ดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ร่วมถ่ายทอดแนวคิดของ OR ในฐานะผู้บุกเบิกการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำในการเสวนาในหัวข้อ “Energy Transition การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ”
ความมุ่งมั่นของ OR ในการปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่ OR ให้ความสำ คัญมาโดยตลอด และชี้ให้เห็นถึงบทบาทของ OR ในการเป็นผู้บุกเบิกสู่การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำผ่าน ทางพแลทฟอร์มต่างๆ ของ OR ซึ่งครอบคลุมทั้งในกลุ่มธุรกิจ Mobility และกลุ่มธุรกิจ Lifestyle เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี คศ. 2030 และ Net Zero ปี 2050 ผ่านกลยุทธ์ 3 ด้าน ประกอบด้วย
• การบุกเบิกด้านพลังงานแห่งอนาคต เพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านของการใช้พลังงาน (Pioneering The Low Carbon Shift : OR’s Mobility Solution) ไม่ว่าจะเป็นการหนุนการใช้พลังงานสะอาดด้วยการติดตั้งเครื่องชาร์จ EV Station PluZ ครอบคลุมเส้นทางหลัก 77 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมตั้งเป้าขยายหัวชาร์จให้ครบ 7,000 หัวชาร์จ ในปี พศ. 2573 (คศ. 2030) นอกจากนี้ ยังเสริมความแข็งแกร่งด้านพลังงานแห่งอนาคต (Future Energy) ด้วยการเปิดสถานีต้นแบบเติมไฮโดรเจนสาหรับรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV) แห่งแรกของประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และบริษัท บางกอกอินดัส เทรียลแก๊ส จำกัด เพื่อขยายผลการขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาดหลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงยังได้ร่วมกับการบินไทยทดลองนำร่องใช้งานน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพแบบยั่งยืน (SAF)
• การพัฒนา Platform แห่งอนาคต เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน และการใช้ชีวิตที่หลากหลาย (Propelling Seamless Energy Transition : OR’s Network of The Future) ด้วยการเป็นผู้บุกเบิกการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ผ่านพแลทฟอร์มแห่งอนาคต (Future Platform) โดย OR ได้เปิด PTT Station Flagship วิภาวดี 62 สถานีบริการต้นแบบในอนาคต ซึ่งถือเป็นต้นแบบ “Green Station” โดยใช้เทคโนโลยีพลัง งานสะอาด (Renewable Energy) 100 % ผ่านการใช้พลังงานจาก Solar Rooftop เพื่อใช้ภายในสถานีบริการและร้านค้าที่ OR ดำเนินการ พร้อมทั้งได้ติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานผ่านแบทเตอรี (G-Box) จากกลุ่มบริษัทในเครือ Nuovo Plus เพื่อจัดการการใช้พลังงานไฟฟ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด และการซื้อพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบการใช้เอกสารสิทธิ์เพื่อยืนยันการใช้พลังงานหมุนเวียน หรือ REC (Renewable Energy Certificate) รวมทั้งอยู่ระหว่างการพัฒนาการนำเทคโนโลยี AI-CCTV มาช่วยคำนวณคาร์บอนของรถที่เข้า-ออก ในสถานีบริการเพื่อร่วมกันลดการปล่อยคาร์บอน
• การผลักดันให้ห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจสู่ความเป็น Green ตลอดทั้งระบบนิเวศน์ของ OR (Promoting Green value Chain : OR’s Ecosystem) ผ่านโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาเมล็ดกาแฟแบบยั่งยืน (Green Sourcing) ซึ่งประกอบไปด้วย การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ ส่งเสริมการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน โดยปรับเปลี่ยนระบบการเกษตรในรูปแบบการปลูกเชิงเดี่ยว สู่การสร้างป่าเชิงนิเวศน์ในพื้นที่ปลูกกาแฟ และการรับซื้อเมล็ดกาแฟจากเกษตรกรโดยตรง โดยล่าสุด OR ได้เปิดจุดรับซื้อ และโรงแปรรูปกาแฟ Cafe Amazon อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจุดรับซื้อเมล็ดกาแฟกะลา Arabica จากเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อรับซื้อเมล็ดกาแฟจากเกษตรกรโดยตรงในราคาที่เป็นธรรม นอกจากนี้ OR ยังบุก เบิกโครงการด้าน Green Logistics ด้วยการนำร่องใช้รถไฟฟ้าขนาดใหญ่ขนส่งเมล็ดกาแฟดิบเส้นทางระยะไกลรายแรกของไทย ตลอดจนผลักดันการปรับรูปแบบการขนส่งผลิตภัณฑ์ เพื่อมุ่งเน้นการลดคาร์บอน โดยการขนส่งน้ำมันผ่านทางท่อมากขึ้น อีกทั้งยังมุ่งเน้นการใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ในการปฏิบัติงาน (Green Operation) รวมถึงการปรับให้ทั้ง PTT Station หรือ Cafe Amazon เป็น Green Outlet ที่ใช้พลังงานสะอาด และการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในร้าน Cafe Amazon
นอกจากนี้ OR ยังได้ดำเนินโครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน โดยได้ร่วมกับหลากหลายหน่วยงานในการส่งเสริมการปลูก และรับซื้อกาแฟจากเกษตรกรเพื่อให้เกษตรกรมีช่องทางการจำหน่ายเมล็ดกาแฟที่มั่นคง มีตลาดที่แน่นอน ในระบบราคาที่เป็นธรรม (Fair Trade) ควบคู่กับการพัฒนาความรู้ให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟมาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี 2558-2566 OR ได้สนับสนุนเกษตรกรด้วยการเป็นตลาดรับซื้อกาแฟสารจากเกษตร กรไทยรวมแล้วกว่า 6,109 ตัน (6,109,000 กก.) หรือคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1,100 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายว่าภายในปี พศ. 2570 จะสามารถขยายการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเป็นแปลงปลูกกาแฟ และไม้ร่มเงารวมทั้งสิ้น 4,600 ไร่ ส่งเสริมอาชีพให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ 1,800 ครัวเรือน อย่างยั่งยืน และเป็นตลาดรับซื้อในระบบ Fair Trade สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรกว่า 200 ล้านบาท/ปี อีกทั้งยังมีแนวคิดในการพัฒนาอุทยาน Cafe Amazon บนพื้นที่กว่า 300 ไร่ ณ ตำบลกล้วยแพะ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ Cafe Amazon ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) ของ Cafe Amazon ให้ยั่งยืน
OR มุ่งตอบโจทย์วิถีแห่งอนาคต ผ่านแนวทาง SDG ในแบบฉบับของ OR ที่คำนึงถึงมิติสังคม ชุมชน สิ่งแวด ล้อมควบคู่การเติบโตทางธุรกิจ ด้วยแนวคิดการสร้างโอกาสให้คนตัวเล็กเพื่อยกระดับสังคมชุมชน (S-Small) สร้างการเติบโตผ่านพแลทฟอร์มของ OR (D-Diversified) ตลอดจนการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ (G-Green) ซึ่ง OR ได้นำไปสู่การลงมือปฏิบัติจริงแบบ In Action ตั้งแต่กลยุทธ์ แผนปฏิบัติการ และเป้าหมายธุรกิจจนเกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อก้าวที่มั่นคงสู่เป้าหมายการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนในปี 2030 (OR 2030 Goals) ที่ครอบคลุมทั้งสังคมชุมชน สิ่งแวดล้อม และผลการดำเนินการที่ดีอย่างยั่งยืนต่อไป