XPeng G6 เตรียมเปิดตัวในไทย 21 สิงหาคมนี้

Guangzhou Xiaopeng Motors Technology Co., Ltd. หรือ XPeng (เสี่ยวเผิง) เป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน ที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง และมีสำนักงานในเมืองเมาน์เทนวิว รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี หุ้นของ XPeng มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค และตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง

 

 

He Xiaopeng ผู้ก่อตั้ง และประธาน XPeng จบการศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์จาก South China University of Technology โดย He Xiaopeng ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ พร้อมกับเพื่อนชื่อ Liang Jie เพื่อมาเปิดบริษัท UCWeb ทั้งสองร่วมกันพัฒนาแอพพลิเคชันสำหรับมือถือ ต่อมากลายเป็นบราวเซอร์ยอดนิยมในจีน กระทั่งในปี 2014 พวกเขาก็ขายบริษัทให้ยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba ด้วยมูลค่า 4.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

 

 

เริ่มแรก เขาเสนอให้ Alibaba พัฒนารถยนต์ไฟฟ้า แต่กลับถูกปฏิเสธ ดังนั้น He Xiaopeng จึงเริ่มหาทีมมาร่วมสร้าง "Tesla ของคนจีน" ต่อมาจึงได้พบกับ Xia Heng และ He Tao อดีตผู้บริหารระดับสูงของ GAC Group ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยียานยนต์ ในเดือนมกราคม 2015 พวกเขาเริ่มต้นเปิดบริษัท Guangzhou Chengxing Zhidong Automobile Technology ซึ่งก็คือ XPeng Motors ในปัจจุบัน 

 

 

26 กรกฎาคม 2023 กลุ่ม Volkswagen (โฟล์คสวาเกน) ได้ประกาศลงทุน 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ใน XPeng เพื่อซื้อหุ้น 4.99 % ของบริษัท กลุ่ม Volkswagen จะร่วมมือกับ XPeng พัฒนารถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่นของแบรนด์ VW สำหรับกลุ่มรถขนาดกลางในตลาดจีน เพื่อวางจำหน่ายในปี 2026 และในปี 2024 บริษัท XPeng และ Volkswagen Group ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านเทคโนโลยี และการพัฒนาร่วมกันบนพแลทฟอร์ม และซอฟท์แวร์ พัฒนาร่วมกันในการออกแบบ และวิศวกรรมยานยนต์ ทำให้ใช้เวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สั้นลงมากกว่าปกติถึง 30 % 

 

 

สำหรับประเทศไทย ผู้นำเข้ารถยนต์ของ XPeng อย่างเป็นทางการ คือ MGC-Asia หรือบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งกำลังเตรียมเปิดตัวรถเอสยูวีไฟฟ้า 100 % ของ XPeng รุ่น G6 (จี 6) มาทำตลาดเป็นรุ่นแรกในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ นอกจากนั้น ยังมีรถตู้ไฟฟ้า X9 (เอกซ์ 9) ที่จะเปิดตัวในไทยภายในปีนี้ด้วยเช่นกัน

 

 

XPeng G6 รถคูเปเอสยูวี ทรงฟาสต์แบค ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากนิยายไซ-ไฟ ด้วยหน้าตาทันสมัยตั้งแต่ไฟหน้า LED ฝังในชุดกันชนหน้า พร้อมแถบไฟ LED DRL แนวยาว ตามแนวใต้ฝากระโปรง

 

 

ที่เปิดประตูดีไซจ์นเรียบเนียนไปกับตัวถัง กระจกรถแบบไร้กรอบ หลังคากระจกแบบพาโนรามา ไฟท้าย LED แนวยาว ลงตัวกับกันชนหลังสีเดียวกับตัวรถ ตัวรถพัฒนาบนพแลทฟอร์ม SEPA 2.0 ของรถยนต์ไฟฟ้าที่เบา และแข็งแกร่งรุ่นล่าสุด

 

 

เช่นเดียวกับ G9 ซึ่งเป็นพี่ใหญ่ที่ใช้เทคโนโลยี 800 โวลท์ ซึ่งหมายถึง ความสามารถในการชาร์จสูงถึง 280 กิโลวัตต์ ที่สถานีชาร์จแบบเร็ว สามารถชาร์จไฟจากพลังงาน 10-80 % ในเวลาน้อยกว่า 20 นาที

 

 

XPeng G6 มีมิติตัวถังที่ใหญ่สุดในกลุ่ม มีความยาว 4,753 มม. กว้าง 1,920 มม. สูง 1,650 มม. ระยะฐานล้อ 2,890 มม. พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาด 571 ลิตร เพิ่มเป็น 1,374 ลิตร ถ้าพับเบาะหลัง หากนำไปเทียบกับเจ้าตลาดรถไฟฟ้าอย่าง BYD Atto 3 (บีวายดี อัตโต 3) ที่มีความยาว 4,455 มม. กว้าง 1,875 มม. สูง 1,615 มม. ฐานล้อ 2,720 มม. จะพบว่า Xpeng G6 มีขนาดใหญ่กว่าในทุกมิติ รวมถึงพื้นที่เก็บสัมภาระด้วยที่ 440 ลิตร/1,340 ลิตร แต่รถที่มีขนาดใกล้เคียงที่สุดน่าจะเป็น Tesla Model Y ที่มีความยาว 4,751 มม. กว้าง 1,921 มม. สูง 1,624 มม. ฐานล้อ 2,890 มม. และพื้นที่เก็บสัมภาระ 854 ลิตร/2,041 ลิตร

 

 

ภายในห้องโดยสารมีให้เลือก 3 สี สีดำ Starry Night Black สีเทา Qiyu Grey สีน้ำเงิน Cloudy Blue มาตรวัดความเร็วขนาด 10.2 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 14.96 นิ้ว คอนโซลหน้าดีไซจ์นเรียบง่าย พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน 2 ก้าน ระบบอินโฟเทนเมนท์ของ G6 ใช้ระบบปฏิบัติการ Xmart OS มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ XPilot ด้วยระยะฐานล้อที่ยาวถึง 2.89 เมตร และการออกแบบภายในที่ คำนึงถึงพื้นที่ใช้สอย XPeng G6 จึงมีพื้นที่วางขา และพื้นที่เหนือศีรษะที่แม้แต่ชาวยุโรปก็นั่งได้สบาย

 

 

ขุมพลังในรุ่น Standard Range ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า แรงบิด 440 นิวทันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. ความจุแบทเตอรี LFP 66 กิโลวัตต์ชั่วโมง ขับได้ไกลสุด 580 กม. ตามมาตรฐาน CLTC หรือ 445 กม. ตามมาตรฐาน WLTP สามารถรองรับ Super-Fast Charge DC กระแสตรง โดยชาร์จไฟจาก 10-80 % ในเวลา 20 นาที ชาร์จ AC กำลังไฟสูงสุด 11 กิโลวัตต์ โดยชาร์จไฟจาก 5-100 % ใน 7.5 ชม.

 

 

ในรุ่น Long Range ให้กำลังสูงสุด 286 แรงม้า แรงบิด 440 นิวทันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. จากความจุแบทเตอรีแบบ NCM 87.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ขับได้ไกลสุด 755 กม. ตามาตรฐาน CLTC หรือ 570 กม.ตามมาตรฐาน WLTP รองรับ Super-Fast Charge DC กระแสตรง โดยชาร์จไฟจาก 10-80 % ใช้เวลาเพียง 20 นาที ชาร์จปกติ AC กระแสสลับ รองรับกำลังไฟสูงสุด 11 กิโลวัตต์ โดยชาร์จไฟจาก 5-100 % ใช้เวลา 9.5 ชม.

 

 

รุ่น Performance AWD มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ รวม 2 พละกำลังสูงสุด 487 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 660 นิวทันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. แบทเตอรี 800 โวลท์ Technology (NMC) ขนาด 87.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งระยะทางสูงสุด 700 กม. (CLTC) หรือ 550 กม. ตามมาตรฐาน WLTP ใช้เทคโนโลยีการติดตั้งแบทเตอรีแบบ Cell to Body รวมเป็นส่วนเดียวกับโครงสร้างตัวถัง และการขึ้นรูปตัวถังแบบ Die-cast Structure ทำให้ตัวถังมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นถึง 83 %

 

 

XPeng G6 ได้รับมาตรฐานความปลอดภัย E-NCAP และ C-NCAP ระดับ 5 ดาว มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง XPENG Navigation Guided Pilot (XNGP) โดยขับเคลื่อนด้วยพโรเซสเซอร์ NVIDIA Drive Orin 2 ตัว ช่วยประมวลผลเซนเซอร์ขับขี่ 31 ตัว รวมเซนเซอร์ LiDAR 2 ตัว 

- ระบบเตือนออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ LDW (Lane Departure Warning)

- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน และช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping Assist)

- ช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Automatic Emergency Braking)

- ปรับระดับไฟสูงอัตโนมัติ IHB (Smart High Beam)

- ระบบช่วยหลีกเลี่ยงการชนจากรถคันอื่น ที่เคลื่อนที่เข้ามาจากด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)

 

 

XPeng G6 มีสีภายนอกให้เลือก 5 สี ได้แก่

- สีขาว Arctic White

- สีเทา Graphite Gray

- สีดำ Midnight Black

- สีบรอนซ์เงิน Silver Frost

- สีส้ม Fiery Orange

 

 

ได้มีการลงนามสัญญาแต่งตั้งพาร์ทเนอร์ "XPeng" อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน โชว์รูม และศูนย์บริการต้นแบบสาขาหัวหมากเป็นที่แรก โดยจะเปิดตัวช่วงไตรมาสที่ 3 ปีนี้ พร้อมลงนามสัญญาแต่งตั้งพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการกลุ่มแรก รวมทั้งสิ้น 12 ราย ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตลอดจนจังหวัด และเมืองหลัก คือ แจ้งวัฒนะ, ตากสิน, พระราม 2, ราชพฤกษ์, หัวหมาก, เชียงใหม่, พิษณุโลก, ขอนแก่น, นครราชสีมา, อุดรธานี, ราชบุรี และพัทยา โดยเริ่มทยอยเปิดให้บริการในช่วงไตรมาสที่ 3 ปีนี้ และอยู่ในขั้นตอนคัดเลือกพาร์ทเนอร์ในพื้นที่สำคัญๆ อาทิ จังหวัดระยอง เพชรบุรี-หัวหิน สงขลา-หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี และภูเก็ต รวมถึงพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อครอบคลุมบริการหลังการขาย ให้แก่เจ้าของรถ