Scania (สแกเนีย) กวาดแชร์ตลาดรถบรรทุกเพิ่ม สวนกระแสตลาดรวมชะลอตัวแรง แนะนำรถบรรทุก Super Euro 5 (ซูเพอร์ ยูโร 5) เจ้าแรกของไทย ชูจุดขายใหม่ทั้งระบบเครื่องยนต์ ประหยัดน้ำมันสูงกว่า 8 % เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมดีขึ้น 5 เท่า คาดช่วยดันยอดขายปีนี้ถึงเป้าแน่
ลุค มูแลน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าวถึงการดำเนินธุรกิจของ Scania ที่ให้ความสำคัญ และมุ่งเน้นด้านความยั่งยืนว่า นโยบายดังกล่าวเป็นหัวใจที่ Scania ยึดมั่น และสนับสนุนมาโดยตลอด กับการพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพสูง ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ดังนั้นการเปิดตัวรถบรรทุก Scania Super Euro 5 วันนี้ จึงไม่ใช่แค่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่เป็นความตั้งใจในการส่งผ่านสิ่งที่ดีที่สุดแก่ธุรกิจ และสังคม
โดยรถบรรทุก Scania Super Euro 5 เป็นรถที่เรามุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีมาอย่างต่อเนื่อง มุ่งหวังที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในหลายมิติ เนื่องจากมาตรฐานยูโร 5 ของ Scania ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเฉพาะมาตรฐานการปล่อยมลพิษเท่านั้น แต่เป็นการยกระดับนวัตกรรม และเทคโนโลยีรถบรรทุกเครื่องยนต์ดีเซลสันดาปใหม่หมด โดยเครื่องยนต์มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีแรงบิดสูงขึ้น แต่ประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้นมากกว่า 8 % เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม มีการเพิ่มระบบเบรคเสริมใหม่ ช่วยยกระดับทั้งความปลอดภัย และการสึกหรอของอะไหล่มากกว่าเดิม ปล่อยมลพิษน้อยกว่ารถบรรทุกยูโร 3 มากถึง 5 เท่า ซึ่งการพัฒนา Scania Super Euro 5 นั้นดำเนินการอย่างต่อเนื่องมากว่า 10 ปี วิ่งทดสอบในสภาพถนนจริงมามากกว่า 10 ล้านกิโลเมตร และจำหน่ายทั่วโลกมาแล้วกว่า 2 ปี ซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายในวงการขนส่ง
ซึ่งความคุ้มค่าของรถบรรทุก Scania Super Euro 5 ในมุมของธุรกิจ และผู้ประกอบการ จะอยู่ที่การได้รถที่เป็นนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมาตรฐานเดียวกันทั่วโลกไปใช้งาน ประหยัดน้ำมัน ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญของธุรกิจ และมีโอกาสมากขึ้นในการได้สัญญาจ้างงานของหลายบริษัทที่มีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน ส่วนของคนขับก็ขับขี่ด้วยความมั่นใจมากขึ้นจากประสิทธิภาพ และระบบความปลอดภัยของรถในทุกสภาพถนน ลดการเกิดอุบัติเหตุ และลดการเหนื่อยล้าจากการขับขี่ นอกจากนั้น การลดการปล่อยไอเสียเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างความยั่งยืนให้แก่โลกอีกด้วย
ดวงใจ พงศ์ประเทืองสุข ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการงานขายและกลยุทธ์ประจำประเทศไทย บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าวถึงการเติบโตของตลาดรถบรรทุกว่า กลุ่มที่เติบโตได้ คือ กลุ่มรถขนส่งเชื้อเพลิงปิโตรเลียม น้ำมัน วัตถุอันตราย ซึ่งวิ่งงานในประเทศ และระหว่างประเทศ และกลุ่มขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักมาก หรือมีโครงสร้างขนาดใหญ่ (Heavy Haulage) เป็นการวิ่งงานโครงการก่อสร้างที่ได้จากนโยบายลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงโครงการขนาดใหญ่ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น รถทั้ง 2 กลุ่มที่ยังมีแนวโน้มเติบโต เป็นกลุ่มที่นิยมเลือกใช้รถบรรทุก Scania ทำให้ยอดจดทะเบียนรถ Scania ปีที่ผ่านมา และปีนี้ แทบไม่ลดลงเลย โดยตอนนี้ลูกค้าเร่งซื้อรถบรรทุก Scania Euro 3 ลอทสุดท้าย และได้แรงส่งจากประกาศของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ที่กำหนดให้รถบรรทุกใหม่ที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ต้องผ่านมาตรฐาน Euro 5 ทำให้ Scania ซึ่งมีรถบรรทุก Euro 5 พร้อมอยู่แล้ว ไม่รอช้าที่จะเปิดตัวรถบรรทุก Scania Super Euro 5 ขึ้นอย่างเป็นทางการในประเทศไทย
ด้านแผน และกลยุทธ์การตลาดนั้น ก่อนการเปิดตัวได้เปิดการจองล่วงหน้า (Pre Booking) กับลูกค้าไปบ้างแล้ว ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี มียอดจองสูงถึง 40 คัน ส่วนหลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะมีการจัดโรดโชว์ (Road Show) ไปยังทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองขับ และสัมผัสถึงประสิทธิภาพของ Scania Super Euro 5 ที่แท้จริง
นอกจากนั้น ยังมีกลยุทธ์เสริมสำคัญที่ช่วยให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถ Scania Super Euro 5 ได้ง่ายขึ้น โดยทาง สแกนเนีย ไฟแนนซ์ ได้เปิดเงื่อนไขพิเศษแก่ผู้สนใจ มีทั้งดาวน์ 0 % และการเช่าดำเนินงาน (Operating Lease) ที่เป็นอีกทางเลือกช่วยให้ลูกค้าผ่อนค่างวดได้ถูกลงอย่างมาก
สำหรับ Scania Super Euro 5 ที่นำเข้ามาจำหน่ายในครั้งนี้ เป็นรถหัวลากทั้ง 4 รุ่น โดย 3 รุ่นจะเป็น 420 แรงม้า และอีก 1 รุ่นเป็น 460 แรงม้า แต่ละรุ่นเหมาะกับลักษณะงานไม่เหมือนกัน
- รุ่น P420 A6x2NZ จะเป็นรถบรรทุกลากหางที่เป็นตู้ผ้าใบ เป็นพื้นเรียบ หรือตู้คอนเทเนอร์
- รุ่น P420 A6x2NA (ADR) เป็นรถบรรทุกแทงค์น้ำมัน หรือสารเคมี จะมีอุปกรณ์ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการขนส่งที่เป็นลักษณะการขนส่งวัตถุอันตราย
- รุ่น P420 A6x2NA เป็นรถบรรทุกเพลาเดียวเหมือนกัน แต่มีระบบเบรคเสริมรีทาร์เดอร์ มีถังน้ำมันเสริมอีกถังหนึ่ง เพื่อตอบโจทย์การขนส่งขึ้นเขา หรือขนส่งระยะทางไกลข้ามประเทศ
- รุ่น G460 A6x4NZ เป็นรถบรรทุกที่มีแรงม้ามากขึ้น เป็นรถขับเคลื่อน 2 เพลา เหมาะกับการขนส่งเครื่องจักรที่มีน้ำหนักมาก
Scania Super Euro 5 นั้นนับว่ามีความคุ้มค่าต่อการลงทุนอย่างมาก เพราะไม่ใช่แค่พัฒนาระบบบำบัดไอเสีย แต่เป็นการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ทั้งหมด ให้แรงบิด และแรงม้ามากขึ้น และยังประหยัดน้ำมันได้มากกว่า มีระบบเบรคเสริมใหม่เพิ่มเติม รวมถึงเพิ่มรายละเอียดอื่นๆ อีกมากมายด้วย
ณรงค์ฤทธิ์ อิทธิสารรณชัย ผู้อำนวยการสนับสนุนการขายและโลจิสติกส์ บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด ได้ให้รายละเอียดของจุดเด่นรถบรรทุก Scania Super Euro 5 ว่านวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ของ Scania Super Euro 5 มีหลายส่วนที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ตัวใหม่ที่พัฒนาระบบฉีดจ่ายน้ำมันใหม่ เรียกว่าระบบ Scania XPI ที่เป็นระบบฉีดจ่ายน้ำมันด้วยแรงดันสูง ทำให้เผาไหม้ได้สมบูรณ์ขึ้น จึงปล่อยไอเสียลดลง เครื่องยนต์ใหม่ถูกออกแบบมาให้ลดแรงเสียดทาน พร้อมมีระบบหล่อเย็นที่พัฒนาขึ้นร่วมกัน การเปลี่ยนฝาสูบแยกเป็นฝาสูบเดี่ยว ทำให้การหายใจของเครื่องยนต์ดีขึ้น มีแรงบิดมากขึ้น อย่างรุ่น 420 แรงม้า จะให้แรงบิดสูงถึง 2,300 นิวทันเมตร มากกว่า Scania รุ่นเดิมถึง 10 % และยังมีรอบเครื่องต่ำกว่าเดิม ช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นถึงอย่างน้อย 8 % ซึ่งหากเปลี่ยนเฉพาะระบบบำบัดไอเสียอย่างเดียว อาจทำให้แรงม้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น
สำหรับระบบเบรคเสริมที่เพิ่มมาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่นั้น คือ เบรค CRB ซึ่งเป็นเทคโนโลยีช่วยให้รถชะลอตัวจากการปล่อยแรงดันออกจังหวะอัด เพื่อลดกำลังเครื่องยนต์ลงเล็กน้อย ทำให้รถชะลอตัว ด้านระบบบำบัดไอเสียนั้น จะไม่มีการไปยุ่งเกี่ยวกับระบบเครื่องยนต์เลย ซึ่งการกำจัดไอเสียจะใช้วิธีฉีดน้ำยาบำบัดไอเสีย หรือแอดบลู (AdBlue) เข้าไปดักจับแกสไนโตรเจนออกไซด์ที่ออกมาจากเครื่องยนต์ ให้กลายเป็นไนโตรเจน และน้ำที่ไม่เป็นอันตราย ก่อนปล่อยสู่ภายนอก ส่วนน้ำยาบำบัดไอเสียก็ไม่ใช่สารอันตราย และไม่ติดไฟ อัตราสิ้นเปลืองในการใช้งานนั้นอยู่ที่ 5-7 ลิตร/น้ำมัน 100 ลิตร ขึ้นอยู่กับการใช้งาน สภาพถนน สภาพน้ำหนักบรรทุก ความเร็วที่วิ่ง เป็นต้น ส่วนน้ำยาบำบัดไอเสียก็หาซื้อได้ไม่ยาก โดยสามารถซื้อได้จากศูนย์บริการ Scania ทั่วประเทศ ซึ่งนักขับสามารถดูระดับน้ำยาได้จากหน้าจอเหมือนการดูน้ำมันเชื้อเพลิง
ด้านการบำรุงรักษา อะไหล่ และการบริการนั้น เครื่องยนต์ซูเพอร์ จะมีความคงทน และอายุการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น ซึ่ง Scania มีความพร้อมอย่างยิ่งในการให้บริการ เพราะรถมาตรฐานยูโร 5 มีใช้ในยุโรปมาตั้งแต่ปี 2552 ทำให้ผู้ประกอบการและผู้ขับขี่ไม่ต้องกังวลกับการดูแลรักษา ซ่อมบำรุง อะไหล่ และความเชี่ยวชาญของศูนย์บริการ Scania ที่พร้อมช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ และแก้ไขทุกปัญหาที่เกิดขึ้น