OR เผยภาพรวมผลการดำเนินงาน 9 เดือนของปี 2567 มีกำไรสุทธิ 4,651 ล้านบาท ซึ่งปรับลดลง โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจ Mobility ที่ผลประกอบการลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก และสภาพตลาดที่แข่งขันสูง รวมทั้งปริมาณการขายที่ลดลง สวนทางกับกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ที่ผลการดำเนินงานแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากมีรายได้ขาย และบริการเพิ่มขึ้น 8.1 % และกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสือมราคา ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA ) เพิ่มขึ้น 5.2 % อีกทั้ง OR มีภาพรวมค่าใช้จ่ายดำเนินการปกติสุทธิปรับลดลง 4.6 % ตามการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ คาดไตรมาส 4 จะปรับตัวดีขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจตามสภาพเศรษฐกิจ และการเดินทางท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี
ดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน 9 เดือนของปี 2567 OR มีกำไรสุทธิ 4,651 ล้านบาท ลดลง 57.3 % รายได้ขาย และบริการ 538,054 ล้านบาท ลดลง 39,024 ล้านบาท หรือลดลง 6.8 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แม้ว่ากลุ่มธุรกิจ Mobility จะมีผลประกอบการอ่อนตัวลงตามสภาพการแข่งขัน และแนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง แต่กลุ่มธุรกิจ Lifestyle ยังคงแข็งแกร่ง โดยมีรายได้ขายและบริการเพิ่มขึ้น 1,316 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.1 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้นของทั้งธุรกิจค้าปลีกอาหาร และเครื่องดื่มและธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ และมี EBITDA จำนวน 12,779 ล้านบาท ลดลง 5,904 ล้านบาท หรือลดลง 31.6 % เมื่อเทียบกับช่วงเว ลาเดียวกันของปีก่อน โดยลดลงจากกลุ่มธุรกิจ Mobility และกลุ่มธุรกิจ Global ที่ภาพรวมผลประกอบการที่อ่อนตัวลงจากราคาน้ำมันในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม EBITDA ของกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ปรับเพิ่มขึ้นจากธุรกิจค้าปลีกอาหาร และเครื่องดื่ม ถึงแม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายพิเศษ (Extra Item) เนื่องจากการยุติธุรกิจ Texas Chicken โดย OR มีเครือข่ายธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่มรวม 4,462 สาขา ไม่ว่าจะเป็น Cafe Amazon, Pearly Tea และ Pacamara Coffee Roasters โดย Cafe Amazon มีปริมาณจำหน่าย 9 เดือน รวม 299 ล้านแก้ว เพิ่มขึ้น 8.3 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดยอดปริมาณจำหน่าย 1 ล้านแก้ว/วัน
ทั้งนี้ ด้วยสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ OR ต้องปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้เหมาะสม เพื่อให้ทุกการตัดสินใจลงทุน ยังได้รับผลตอบแทนการลงทุนที่เหมาะสม โดยปัจจุ บัน OR อยู่ระหว่างการประเมินทบทวนความเหมาะสมของ Investment Portfolio เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลง โดยในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา OR ได้พิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบ และได้พิจารณาที่จะยุติการดำเนินธุรกิจ Texas Chicken และขายหุ้นทั้งหมดใน บริษัท อิ่มทรัพย์ โกลบอล คูซีน จำกัด เกิดผลขาดทุน และค่าใช้พิเศษที่เกี่ยวข้อง (Extra Item) รวม 552 ล้านบาท และเชื่อมั่นว่าการตัดสินใจดังกล่าวจะส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจในระยะยาว ช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และผลตอบแทนที่เหมาะสมให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน เพื่อสร้างโอกาสใหม่ และเสริมความแข็งแกร่งให้แก่พอรทโฟลิโอธุรกิจ OR จะยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจด้านอาหาร และเครื่องดื่ม รวมถึงแสวงหาพันธมิตรที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายในการมุ่งสู่การเป็นหนึ่งในการเป็นผู้นำธุรกิจด้านอาหาร และเครื่องดื่มของ OR ต่อไป
สำหรับการดำเนินธุรกิจของ OR ในไตรมาส 4 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจตามสภาพเศรษฐกิจ ที่มีแนวโน้มขยายตัวจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี ซึ่งมีวันหยุด และมีการเดินทางสูง รวมไปถึงการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจของ OR ในทุกกลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจ Mobility ทั้งในด้านการขายปลีกน้ำมันผ่านสถานีบริ การ PTT Station รวมไปถึงการจำหน่ายน้ำมันอากาศยาน กลุ่มธุรกิจ Lifestyle และกลุ่มธุรกิจ Global ตามแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มขยายตัว
ดิษทัต เพิ่มเติมว่า OR ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาให้ปรับปรุงการทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร ทั้งในด้านการดำเนินการ การบริหารต้นทุน และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ รวมไปถึงเสริมสร้าง และเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้า และได้เริ่มการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทอล หรือ Digital Transformation ที่ครอบคลุมทุกภาคส่วนของการดำเนินธุรกิจ ผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรหลากหลายรูปแบบ โดยมีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงเทคโนโลยีกับกระบวนการทำงานหลักของธุรกิจ และสร้างระบบนิเวศที่รองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ยกระดับธุรกิจน้ำมัน และค้าปลีกให้ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทอล พร้อมมุ่งสร้างโอกาสใหม่ และเสริมความแข็งแกร่งให้แก่พอร์ทโฟลิโอธุรกิจ พร้อมมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
ด้านการดูแลชุมชน ในช่วงสถานการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา OR ได้ผนึกกำลังกับหน่วยงานต่างๆ ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง มอบถุงยังชีพ และสิ่งของจำเป็นให้แก่ชุมชนในพื้นที่ จ. ลำปาง เชียงราย และเชียงใหม่ รวมถึงสนับสนุนแกสหุงต้ม ปตท. ในการประกอบอาหารที่โรงครัวเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรม “โออาร์ อาสาสานสุข” ในหลายพื้นที่ ช่วยดูแลชุมชนที่อยู่โดยรอบสถานประกอบการของ OR โดยขับเคลื่อนทั้งธุรกิจ ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมให้เดินหน้าไปได้พร้อมๆ กันอย่างยั่งยืน
ล่าสุด OR ได้รับรางวัล Highly Commended Sustainability Awards จาก SET Awards 2024 ในฐานะหุ้นยั่งยืนระดับ AAA ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจของ OR เพื่อสร้างความเข้มแข็ง และการเติบโตอย่างยั่งยืน เคียงข้างชุมชน เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ตามแนวทาง ESG ทั้ง 3 มิติ ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และและการกำกับดูแลที่ดีผ่านการลงมือปฏิบัติจริงตามแนวทาง OR SDG