วันที่ 11 มิย. 67 เป็นอีกวันที่ผมต้องจดจำ และตื่นเต้นไปกับการได้ดูการถ่ายทอดสดจากช่อง "ไทยรัฐทีวี ช่อง 32" เป็นเกมกีฬาฟุตบอลชาย ซึ่งเป็นกีฬาที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุดในโลกชนิดหนึ่งก็ว่าได้ เป็นแมทช์คัดบอลโลกปี 2026 โซนเอเชียสำหรับทีมชาติไทย ด้วยกติกาที่บีบหัวใจคนไทยทั้งประเทศ และเป็นการบ้านที่ยากมากของนักฟุตบอลชายทีมชาติไทย
ในครั้งนี้ คือ เราต้องลุ้นทั้งคู่เกาหลีใต้พบทีมชาติจีน และจำเป็นต้องเชียร์ให้เกาหลีใต้ชนะจีนเยอะๆ ถ้าผลของคู่เกาหลีใต้ชนะจีน 1-0 ต้องบังคับให้ทีมชาติไทยต้องชนะสิงค์โปรถึง 3 ประตู จึงเข้ารอบต่อไปได้
ผลการแข่งขันก็จบที่ไทยยิงได้ถึง 3 ลูกก็จริง แต่ไม่ใช่สกอร์ 3-0 ที่พวกเราชาวไทยต้องการ เราทำได้ ตรงที่เลข 0 มันกลายเป็นเลข 1 ผลจบด้วยสกอร์ 3-1 ที่มันบีบหัวใจของผมเต้นช้าไปชั่วขณะหนึ่งเลยนะครับ...
ผมขอชม และติในมุมมองของผมนะครับ ทำไมฟุตบอลชายเราไปไม่ได้ถึงฝั่งกับเขาสักที...ความฟิทเรายังไม่ดี ยืนได้ในระยะที่ไม่ยาว แผ่วปลายอย่างเห็นได้ชัดเลย ใช้โอกาสเปลืองเกินไป และยังไม่คมพอ
ไม่รู้ว่าเหตุเป็นเพราะเราอาจจะขาดวินัยแบบมืออาชีพในการฝึกซ้อมด้วยหรือเปล่า หรือขาดการสนับสนุนจากสมาคมฟุตบอลตั้งแต่อดีตแบบต่อเนื่อง...
อย่างไรก็ดี ผมก็ขอชื่นชมน้องๆ ที่เล่นดีหลายคนนะครับ โดยเฉพาะ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ที่เปลี่ยนตัวลงมา และทำสกอร์ได้ในนาทีที่ 86 ทำให้เกมสนุก และตื่นเต้นตลอด 90 นาที ตอนทดเวลาบาดเจ็บ ผมยังมีความหวังให้ทีมชาติไทยยิงได้อีกหนึ่งลูกเถอะ สาธุ...
ผมว่าเป็นแมทช์ที่เราต้องจดจำถึงข้อเสีย และเก็บเกี่ยวให้เป็นประสบการณ์ และแก้ไขจุดบกพร่องของแต่ละคน เพื่อวันข้างหน้าของน้องๆ ได้พัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อยๆ
ผมขอเป็นกำลังใจให้เสมอ วันหนึ่งเราต้องไปบอลโลกให้ได้ ผมเชื่อว่าต้องมีวันนั้น สำหรับธงชาติไทย เพื่อไปบอลโลกในอนาคตของพี่น้องชาวไทยทั้งหลายจะได้มีความสุขทั้งประเทศ เมื่อถึงวันนั้น...คือ วันที่ฝันของผมเป็นจริงนะครับ
ผมเสียดายโอกาสจริงๆ นะครับที่เราทำไม่ได้ เพราะทีมชาติเกาหลีใต้อุตส่าห์ยิงทีมชาติจีนได้ 1-0 แล้ว มันทำให้เรามีลุ้น และมีความหวัง ตลอดเวลาที่เรายังไม่ได้ยินเสียงนกหวีดดังจากผู้ตัดสินตอนหมดเวลาการแข่งขัน
แต่เราต้องยอมรับสภาพทีมชาติไทยแมทช์นี้ ผมมองว่าทั้งเกมรุกก็ไม่ดีพอ-เกมรับก็ไม่ดีพอ หรือถ้าเราชนะทีมชาติจีนตั้งแต่แมทช์ที่แล้ว ก็ไม่ต้องมานั่งกดดันทั้งนักเตะ และแฟนบอลชาวไทยที่ตามมาเชียร์ถึงขอบสนามราชมังคลากีฬาสถาน และชมการถ่ายทอดสดอยู่ทางบ้านมากมาย
ตอนผมเห็นผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน...แฟนบอลชาวไทยนับหลายหมื่นคนหน้าเศร้าหมองกับการผิดหวังผลของการไปต่อไม่ได้สำหรับนักฟุตบอลทีมชาติไทย
พวกเราต้องเฝ้ารอถึงอีก 4 ปีข้างหน้า...แต่ผมยังเชื่อมั่น "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศ ซึ่งเป็นสุภาพสตรีคนแรกกับตำแหน่งนี้ในวงการลูกหนังไทย ได้มีโอกาสปรับทูนแก้ไขในสิ่งที่ขาดหายแบบมืออาชีพจริงๆ
เราควรพัฒนาปูฐานให้วงการฟุตบอลไทยมีศักยภาพแบบยั่งยืนอย่างสม่ำเสมอ ให้วงการฟุตบอลทีมชาติไทยได้สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย ขอให้มาดามแป้งประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้นะครับ
มาดามแป้ง เคยทำให้นักฟุตบอลทีมชาติหญิงไปบอลโลกมาแล้ว...
ทำไมนักฟุตบอลชายทีมชาติไทยจะไปบ้างไม่ได้ ผมจะรออีก 4 ปี เจอกันแบบเข้ารอบบอลโลกปี 2030 นะครับ...