Fanatec GT World Challenge Asia ศึกซูเพอร์คาร์ระดับโลก เตรียมกระหึ่มความเร้าใจกับสนามที่ 2 ของฤดูกาลในประเทศไทย ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท จ. บุรีรัมย์ กับการแข่งขันถึง 2 เรศ สุดอลังการด้วยรถแข่ง GT3 ที่ดีที่สุดของโลก และนักแข่งแถวหน้า กับการแข่งระดับโลกวันที่ 11-12 พฤษภาคม นี้ !
ในปีนี้ มีนักแข่งรถชาวไทยเข้าร่วมการแข่งขันรายการ Fanatec GT World Challenge Asia ถึง 2 คน ได้แก่ "ท็อป" ธนาตย์ เสถียรถิระกุล ที่ลงล่าความสำเร็จภายใต้สังกัด Absolute Racing ด้วยรถแข่ง Porsche 911 GT3 R (992) หมายเลข 911 จับคู่กับทีมเมทชาวศรีลังกาอย่าง อีชาน เพียร์ริส รวมถึง "เต๊อะ" วุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ นักแข่งจอมเก๋าจาก AAS Phantom Global Racing ภายใต้รถแข่ง Porsche 911 GT3 R (992) หมายเลข 93 จับคู่กับทีมเมทชาวเดนมาร์คอย่าง บาสเตียน บุช
ด้าน เบนจามิน ฟรานาสโซวิชี บอสส์ใหญ่ของ Fanatec GT World Challenge Asia กล่าวว่า "เรามีการทำงานหลังบ้านอย่างหนัก เพื่อดึงดูดนักแข่ง และทีมแข่ง ทำให้ในฤดูกาลนี้มีจำนวนรถแข่งมากถึง 33 คัน ผมคิดว่ารูปแบบการแข่งขันของเราได้รับความนิยมมาก ซึ่งมันพิสูจน์ได้จากจำนวนรถแข่งในปีนี้ และเรายังมีการแข่งขันคุณภาพสูง ด้วยรูปเกมที่เข้มข้น สูสี มีรถแข่งหลากหลายแบรนด์ รวมถึงกลุ่มนักแข่งที่ดีที่สุดของโลก ผสานกับนักแข่งระดับชั้นนำของเอเชีย ทำให้เป็นส่วนผสมที่สมบูรณ์แบบ"
"ในฐานะผู้จัดเราตื่นเต้นมาก เพราะเพิ่งผ่านสนามแรกที่ เซปังฯ การแข่งขันยอดเยี่ยม ภาพรวมดีมากๆ มีแฟนเข้าร่วมชมในสนามจำนวนมาก ถือเป็น GT ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ตอนนี้การแข่งขันในเอเชียกำลังเติบโตขึ้น สิ่งที่เราทำที่นี่เป็นสิ่งพิเศษ ผมคิดว่าแฟนๆ กำลังติดใจกับการแข่งขันในเอเชีย"
"สำหรับการแข่งขันในประเทศไทย ผมคิดว่าจะเป็นเรศที่ความเร็วสูง น่าตื่นเต้น และร้อนแรงมาก และแน่นอน แฟนๆ ไม่ควรพลาดสุดสัปดาห์แห่งความเร้าใจเช่นนี้ เพราะจะมีการจัดในประเทศไทยเพียงปีละครั้ง โอกาสเดียวที่จะได้พบกับรถแข่ง GT ที่ดีที่สุดในโลก และนักแข่งชั้นยอด ผมอยากชวนทุกคนมาดูกันเยอะๆ มันเป็นเรศที่ไม่ยาวมาก ระยะทางกำลังพอดีเหมาะแก่การรับชม นอกจากนี้ ยังสามารถมีส่วนร่วม Grid Walk และ Pit Walk ทุกอย่างรอแฟนๆ ทุกคนอยู่ ห้ามพลาด" บอสส์ใหญ่ของ Fanatec GT World Challenge Asia เผย
ส่วน "ท็อป" ธนาตย์ นักแข่งไทยกล่าวว่า "ปีนี้ผมแข่ง 2 รายการหลัก คือ GT World Challenge Europe และ GT World Challenge Asia ซึ่งค่อนข้างแตกต่างกัน เพราะที่ยุโรปแข่งกันแบบ 3-24 ชม. แล้วแต่สนาม ส่วนใน เอเชีย จะแข่งแบบสปรินท์เรศ คือ 1 ชม. มีทั้งหมด 6 สนาม"
"ในการแข่งขันที่ยุโรป ผมเพิ่งคว้าแชมพ์มาในรุ่น Silver ซึ่งเป็นความพยายามมาถึง 2 ปี ที่อยากจะผลักดันตัวเอง ก็เลยไปแข่งในยุโรปด้วย ควบคู่กับการแข่งขันในเอเชีย ผมค่อนข้างเชื่อมั่นทีม ว่าตลอดทั้งฤดูกาลเราจะหาเซทอัพ และมีผลงานที่ดีได้ ตอนนี้พร้อมครับ เพราะแข่งควบ 2 รายการ ทำให้มีชั่วโมงในการขับเยอะ ยิ่งขับเยอะความคุ้นเคย และความฟิทของร่างกายก็จะคงที่"
"ทุกครั้งที่แข่งใน Home Race ผมจะตื่นเต้นเสมอ อยากจะมีผลงานที่ดี ตั้งเป้าที่จะขึ้นโพเดียมให้ได้ และหากทุกอย่างลงตัวก็คิดว่าจะทำได้ตามเป้าครับ อยากชวนแฟนๆ ชาวไทยมาเชียร์ที่สนาม เพราะ Fanatec GT World Challenge Asia ถือเป็นรายการใหญ่ที่จัดในไทยเพียงปีละครั้ง เพราะฉะนั้นจะสนุกสนาน และเร้าใจแน่นอน" นักแข่งไทยเผย
ทั้งนี้ ศึก Fanatec GT World Challenge Asia 2024 สนาม 2 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท จ. บุรีรัมย์ จะเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคมนี้ ก่อนจะทำการควอลิฟายด์เพื่อจัดอันดับสตาร์ท และดวลความเร็วเรศแรกในวันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม เวลา 15.00 น. ส่วนเรศที่ 2 จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคมนี้ เวลา 10.45 น.
จำหน่ายบัตรแล้ววันนี้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขา หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ allticket.com บัตร VIP 1 วัน ราคา 2,000 บาท 2 วัน ราคา 3,000 บาท และบัตร Grandstand 1 วัน ราคา 200 บาท 2 วัน ราคา 300 บาท พิเศษ ! เพียงซื้อบัตรชมการแข่งขัน Fanatec GT World Challenge Asia มีสิทธิ์ลุ้นรับบัตร VIP โค้ง 12 และบัตร Paddock Pass ชมการแข่งขัน MotoGP 2024 แบบสุดเอกซ์คลูซีฟ
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเพจ Chang Circuit Buriram (https://www.facebook.com/ChangCircuitOfficial) และ Fanatec GT World Challenge Asia (https://www.facebook.com/GTWorldChallengeAsia)