หลังจากได้ลองขับ Neta X (เนทา เอกซ์) ครอสส์โอเวอร์ตัวเต็มของค่าย Neta V-II (เนทา วี-ทู) ก็เป็นอีกรุ่นที่ได้ลองขับ และใช้งานระบบช่วยในการขับขี่ ADAS
Neta V-II รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % สไตล์ City Car มาพร้อมแนวคิด “Smart & Play สมาร์ทให้สุด สนุกให้เหนือใคร” ลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ด้วยดีไซจ์นลงตัวกว่าเดิม และฟังค์ชันที่ครบครันยิ่งขึ้น พร้อมระบบความปลอดภัย และระบบช่วยในการขับขี่ ให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความสนุก และมั่นใจยิ่งขึ้น โดย Neta V-II มีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่น Lite และรุ่น Smart
ภายนอกของ Neta รุ่น V-II มีการปรับเปลี่ยนกันชนหน้า/หลังใหม่ ด้านหน้าเสริมด้วยกระจังหน้าแบบ Starling Grille ตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียมเพิ่มความหรูหรายิ่งขึ้น เช่นเดียวกับ Neta รุ่น Aya โดยมีมิติยาว/กว้าง/สูง 4,070/1,690/1,540 มม. ฐานล้อ 2,420 มม.
เมื่อเปรียบเทียบรถไฟฟ้าคู่แข่งที่กำลังจะมาอย่าง VinFast VF 5 (3,967/1,723/1,578 มม. ฐานล้อ 2,514 มม.) และ Wuling Binguo (3,950/1,708/1,580 มม. และ 2,560 มม.) Neta รุ่น V-II ก็มีความยาวตัวรถที่มากกว่า
เมื่อเทียบกับบรรดารถน้ำมัน
สูงกว่า Mazda 2 Hatchback หรือ Sport (4,080/1,695/1,495 มม. ฐานล้อ 2,570 มม.)
ใหญ่กว่า Mitsubishi Mirage (3,795/1,665/1,505 มม. ฐานล้อ 2,450 มม.)
แต่เล็กกว่า Honda City Hatchback (4,350/1,748/1,488 มม. ฐานล้อ 2,589 มม.) และ Toyota Yaris (4,171/1,730/1,500 มม. ฐานล้อ 2,550 มม.)
ไฟหน้าแบบ LED Projector พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน และไฟเลี้ยวแบบ LED มีระบบเปิดไฟสูงอัตโนมัติ โดยจะทำงานเมื่อใช้ความเร็วเกิน 40 กม./ชม. และไม่มีแสงสว่างจากด้านหน้ารถ
ส่วนด้านท้ายลงตัวกว่า Neta รุ่น V เดิม ด้วยไฟท้าย LED ใหม่ ในแนวนอน พร้อมแถบ LED คาดฝากระโปรงท้ายเชื่อมต่อไฟท้ายทั้ง 2 ข้าง แบบเดียวกับ Neta รุ่น Aya และเพิ่มที่ปัดน้ำฝนด้านหลังมาให้ ล้อที่ให้มาเป็นขนาด 16 นิ้ว และยาง 185/55 R16
Neta V-II มีสีมาตรฐานให้เลือก 2 สี ได้แก่ ขาว White Storm เทา Midnight Gray เพิ่มอีก 2 สี ในรุ่น Smart คือ ชานม Milk Tea และฟ้า Baby Blue
ห้องโดยสารกว้างสบายสำหรับผู้ใหญ่ 4 คน และเด็กโตอีก 1 คน หน้าจอ Infotainment ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งงานด้วยเสียง SIRI พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทอล ขนาด 12 นิ้ว ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย และกุญแจแบบสมาร์ทคีย์พร้อมระบบ Ride & Go ให้รถพร้อมสำหรับการขับขี่ทันทีที่เปิดประตูรถ
พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน รวมถึงมีระบบเกียร์ไฟฟ้า (Electronic Shifter)
พร้อม Auto Vehicle Hold และมีที่ชาร์จแบบไร้สาย
สีภายในห้องโดยสารจะเป็นสีเทา/ดำ ยกเว้น 2 สี ในรุ่น Smart คือ เทา/ขาว ในรถสีชานม Milk Tea และฟ้า/ขาว ในรถสีฟ้า Baby Blue
เบาะนั่งคู่หน้าปรับ 6 ทิศทาง เบาะใหญ่หุ้มหนัง นั่งสบาย มีหมอนรองศีรษะแยกปรับสูง/ต่ำได้
เบาะหลังแยกพับไม่ได้ มีเข็มขัดแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง แต่มีหมอนรองศีรษะ 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ใหญ่ 4 คน และเด็กโตอีก 1 คน
ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังขนาด 335 ลิตร ก็ใหญ่พอตัว บวกกับเมื่อพับเบาะด้านหลังลงก็จะได้พื้นที่เพิ่มอีก 253 ลิตร รวมเป็น 588 ลิตร
ด้วยมอเตอร์ขนาด 95 แรงม้า แรงบิด 15.3 กก.-ม. (150 นิวตันเมตร) ให้สมรรถนะที่เพียงพอต่อการใช้งาน พร้อมแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน (Lithium-ion Battery) 36.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้ระยะทางในการวิ่งสูงสุด 382 กม./การชาร์จไฟเต็ม ตามมาตรฐาน NEDC
สำหรับ Neta V-II รุ่น Smart เพิ่มความมั่นใจในทุกการเดินทางด้วยระบบช่วยในการขับขี่ ADAS รวม 8 ระบบ ได้แก่ ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ HBA ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW ระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ FSA ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ ICA รวมไปถึงระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ELKS
ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ด้วยฟังค์ชัน V2L (Vehicle to Load) จ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่อุปกรณ์ไฟฟ้า ด้วยกำลังสูงสุดถึง 3,300 วัตต์ พร้อมการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่างครบครัน
Neta เลือก Neta V-II รุ่น Smart มาให้ได้ลองขับ ซึ่งก็พอจะสัมผัสได้ถึงความต่างจาก Neta V รุ่นแรก การขับขี่ การควบคุม และระบบรองรับ หรือช่วงล่างดีขี้น นั้นก็อาจจะเป็นผลจากการพยายามแก้ปัญหา โดยทางผู้ผลิตแจ้งว่าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงชอคอับ และช่วงล่าง ยังคงใช้แบบเดิม
Neta V-II รุ่น Lite มีราคา 549,000 บาท เท่ากับ Neta V รุ่นแรก และเพิ่มอีก 2 หมื่นบาท สำหรับรุ่น Smart ที่มีระบบช่วยในการขับขี่ ADAS ในราคา 569,000 บาท ยังทางเลือกสายประหยัดของคนชอบรถไฟฟ้า ที่มีฟังค์ชันอำนวยความสะดวกกับระบบความปลอดภัยเพียบ และจอขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว ขณะที่รถน้ำมันในราคาที่ใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็น Mazda 2 Hatchback รุ่น 1.3 C Sport ราคา 599,000 บาท Mitsubishi Mirage รุ่น Active CVT ราคา 509,000 บาท รุ่น Smart ราคา 579,000 บาท Honda City Hatchback รุ่น S+ ราคา 599,000 บาท และ Toyota Yaris รุ่น Sport ราคา 559,000 บาท ส่วนใหญ่จะใส่ของมาให้แค่เพียงใช้งาน