สำหรับใครที่มีความชื่นชอบรถจักรยานยนต์เซกเมนท์โมเดิร์น คลาสสิค อันเลื่องชื่อของ Triumph Motorcycles ต้องไม่พลาดกับ Bonneville Stealth Edition (บอนเนวิลล์ สเตลธ์ เอดิชัน) ที่เป็นคอลเลคชันพิเศษของรถจักรยานยนต์ Triumph (ทไรอัมฟ์) ตระกูล Bonneville ทั้ง 8 รุ่น ได้แก่ Bonneville Speedmaster Red Stealth Edition (บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์ เรด สเตลธ์ เอดิชัน) Bonneville Bobber Purple Stealth Edition (บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ เพอร์เพิล สเตลธ์ เอดิชัน) Bonneville T100 Blue Stealth Edition (บอนเนวิลล์ ที 100 บลู สเตลธ์ เอดิชัน) และ Bonneville T120 Blue Stealth Edition (บอนเนวิลล์ ที 1200 บลู สเตลธ์ เอดิชัน) Speed Twin 1200 Red Stealth Edition (สปีด ทวิน 1200 เรด สเตลธ์ เอดิชัน) Speed Twin 900 Green Stealth Edition (สปีด ทวิน 900 กรีน สเตลธ์ เอดิชัน) Scrambler 900 Orange Stealth Edition (สแกรมเบลอร์ 900 ออเรนจ์ สเตลธ์ เอดิชัน) และ Bonneville T120 Black Stealth Edition(บอนเนวิลล์ ที 120 บแลค สเตลธ์ เอดิชัน)
สำหรับ Triumph Bonneville Stealth Edition ทุกรุ่นได้ถูกออกแบบถังน้ำมันอันเป็นเอกลักษณ์ โดยการทำสีด้วยมืออันน่าทึ่ง และโดดเด่นยิ่งขึ้นยามอยู่ในแสงไฟ ซึ่งจะเผยให้เห็นสีสันอันเด่นชัด เมื่ออยู่ภายใต้แสงสว่าง ทำให้รถจักรยานยนต์ทุกคันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริง ครั้งนี้จะพาทุกคนไปยลโฉมความงามของทั้ง 8 รุ่นอย่างใกล้ชิดให้มากขึ้น ซึ่งทุกรุ่นพร้อมให้ทุกคนได้จับจองเป็นเจ้าของ
เริ่มต้นด้วย Bonneville Speedmaster Red Stealth Edition ราคา 655,000 บาท มาพร้อมการออกแบบด้วยสีแดงเข้มใหม่ ซึ่งช่วยเสริมประกายความโดดเด่นยิ่งขึ้น เมื่ออยู่ท่ามกลางแสงแดด ซึ่งการลงสีดังกล่าว ช่วยเสริมความเป็นคัสตอมสไตล์ Laid-Back อันเป็นเอกลักษณ์ของสปีดมาสเตอร์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งผสมผสานอย่างลงตัวกับเครื่องยนต์ Bonneville ขนาด 1200 ซีซี มาตรฐาน Euro 5 ให้แรงบิดที่นุ่มนวล ส่งผลให้มีสมรรถนะ และการควบคุมรถที่ดี ตลอดจนการขับขี่ที่ผ่อนคลาย และสะดวกสบาย
ต่อด้วย Bonneville Bobber Purple Stealth Edition ราคา 655,000 บาท ถูกคัสตอมสไตล์แบบ Stripped Back กับสีม่วงเข้มแสนสะดุดตา ด้านสมรรถนะ และขีดความสามารถ มีแรงบิดอันน่าทึ่ง 106 นิวทันเมตร ที่ 4,000 รตน. ในขณะที่คลัทช์เสริมแรงบิดช่วยให้การทำงานได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ทำให้ Bobber เป็นรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่ง่าย และมีความสะดวกสบายสูง อีกทั้งล้อหน้าขนาดใหญ่ 16 นิ้ว และโช้คหน้าขนาด 47 มม. ทำให้ส่วนหน้าของรถรุ่นนี้ดูบึกบึน และสง่างามยิ่งขึ้น
Bonneville T100 Blue Stealth Edition ราคา 489,000 บาท โดดเด่นด้วยสีน้ำเงิน ทำให้เพียบพร้อมไปทั้งรูปลักษณ์ สไตล์ รวมถึงการขับขี่ที่สร้างความมั่นใจ ขณะที่เครื่องยนต์ Bonneville 900 ซี ซี ให้พละกำลังสูงถึง 65 แรงม้า ที่ 7,400 รตน. พร้อมแรงบิดสูงสุด 80 นิวทันเมตร ที่ 3,750 รตน. ทำให้ได้คุณลักษณะของเครื่องยนต์ที่ตอบสนองได้รวดเร็ว ด้วยกำลังที่รอบต่ำ และความสามารถในรอบสูง เพื่อการขับขี่ที่เร้าใจ และสนุกสนาน
Bonneville T120 Blue Stealth Edition ราคา 615,000 บาท มาพร้อมสีน้ำเงินอันโดดเด่น ที่ผสานสไตล์คัสตอมที่ร่วมสมัยให้กับรถโมเดิร์นคลาสสิคขนานแท้ให้มีความน่าดึงดูดมากขึ้น นับเป็นหนึ่งในรถจักรยานยนต์ที่มีความโดดเด่นที่สุดในโลก ทั้งอัดแน่นเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและคุณสมบัติระดับสูง อาทิ ชอคอับหน้าขนาด 41มม. ระบบกันสะเทือนหลังแบบคู่ที่สามารถปรับพรีโหลดได้ และคาลิเพอร์เบรคหน้าจาก Brembo ที่มาพร้อมระบบเบรค ABS ด้านเครื่องยนต์สูบคู่ขนาด 1200 ซีซี ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ ให้แรงบิดสูงสุด 105 นิวทันเมตรที่ 3,500 รตน. และกำลังสูงสุด 80 แรง ม้า ที่ 6,550 รตน. จึงมอบสมรรถนะที่เร้าใจตลอดการขับขี่
Bonneville T120 Black Stealth Edition ราคา 615,000 บาท มาพร้อมรูปลักษณ์ที่แตกต่างไปจากรถรุ่นอื่นในคอลเลคชันด้วยสีเงินด้านที่สวยงามเพิ่มความโดดเด่น ด้านรูปลักษณ์ที่ดุดัน และโฉบเฉี่ยว มีองค์ประกอบ และชิ้นส่วนระดับพรีเมียมสีดำเงา รวมถึงขอบล้อ, บังโคลนแบบด้าน, ฝาครอบเครื่องยนต์, กระจก, แฮนด์บาร์, กรอบครอบไฟหน้า, ไฟเลี้ยว และท่อไอเสีย พร้อมด้วยเบาะนั่งสีน้ำ ตาลที่เรียบหรู และมีสไตล์พร้อมด้วยโลโก Triumph อันโดดเด่น ส่วนเครื่องยนต์ Bonneville ขนาด 1200 ซีซี ให้แรงบิดทรงพลัง ผสานแรงบิดรอบต่ำและกำลังสูงสุดได้อย่างน่าประทับใจ พร้อมด้วยสไตล์การคัสตอมที่น่าทึ่ง ทำให้รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่หลายคนต้องเหลียวมองสำหรับการขับขี่สบายๆ ในช่วงวันหยุด หรือสำหรับการเดินทางในแต่ละวัน
Speed Twin 1200 Red Stealth Edition ราคา 615,000 บาท รถจักรยานยนต์ที่เป็น DNA ของ Bonneville ที่อยู่เหนือกาลเวลา เข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบกับการเคลือบสีแดงที่มอบความสดใสราวกับลูกกวาดที่ส่องประกายกลางแสงสว่าง ด้านเครื่องยนต์สูบคู่ Bonneville ขนาด 1200 ซีซี ให้พละกำลังที่แข็งแกร่ง 100 แรงม้า ที่ 7,250 รตน. นอกจากนี้เสียงที่โดดเด่นยังเสริมด้วยท่อเก็บเสียงสเตนเลสส์ปัดเงาคู่แบบสปอร์ททรงเมกาโฟน ที่ได้รับการคิดค้นอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เสียงคำรามของเครื่องยนต์ที่ทุ้มลึกอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมมอบความเพลิดเพลินจากความสามารถในการขับขี่แบบไดนามิค ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ที่น่าดึงดูด และโครงรถช่วงล่างสำหรับการใช้งานแบบโรดสเตอร์โดยเฉพาะ รวมถึงระบบกันสะเทือน และยางสเปคสูงที่ให้การควบคุมรถที่มั่นใจ คล่องตัว และอิสระตามความต้องการ
Speed Twin 900 Green Stealth Edition ราคา 427,000 บาท โดดเด่นด้วยดีไซจ์นตัวถังสีเขียวเข้ม สร้างความสะดุดตา ชวนให้นึกถึงเหล่ารถแข่งสีเขียวอันเป็นเอกลักษณ์ของอังกฤษ ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Bonneville สูบคู่ขนาด 900 ซีซี แรงบิดสูง อัดแน่นด้วยประสบการณ์การขับขี่ที่แสนเร้าใจ และสะดวกสบาย รวมถึงรูปลักษณ์คลาสสิคที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถคัสตอมอันน่าดึงดูด ทั้งล้อที่หล่อขึ้นจากอลูมิเนียม และขัดเงาเพื่อเก็บรายละเอียด ตลอดจนความสะดวกสบาย และสไตล์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ยิ่งไปกว่านั้น การขับขี่ที่คล่องตัวยังช่วยเสริมความมั่นใจ ด้วยเบาะที่นั่งสูง 765 มม. เบรคหน้าจาก Brembo โหมดการขับขี่ 2 รูปแบบ ระบบเบรค ABS และระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (Traction Control) แบบเปิด/ปิดได้ ทำให้เป็นรถโมเดิร์นคลาสสิ8ที่ประสบความสำ เร็จสูงสุดของ Triumph ในเวอร์ชันสุดพิเศษ
Scrambler 900 Orange Stealth Edition ราคา 496,000 บาท ถูกแต่งแต้มด้วยประกายสีส้มเข้มอันน่าทึ่ง ถือเป็นอีกหนึ่งรถจักรยานยนต์ที่สามารถขับขี่เพลิดเพลินได้บนทุกถนน ด้วยเครื่องยนต์ Bonneville แรงบิด 900 ซีซี ซึ่งได้รับการปรับแต่งมาเพื่อให้มีกำลังขับเคลื่อนสูง ขณะที่คันเร่งไฟฟ้าให้สมรรถนะในการขับขี่ และการควบคุมที่ยอดเยี่ยม ทั้งโครงรถที่เป็นเอกลักษณ์ แฮนด์รถอลูมิเนียมแบบกว้าง และที่พักเท้าซึ่งอยู่ในจุดกึ่งกลาง เป็นการผสมผสานที่ปลุกเร้าความมั่นใจ และให้ทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยมเมื่อต้องขับบนเส้นทางออฟโรด หรือในการจราจรที่คับคั่ง ด้วยล้อซี่ลวดสีดำขลับด้านหน้าขนาด 19 นิ้ว ล้อหลังขนาด 17 นิ้ว และเบาะที่นั่งสูง 790 มม. ช่วยเพิ่มความรู้สึกมั่นใจ เสริมด้วยฐานที่นั่งแบบแคบ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถวางเท้าบนพื้นได้เมื่อต้องจอดอยู่กับที่ได้เป็นอย่างดี
Triumph Bonneville Stealth Edition ทั้ง 8 รุ่น ยังมอบความคุ้มค่าด้วยการรับประกันคุณภาพ Triumph Warranty 2 ปีแบบไม่จำกัดระยะทาง รวมถึงความคุ้มค่าของช่วงเวลาการเข้ารับบริการเชคระยะที่สูงถึง 16,000 กม. หรือ 12 เดือน ตลอดจนฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชม. (Triumph Roadside Assistance) เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูม 12 แห่งทั่วประเทศ