก
Nissan Terra Sport รถยนต์แบบ PPV ที่ “คันเดียวจบ ครบเกินคุ้ม” ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย และความบัน เทิงแบบครบครัน ห้องโดยสารกว้างขวางตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร และเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ให้การขับขี่นุ่มนวลแต่ทรงพลัง ประหยัดน้ำมัน มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ไปได้ทุกเส้นทาง อุ่นใจกับ "360 Degree Safety Shield" เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ระบบความบันเทิงระดับไฮเอนด์ด้วยเครื่องเสียงจาก Bose Premium Audio พร้อมลำโพงคุณภาพสูง 8 ตำแหน่ง จอสำหรับผู้โดยสารด้านหลังขนาด 11 นิ้ว พร้อมเชื่อมต่อสมาร์ททีวี หรือ HDMI เพิ่มความบันเทิงให้แก่ผู้โดยสาร
นอกจากนี้ Nissan ยังจัด “โปรโมชันใหญ่ Say Yes” แคมเปญส่งเสริมการขายต้อนรับบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เพื่อให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของยนตรกรรมยอดนิยมได้ง่ายมากขึ้น ด้วยความหลากหลาย สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าของรถยนต์แต่ละรุ่น โดยมีตั้งแต่ดอกเบี้ย 0 % ไปจนดาวน์เริ่มต้น 9,999 บาท หรือระยะเวลาในการผ่อนนานสูงสุด 96 เดือน** ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ภายในงาน รวมถึงที่โชว์รูมผู้จำหน่าย Nissan ทั่วประเทศ หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการลูกค้า Nissan โทร. 0-2 401-9600 หรือเวบไซท์ของ Nissan ประเทศไทย www.nissan.co.th
* เฉพาะสมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับ
** ขึ้นกับเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด