ธุรกิจ
ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์
BYD เปิดโรงงานในไทยอย่างเป็นทางการ
BYD (บีวายดี) บริษัทเทคโนโลยีชั้นนําที่มุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และบริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จํากัด ผู้จัดจําหน่าย และให้บริการหลังการขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BYD อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายใต้กลุ่มธุรกิจ Rever่ เปิดโรงงาน BYD ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ณ นิคมอุตสาหกรรม WHA จังหวัดระยอง โดยโรงงานแห่งนี้จะเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวาเพื่อรองรับตลาดในประเทศ และส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ในอาเซียน นับเป็นอีกก้าวสําคัญภายใต้กลยุทธ์การขยายธุรกิจให้ครอบคลุมทั่วโลกของ BYD รวมถึงสะท้อนความมุ่งมั่นที่มีต่อตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตลอดจนเป็นการสนองนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ เพื่อบรรลุเป้าหมายให้มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 30 % ของการผลิตรถทั้งหมดภาย ในปี พศ. 2573
หวัง ชวนฟู ประธานกรรมการ และประธาน บริษัท บีวายดี กรุพ กล่าวว่า BYD ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วหลังจากเข้าสู่ตลาดประเทศไทยได้เพียง 2 ปี โดยประสบความสําเร็จในการเป็นผู้นําด้านยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าติดต่อกันถึง18 เดือน ในอนาคต BYD วางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100 % และรถยนต์พลัก-อิน ไฮบริดเพิ่มเติมในประเทศไทย เราจะผสานความเป็นเลิศด้านการผลิตในประเทศเข้ากับเทคโนโลยีพลังงานใหม่ขั้นสูงของ BYD เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างจีน และไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
โรงงานผลิตรถยนต์ BYD มีพื้นที่กว่า 948,000 ตรม. ใช้เวลาก่อสร้างเพียง 16 เดือนนับจากพิธิเปิดหน้าดิน มาพร้อมแนวคิดการลดใช้พลังงาน และคาร์บอนตํ่า ครบครันด้วยเครื่องจักรกลอัตโนมัติ กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และระบบบริหารจัดการลอจิสติคส์ลํ้าสมัย ครอบคลุม 4 ขั้นตอนการผลิตยานยนต์ ได้แก่ การขึ้นรูป การเชื่อม การทําสี และการประกอบ ทั้งหมดนี้ เพื่อการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูง และได้มาตรฐานสําหรับตลาดประเทศไทย โรงงานแห่งนี้มีกําลังการผลิตสูงสุดถึง 150,000 คัน/ปี ได้แก่ BYD Dolphin (ดอลฟิน), BYD Atto 3 (อัตโต 3), BYD Seal (ซีล) และ BYD Sealion 6 (ซีไลออน 6) รวมถึงสามารถผลิตชิ้นส่วนสําคัญอย่างแบทเตอรี และระบบส่งกําลังได้อีกด้วย สําหรับในอนาคต เมื่อโรงงานดําเนินงานอย่างเต็มรูปแบบ คาดว่าจะสร้างงานได้กว่า 10,000 ตําแหน่ง
โอกาสนี้ BYD ได้ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า BYD Dolphin ซึ่งเป็นรถยนต์พลังงานใหม่คันที่ 8 ล้าน และได้รับการผลิตที่โรงงานแห่งนี้ ให้แก่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์เพื่อตอกยํ้าความมุ่งมั่นด้านนวัตกรรม และการคมนาคมที่ยั่งยืน
หลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายประจําภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จํากัด กล่าวว่า การเปิดโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแห่งใหม่ของ BYD ประเทศไทย เป็นก้าวสําคัญที่ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นของบริษัท ที่มีต่อลูกค้าชาวไทย ควบคู่ไปกับการสานต่อเป้าหมายระดับโลกโรงงานแห่งนี้ไม่เพียงจะช่วยให่เราสามารถนําเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ผลิตใน ไทย แต่ยังตอกยํ้าถึงการเป็นผู้นําแถวหน้าของโลกในอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ ที่สําคัญ เราเชื่อมั่นว่าโรงงานแห่งนี้จะสามารถสร้างโอกาสในการทํางานให้แก่ชาวไทยได้เป็นจํานวนมาก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาแรงงานที่มีทักษะให้แก่วงการยานยนต์ และพลังงานทดแทนได้อีกด้วย
นอกจากนี้ โรงงาน BYD ประเทศไทยจะช่วยดึงดูดการลงทุน และส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจต่อประเทศอย่างมหาศาล
ประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Rever กล่าวว่า ปี พศ. 2566 ที่ผ่านมา ทั่วโลกมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงรถยนต์พลัก-อิน ไฮบริด ประมาณ 14.2 ล้านคัน เราจึงมั่นใจว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยจะยังคงเติบโตต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่ง กลุ่มธุรกิจ Rever่ ยังคงมุ่งมั่นดําเนินงานตามพันธกิจในการขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยพลังงานไฟฟ้า ลดการปล่อยแกสเรือนกระจกรวมถึงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น การเปิดโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ของ BYD ในประเทศไทยจะช่วยให้เราสานต่อวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ New Future, Your Way ที่มุ่งมั่นผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น NEV Nation และบรรลุเป้าหมายการปล่อยแกสเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พศ. 2608 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านประเทศ ไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืนพร้อมกับขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ
ประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Rever กล่าวเสริมว่า เชื่อว่าการเปิดโรงงาน BYD ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จะมีบทบาทสําคัญในการรองรับความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของเราในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าไทย และอาเซียน ทั้งยังตอกยํ้าวิสัยทัศน์ร่วมกันระหว่าง BYD และกลุ่มธุรกิจ Rever ในการนําเสนอผลิต ภัณฑ์ และบริการคุณภาพสูงที่ตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอของลูกค้าในไทย และประเทศอื่นๆ ที่ใช้รถยนต์พวงมาลัยขวา
ขณะเดียวกัน กลุ่มธุรกิจ Rever จะยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายโชว์รูมให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าให้แข็งแกร่งรวมถึงมอบประสบการณ์การขาย และบริการหลังการขายเหนือระดับ
เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์แบบครบวงจรที่ราบรื่นและคุ้มค่า แทนคําขอบคุณสําหรับความไว้วางใจของผู้ใช้งานชาวไทยที่มอบให้กับเรามาโดยตลอด
ในฐานะผู้นําระดับโลกด้านยานยนต์พลังงานใหม่ BYD ได้ขยายการเติบโตในตลาดต่างประเทศอย่างมีนัยสําคัญในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดย พศ. 2566 BYD ส่งออกรถยนต์ 243,000 คัน เพิ่มขึ้นถึง 334 % เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าปัจจุบัน BYD จําหน่ายยานยนต์พลังงานใหม่ใน 88 ประเทศ และภูมิภาคทั่วโลกโดยมีฐานการผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในประเทศไทย บราซิล ฮังการี และอุซเบกิสถาน
ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจในระยะยาว BYD และกลุ่มธุรกิจ Rever มีความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงของโลกสู่ยุคพลังงานใหม่โดยโรงงาน BYD ประเทศไทยซึ่งดําเนินการผลิตด้วยเทคโนโลยีอันลํ้าสมัยของจีนแห่งนี้จะเข้ามาช่วยสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียนในอนาคตตามเป้าหมายของรัฐ บาลไทย
Neta มอบข้อเสนอสุดพิเศษกว่าใคร !
Neta (เนทา) มอบความมั่นใจในการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Neta V-II (เนทา วี-ทู) มากยิ่งขึ้นกับข้อเสนอสุดพิเศษ Smart Choice ด้วยการรับประกันแบทเตอรีตลอดอายุการใช้งาน พร้อมฟรีค่าแรง และค่าอะไหล่เมื่อเชคระยะตลอด 40,000 กม. แรก และข้อเสนอสุดพิเศษอื่นๆ อีกมากมายในราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 499,000 บาท สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Neta V-II ตั้ง แต่ 22 มิถุนายน-สิ้นเดือนกรกฎาคมนี้เท่านั้น
Neta V-II Smart Choice แคมเปญสมาร์ทสุดคุ้ม
ข้อเสนอพิเศษ สำหรับผู้ที่จอง และรับรถ Neta V-II ตั้งแต่ 22 มิถุนายน-31 กรกฎาคม 2567
• รับประกันแบทเตอรี และมอเตอร์ ตลอดอายุการใช้งาน สำหรับเจ้าของคนแรกเท่านั้น (ขับไม่เกิน 30,000 กม./ปี)
• Neta V-II รุ่น Lite ราคาพิเศษ 499,000 บาท (รับส่วนลด 50,000 บาท จากราคาปกติ 549,000 บาท)
• Neta V-II รุ่น Smart ราคาพิเศษ 549,000 บาท (รับส่วนลด 20,000 บาท จากราคาปกติ 569,000 บาท)
• ฟรี ! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พรบ. คุ้มครอง 1 ปี
• ฟรี ! ค่าแรง และค่าอะไหล่รถยนต์เมื่อเชคระยะตามกำหนด รวม 5 ครั้ง ตลอด 40,000 กม. แรก
• ฟรี ! รับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 150,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
• ดอกเบี้ยพิเศษ 1.28 % เงินดาวน์ขั้นต่ำ 25 % ผ่อนไม่เกิน 48 เดือน
* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่จอง และรับรถไปแล้ว ระหว่างวันที่ 1-21 มิถุนายนที่ผ่านมา จะได้รับสิทธิ์การรับประกันแบทเตอรีตลอดอายุการใช้งาน รวมไปถึงฟรี ! ค่าแรง และค่าอะไหล่รถยนต์เมื่อเชคระยะตามคู่มือการบำรุงรักษากำหนด รวม 5 ครั้ง สูงสุด 40,000 กม. เพิ่มเติมจากข้อเสนอที่เคยได้รับมาเช่นกัน
Neta V-II Smart & Play สมาร์ทให้สุด สนุกให้เหนือใคร
Neta V-II รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % สไตล์ City Car มาพร้อมแนวคิด “Smart & Play” “สมาร์ทให้สุด สนุกให้เหนือใคร” ลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ด้วยดีไซจ์นโฉบเฉี่ยว พร้อมฟังค์ชันการใช้งานที่ครบครันยิ่งขึ้น พร้อมระบบความปลอดภัย และช่วยในการขับขี่ให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความสนุก และมั่นใจ โดยมีให้เลือก 2 รุ่น คือ Neta V-II รุ่น Lite (ไลท์) และรุ่น Smart (สมาร์ท)
Neta V-II ได้รับการออกแบบภายนอกที่ลงตัวตามหลักอากาศพลศาสตร์ พร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ภายในโดดเด่นด้วยหน้าจอ Infotainment ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple Car Play พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทอล ขนาด 12 นิ้ว ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย และกุญแจแบบสมาร์ทคีย์พร้อมระบบ Ride & Go ให้รถพร้อมสำหรับการขับขี่ทันทีที่เปิดประตูรถ
Neta V-II ให้สมรรถนะที่เพียงพอต่อการใช้งานด้วยมอเตอร์ขนาด 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวทันเมตร พร้อมแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ให้ระยะทางในการวิ่งสูงสุด 382 กม./การชาร์จไฟเต็มตามมาตร ฐาน NEDC
สำหรับ Neta V-II รุ่น Smart เพิ่มความมั่นใจด้วยระบบช่วยในการขับขี่ ADAS รวม 8 ระบบ ได้แก่ ระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติ ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ ระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ รวมไปถึงระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน อีกทั้งยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ด้วยฟังค์ชัน V2L (Vehicle to Load) จ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่อุปกรณ์ไฟฟ้า ด้วยกำลังสูงสุดถึง 3,300 วัตต์ พร้อมการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่างครบครัน
Neta V-II มีสีมาตรฐานให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีขาว White Storm สีเทา Midnight Gray สีชานม Milk Tea สีฟ้า Baby Blue
BYD ลดราคาอีกครั้ง ! กับรุ่น Atto 3 ราคา 799,900-959,900 บาท
BYD (บีวายดี) ประกาศราคาใหม่ของ Atto 3 (อัตโต 3) สำหรับโปรโมชันล่าสุดในโอกาสการเปิดโรงงานใหม่ในประเทศไทยเร็วๆ นี้ โดยมีราคาของแต่ละรุ่นตามนี้
BYD Atto 3 (นำเข้าจากประเทศจีน)
รุ่น Dynamic ราคา 799,900 บาท (จากราคาเดิม 899,900 บาท)
รุ่น Premium ราคา 859,900 บาท (จากราคาเดิม 949,900 บาท)
รุ่น Extended ราคา 959,900 บาท (จากราคาเดิม 1,049,900 บาท)
รุ่น Extended Range (MY 2023) ราคา 859,900 บาท (จากราคาเดิม 1,199,900 บาท)
**การปรับลดราคาดังกล่าวมีผลกับการจองรถตั้งแต่วันที่ 5-31 กค. 67 และยังมาพร้อมการแถมฟีล์มเซรามิค XUA Max และรายการสิทธิพิเศษ Rever Care
BYD Atto 3 Dynamic และ Premium มาพร้อมเสาดี (D-Pillar) สีดำ หลังคา Panoramic Sunroof เปิด/ปิดด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบป้องกันการหนีบ ล้อแมกขนาด 18 นิ้ว ที่ออกแบบโดยคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ สะดวกสบายด้วยระบบเปิด/ปิดบานประตูท้ายไฟฟ้าแบบ One-Touch กระจกมองข้างพับ และปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบทำความร้อนไล่ฝ้า โดยตัวถังมาพร้อมสีขาว Frost White และสีเทา Graphite Grey ส่วนรุ่น Extended มีทางเลือกสีดำเข้ม
ห้องโดยสารตกแต่งภายในสไตล์ Rhythmic Interior โทนสีน้ำเงิน-เทา และน้ำเงิน-ดำ หน้าจอกลางใหม่ใหญ่กว่าเดิม ขนาด 15.6 นิ้ว ที่ปรับหมุนได้รอบทิศทาง หน้าจอแสดงผลด้านคนขับแบบดิจิทอลขนาด 5 นิ้ว พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชันพร้อมสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียง และสวิทช์ควบคุมหน้าจอ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ชุดเครื่องเสียง Dirac HD Sound พร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง พร้อมแอพพลิเคชันคาราโอเกะใหม่ และเชื่อมต่อ Apple Car Play ผ่านสาย USB และ Android Auto แบบไร้สาย
BYD Atto 3 Dynamic และ Premium ใช้แบทเตอรีแบบ Blade Battery เอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD ความจุ 50.25 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทำการสูงสุด 410 กม. (มาตรฐาน NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.9 วินาที กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวทันเมตร/31.6 กก.ม. และมีระบบ V2L (Vehicle To Load) ระบบแบทเตอรีจ่ายพลังงานให้แก่อุปกรณ์อื่นๆ เสมือนเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเคลื่อนที่ รองรับหัวชาร์จ แบบ AC Type 2 และแบบ DC-CCS 2 สูงสุด 70 กิโลวัตต์
รายการละเอียดเพิ่มเติม : ReverAutomotive
Great Wall Motor เสริมทัพ Ora 07 รุ่น Long Range Ultra
Great Wall Motor ประเทศไทย เดินหน้าปลุกกระแสความร้อนแรงให้แก่วงการยานยนต์ไฟฟ้าในไทยอีกครั้ง เปิดตัว Ora 07 (โอรา 07) รุ่น Long Range Ultra (ลอง เรนจ์ อุลทรา) เข้ามาเสริมทัพรถยนต์ไฟฟ้าสปอร์ทคูเปสมรรถนะสูง รุ่นเรือธงล่าสุดภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์ Ora ที่โดดเด่นด้านดีไซจ์นทั้งภายนอก และภายใน ผ่านแนวคิดการออกแบบมาอย่างลงตัว ในราคา 1.399 ล้านบาท พร้อมส่งมอบได้ทันที ภายในเดือนกรกฎาคม 2567 นี้
ณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ Great Wall Motor (ประเทศไทย) กล่าวว่า GWM (กเรท วอลล์ มอเตอร์) Ora 07 รุ่น Long Range และรุ่น Performance (เพอร์ฟอร์มานศ์) ได้รับกระแสการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ ตั้งแต่การเปิดตัวเมื่อปลายปี 2566 ที่ผ่านมา เรายังคงมุ่งมั่นที่จะทำตามเจตจำนงในการเพิ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ XEV ในประเทศไทยให้ครบทั้งสิ้น 15 รุ่น ภายในปี 2568 เพื่อเติมเต็มระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม และเพื่อต่อยอดความนิยมของ GWM Ora 07 เรามีความภาคภูมิใจในการเปิดตัวรถยนต์ Ora 07 รุ่น Long Range Ultra รถ ยนต์ไฟฟ้าสปอร์ทคูเปสมรรถนะสูงที่มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ที่แข็งแกร่งเหนือชั้น เหนือกว่าในทุกการขับขี่ มาพร้อมรูปร่างซูเพอร์สตรีมไลน์ที่ครองใจชาวไทยมาแล้วทั่วประเทศ ดั่งผลงานศิลปะชิ้นเอก ที่โลดแล่นอยู่บนท้องถนน พร้อมส่งมอบให้แก่คนไทยได้สัมผัสความสมบูรณ์แบบ เราขอขอบคุณทุกการสนับสนุน และความไว้วางใจที่ทุกท่านมีให้แก่ทาง GWM ด้วยดีเสมอมา เราจะยังคงมุ่งมั่นส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และยกระดับการบริการ และประสบการณ์ของลูกค้า ไปพร้อมกับการสนับสนุนการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยสู่อาเซียนอย่างยั่งยืน
สำหรับ Ora 07 รุ่น Long Range Ultra ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 340 นิวทันเมตร มาพร้อมแบทเตอรี Ternary Lithium ความจุ 83.499 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้สูงสุดถึง 640 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) ไกลสุดเท่าที่ GWM เคยมีมา ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยระบบจ่ายกระแสไฟแก่อุปกรณ์ไฟฟ้า V2L (Vehicle-To-Load) สามารถปล่อยกำลังไฟได้สูงสุด 3,300 วัตต์ พร้อมยกระดับความปลอดภัย ด้วยโครงสร้างลักษณะ Cage-Type Body ซึ่งใช้วัสดุหลักเป็นเหล็กกล้าทนแรงดึงสูง รองรับแรงกระ แทกจากภายนอกได้อย่างดี และช่วยลดความรุนแรงได้เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน นอกจากนี้ ยังมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ยางขนาด 235/50 R18 ล้อสปอร์ทลาย Double Spoke และยังคงกลิ่นอายรถสปอร์ทด้วยสปอยเลอร์ไฟฟ้า พร้อมฟังค์ชันเปิด/ปิดอัตโนมัติที่สามารถตั้งให้เปิดเมื่อปลดลอครถ หรือเมื่อความเร็วถึง 70 กม./ชม. Ora 07 รุ่น Long Range Ultra มีสีภายนอกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีขาว (Jade White) และสีเทา (Amethyst Grey) ซึ่งทั้ง 2 สีนี้จับคู่กับภายในสีดำ
ด้านการออกแบบภายใน ได้รับการตกแต่งภายในเป็นแบบเรทโรที่แฝงความลักชัวรี และรูปทรงปราดเปรียวสง่างาม แต่ยังมีความน่ารัก การผสมผสานระหว่างเส้นโค้ง และเหลี่ยมมุมได้อย่างสมบูรณ์ผสานการตกแต่งห้องโดยสารด้วย Ambient Light แบบ Super I Space ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้เพลิดเพลินในทุกการขับขี่ และการผจญภัย Ora 07 รุ่น Long Range Ultra ยังมาพร้อมหน้าจอกลางอัจฉริยะแบบสัมผัส ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับความบันเทิงแบบ Wireless ได้อย่างครบครัน พร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทอล ขนาด 10.25 นิ้ว
Ora 07 รุ่น Long Range Ultra เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ถูกอัพเกรดขึ้นจาก Ora 07 รุ่น Long Range เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการขับขี่ที่มีความหลากหลายของคนไทยได้อย่างครบครัน ทั้งในด้านความสะดวกสบาย และความผ่อนคลาย เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง และระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบ Memory Seat และระบบ Welcome Seat เพื่อความสะดวกสบายในการขึ้น-ลงจากรถ เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เบาะนั่งคนขับ และผู้โดยสารด้านหน้าพร้อมระบบเบาะนวดไฟฟ้า และระบบระบายอากาศ เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร
ด้านความบันเทิง Ora 07 รุ่น Long Range Ultra ปรับเปลี่ยนลำโพงทั้ง 11 ตำแหน่ง ให้เป็นลำโพง Infinity พร้อมระบบแอมพลิฟายเออร์อิสระ ให้คุณภาพเสียงระดับสูง มอบความเพลิดเพลินให้แก่ผู้ขับขี่ในทุกการเดินทาง พร้อมกับหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกด้านหน้า ประตูท้ายเปิด/ปิดไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี และสปอยเลอร์หลังไฟฟ้า อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบช่วยจอดรถอัต โนมัติ 3 รูปแบบ (IIP) ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) รวมถึงการเพิ่มเซนเซอร์กะระยะหน้าเป็น 6 ตำแหน่ง และเซนเซอร์กะระยะหลังเป็น 6 ตำแหน่ง รวม 12 ตำแหน่ง เพิ่มความปลอดภัย และความอุ่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ได้อย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ ยังมีระบบ Intelligent One Pedal เทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ ผู้ขับขี่สามารถเร่ง หรือชะลอความเร็วได้เพียงคันเร่งเดียว และจากการรับฟังเสียงของผู้บริโภคที่จะช่วยเหลือผู้ขับขี่ และความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพิ่มระบบที่ช่วยชะลอความรุนแรงของการชนครั้งที่ 2 โดยเมื่อเกิดเหตุรถจะรักษาเสถียรภาพของตัวรถไว้เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ซึ่ง Ora 07 รุ่น Long Range Ultra นับว่าเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอีกหนึ่งรุ่นที่จะเข้ามาครองใจชาวไทยทั่วประเทศได้อย่างง่ายดาย
นอกจากที่ Ora 07 รุ่น Long Range Ultra จะมาพร้อมรูปลักษณ์ และสมรรถนะอันเหนือระดับในราคาเพียง 1.399 ล้านบาทแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าสปอร์ทคูเปรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับข้อเสนอสุดพิเศษอีกมากมายที่จะมอบให้แก่แฟนๆ ชาวไทย รวมมูลค่ากว่า 180,000 บาท ได้แก่
ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99 % เมื่อดาวน์ 25 % ผ่อน 48 เดือน* มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 62,000 บาท
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปีเต็ม มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท (ข้อกำหนด และเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
ฟรี GWM Home Charger พร้อมติดตั้งในระยะสายไฟยาวไม่เกิน 15 ม. 1 ครั้ง จากตู้ควบคุมไฟฟ้าในบ้าน (ตู้เมน) (ไม่รวมแท่นชาร์จ) มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท
ฟรี ค่าอะไหล่ และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง (GWM Pro Service Inclusive-GPSI) สูงสุดไม่เกิน 5 ครั้ง ภายในระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 75,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน และไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง) มูลค่า 13,000 บาท**
ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชม. เป็นระยะเวลา 5 ปี มูลค่า 10,000 บาท**
ฟรี บริการระบบตรวจสอบ และสั่งการรถผ่านอินเตอร์เนท* (Telematic Service) พร้อมแพคเกจอินเตอร์เนทภายในรถ (Internet in Vehicle) ระยะเวลา 3 ปี มูลค่า 10,500 บาท
ฟรี ม่านบังแดดหลังคา GWM มูลค่า 1,200 บาท
ฟรี กรอบป้ายทะเบียน และพรม GWM มูลค่ารวม 2,000 บาท
ด้านการรับประกันคุณภาพ Ora 07 รุ่น Long Range Ultra มาพร้อมการรับประกันคุณภาพรถใหม่ ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กม.** (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และการรับประกันแบทเตอรี EV เป็นระยะเวลา 8 ปี หรือ 180,000 กม.** (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
* เนื่องจากสถานการณ์ดอกเบี้ยลอยตัวในปัจจุบัน บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ เฉพาะเมื่อจอง และส่งเอกสารทำสัญญาตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนดเท่านั้น หลังจากช่วงเวลาดังกล่าว อัตราดอกเบี้ยพิเศษจะเป็นไปตามที่บริษัทฯ และสถาบันการเงินที่ร่วมรายการกำหนด
** เงื่อนไขการให้บริการเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
Harley-Davidson เผยโฉมรถมอเตอร์ไซค์ Hydra-Glide Revival ปี 2024
Harley-Davidson (ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน) เผยโฉมรถมอเตอร์ไซค์ Hydra-Glide Revival (ไฮดรา-กไลด์ รีไววัล) ปี 2024 จากคอลเลคชันลิมิเทด เอดิชันอย่าง Icons ภายในงานฉายภาพยนตร์เรื่อง “The Bikeriders-เธอะ ไบค์ไรเดอร์ส” รอบปฐมทัศน์ โดยรถมอเตอร์ไซค์รุ่นดังกล่าวมาพร้อมเทคโนโลยีการลงสีระดับพรีเมียมที่ล้ำสมัย ถูกผลิตออกมาในแบบคัสตอมจากโรงงาน และการออกแบบด้วยแถบกราฟิค พร้อมจำหน่ายแล้วผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Harley-Davidson ในประเทศไทย สำหรับรถมอเตอร์ไซค์จากคอลเลคชัน Icons ได้แรงบันดาลใจมาจากรถมอเตอร์ ไซค์ที่อยู่ในยุคของภาพยนตร์ “The Bikeriders-เธอะ ไบค์ไรเดอร์ส” ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวชีวิตของสมาชิกกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ในแถบมิดเวสต์ ช่วงทศวรรษ 1960
ดีมีทริส แรพทิส รองประธาน Harley-Davidson เอเชียแปซิฟิค กล่าวว่า รถมอเตอร์ไซค์รุ่นพิเศษ Icons Collection สี Hydra-Glide Revival ปี 2024 หรือรุ่นที่ 4 จาก Icons Collection ของ Harley-Davidson ถือเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปีของการคิดค้นระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบก้าน Hydra-Glide สำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่น E และรุ่น F ในปี 1949 ซึ่งหลังจากเปิดตัวระบบกันสะเทือน Hydra-Glide ในรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson รุ่น FL นักขับขี่ชาวอเมริกันจำนวนมากเริ่มออกไปผจญภัยบนเส้นทางใหม่ ตามถนนทางหลวงอินเตอร์สเตท (Interstate Highways) สำหรับรถมอเตอร์ไซค์สี Hydra-Glide Revival ปี 2024 มอบอิสรภาพ และการผจญภัยของนักขับขี่ บนรถที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการดีไซจ์นแบบย้อนยุค พร้อมขับขี่ได้อย่างสะดวกสบาย และสัม ผัสกับฟีเจอร์หลากหลายที่เร้าใจ
รถมอเตอร์ไซค์รุ่นพิเศษจากคอลเลคชัน Icons มาพร้อมสีพิเศษประจำปีในรถรุ่นใหม่ที่มีจำนวนจำกัด บ่งบอกถึงสไตล์การออกแบบที่ทันสมัย อันเป็นเอกลักษณ์ของ Harley-Davidson สำหรับคอล เลคชันลิมิเทด จะระบุหมายเลขประจำของแต่ละคันแยกออกไป และผลิตออกมาจำหน่ายเพียงครั้งเดียว ซึ่งจะเปิดตัวสี Hydra-Glide โฉมใหม่ ในจำนวนไม่เกิน 1,750 คันทั่วโลก
สี Hydra-Glide Revival สะกดทุกสายตาด้วยสี Redline Red แบบคัสตอม และแถบกราฟิคสี Birch White ด้านข้างถังน้ำมัน ถอดแบบมาจากรถมอเตอร์ไซค์รุ่นปี 1956 และมาพร้อมกับการออก แบบที่โดดเด่นมากมาย อาทิ ตราสัญลักษณ์ “Harley-Davidson V” แบบโครเมียม ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตราสัญลักษณ์ที่ตัวถังน้ำมันของรุ่นปี 1955-1956 บนถังน้ำมัน ตราสัญลักษณ์ “Hydra-Glide” บริเวณที่บังโคลนหน้า ป้าย “Hydra-Glide Revival” ที่ระบุหมายเลขลำดับของตัวรถครอบอยู่บนบาร์ที่จับ และกราฟิคสำหรับรถมอเตอร์ไซค์คอลเลคชัน Icons บนบังโคลนหลังแสดงถึงรถมอเตอร์ไซค์รุ่นลิมิเทด เอดิชัน
ฟีเจอร์การออกแบบที่เพิ่มเข้ามา ประกอบด้วย กราฟิคแผงหน้าปัดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมาตรวัดความเร็วปี 1954-1955 กระบังลมสูงสีทูโทนแบบถอดได้ขนาด 21 นิ้ว (53.3 ซม.) ที่มีส่วนล่างเป็นสีแดงแมทช์กับตัวรถสี Redline Red ฝาครอบเครื่องกรองอากาศทรงกลมแบบโครเมียม และล้อเหล็กโครเมียมแบบซี่ ช่วยให้ตัวรถมีกลิ่นอายความคลาสสิค การตกแต่งแผ่นปิดบังโคลนหน้า และหลัง การ์ดเครื่องยนต์ ฝาครอบชอคอับ ระบบส่งกำลัง และท่อไอเสียด้วยสีโครเมียมที่ชวนเหลียวมอง
กระเป๋าสัมภาระด้านข้างแบบเดี่ยวถูกออกแบบด้วยผ้าม่านหนัง กุ๊นขอบด้วยหนังสีขาว เย็บตะเข็บด้วยด้ายสีแดงที่ตัดกัน และโครงโครเมียมแสดงถึงการดีไซจ์นแบบย้อนยุค สายสะพายหนังสีดำตก แต่งด้วยหมุด และเครื่องประดับคอนโซล วัสดุที่ใช้กับกระเป๋าสัมภาระด้านข้างแบบคู่ทำมาจากหนัง และไวนิล ตกแต่งรายละเอียดด้วยเครื่องประดับคอนโซลโครเมียม พร้อมอครีลิคสีแดงตรงกลาง หมุดแบบโครเมียม พร้อมกุ๊นของหนังตะเข็บสีขาว และเย็บตะเข็บด้วยด้ายสีแดงเช่นเดียวกัน กระเป๋าสัมภาระด้านข้างมีคุณสมบัติกันน้ำ มาพร้อมกุญแจลอคเพื่อความปลอดภัย และมีซับในที่แข็งแรง เพื่อให้คงรูปทรงได้ทุกฤดูกาล
สไตล์ย้อนยุค กับสมรรถนะที่ล้ำสมัย
รถมอเตอร์ไซค์รุ่นพิเศษจาก Icons Collection ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 114 V-Twin แบบถ่วงดุลน้ำหนัก มาพร้อมเครื่องกรองอากาศ Screamin’ Eagle High-Flow ช่วยส่งสมรรถนะของการขับขี่ให้แรงมากขึ้น และได้รับการอัพเกรดเป็น Harley-Davidson Screamin’ Eagle Stage เหมาะสำหรับนักขับขี่ที่มองหาสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง
แชสซีส์ Softail ซ่อนระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบชอคอับเดี่ยวที่ปรับได้อย่างอิสระไว้ใต้เบาะที่นั่ง เพื่อให้ความสะดวกสบายในการขับขี่ และการเลี้ยวเข้าโค้งแบบไดนามิค และยังคงไว้ซึ่งรูปลักษณ์ของช่วงล่างแบบดั้งเดิม ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบอีเลคทรอนิคส์จะช่วยรักษาความเร็วให้คงที่ เพื่อความสะดวกสบายระหว่างการขับขี่ระยะทางไกล ไฟหน้าแบบ LED และไฟเสริมที่สว่าง ช่วยให้ผู้ขับขี่เห็นเส้นทางได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ระบบเบรคป้องกันล้อลอค (ABS) ถูกออกแบบมาเพื่อควบคุมการเบรคได้อย่างมั่นใจในสภาพถนนที่ไม่เอื้ออำนวย
“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับตัวแทนจำหน่ายของเรา ในการจัดงานฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์สุดพิเศษ เรื่อง “The Bikeriders-เธอะ ไบค์ไรเดอร์ส” ในประเทศไทย ซึ่งการก้าวเข้าสู่จอภาพยนตร์ของ Harley-Davidson ในครั้งนี้ จะทำให้แบรนด์ของเราสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น ขยายจากฐานชุมชนนักขับขี่ของเรา โดยภาพยนตร์เรื่องนี้จะเผยให้เห็นถึงตำนาน และวัฒน ธรรมอันยาวนานของกลุ่มนักขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ในอดีต และเราหวังว่าจะมีโอกาสร่วมมือกับพันธมิตรของเรามากยิ่งขึ้นในอนาคต เพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษจากแบรนด์ Harley-Davidson ให้แก่สมาชิกนักขับขี่ในประเทศไทย”