รถล่าสุด
Denza D9 ปฐมบทความหรูหราจาก BYD ในร่าง MPV ราคา 1,999,900-2,699,900 บาท (ช่วงแนะนำ)
บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด เปิดตัวแบรนด์ Denza (เดนซา) ยนตรกรรมพลังงานใหม่ในกลุ่มธุรกิจ BYD ที่นำเสนอนิยามใหม่ของความหรูหราให้กับทุกการเดินทาง เจาะกลุ่มผู้บริโภคในตลาดระดับบนด้วยดีไซจ์นอันเป็นเอกลักษณ์ เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อความสะดวกสบาย และความปลอดภัยเหนือระดับ พร้อมขุมพลังของนวัตกรรมที่ตอกย้ำจุดยืนด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างเสริมโลกที่ยั่งยืนให้กับทุกคน พร้อมทั้งเปิดตัว Denza D9 (เดนเซา ดี 9) โมเดลแรกอย่างเป็นทางการสำหรับตลาดประเทศไทย โดยประกาศราคาขายแนะนำ 2 รุ่นย่อย ได้แก่ Denza D9 Performance AWD ราคา 2,699,900 บาท และ Denza D9 Premium ราคา 1,999,900 บาท โดยเป็นราคาพิเศษเฉพาะผู้ที่จองตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 - 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เท่านั้น และสำหรับผู้ที่จองรถ Denza D9 Performance AWD ภายในวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 และรับรถภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 จะได้รับโฮมชาร์เจอร์ ABB พร้อมบริการติดตั้ง เพิ่มอีกด้วย
แบรนด์ Denza ถือกำเนิดขึ้นในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคยานยนต์พลังงานใหม่ โดยพัฒนาและขับเคลื่อนโดยบีวายดีอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566 ซึ่งได้ปรับโครงสร้างภายในทำให้แบรนด์อยู่ภายใต้ BYD 100% โดยยังคงเน้นความโดดเด่นในการหลอมรวมเทคโนโลยี และความหรูหราเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ผ่านการนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหลากหลายประเภทที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นรถครอสโอเวอร์ (Crossover) อย่าง Denza N7, รถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) อย่าง Denza N8, รถแฮทช์แบ็กทรงสปอร์ตระดับพรีเมียมอย่าง Denza Z9 GT และรถตู้อเนกประสงค์ (MPV) Denza D9 ที่เน้นสมรรถนะ ความหรูหรา และเทคโนโลยีอัจฉริยะ ทั้งยังการันตีด้วยความเป็นที่หนึ่งในตลาดรถตู้อเนกประสงค์ของจีนในปี พ.ศ. 2566 โดยมียอดจอง และยอดขายมากกว่า 250,000 คัน
Denza D9 ดีไซจ์นหรูสะกดทุกสายตาและสมรรถนะที่ไม่เป็นรอง
ลักชวรี MPV ที่ผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเพื่อรังสรรค์ที่สุดแห่งประสบการณ์การเดินทางอันหรูหรา และเป็นเอกลักษณ์ด้วยการออกแบบดีไซจ์นด้านหน้ารถแบบ Pi Motion พร้อมด้วยไฟหน้ารูปแบบ Meteor Arrow และไฟท้ายออกแบบด้วยแนวคิดฝนดาวตกแห่งกาลเวลา มาพร้อมกับสมรรถนะอันเป็นเลิศจากมอเตอร์ไฟฟ้าทรงพลังที่ให้กำลังสูงสุดถึง 275 กิโลวัตต์/369 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 470 นิวทัน-ม./47.9 กก.-ม. ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจาก BYD Blade Battery ขนาด 103.36 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 580 กม. ตามมาตรฐาน NEDC โดยสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 6.9 วินาที เพลิดเพลินกับการเดินทางที่ราบรื่นกว่าที่เคยด้วยระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ DiSus-C เทคโนโลยีช่วงล่างแบบไฟฟ้าเอกสิทธิ์เฉพาะจาก BYD รองรับการปรับแต่งความกระด้าง และความนุ่มนวลผ่านระบบอิเล็กทรอนิคส์ อีกทั้งยังช่วยเสริมประสิทธิภาพในการควบคุมรถ ลดปัญหาการยุบตัวของตัวรถ การพลิกคว่ำ การเกิดแรงกระชากเมื่อเบรกหรือเหยียบคันเร่ง
ความสะดวกสบายตลอดการเดินทางที่โดดเด่น
พื้นที่ภายในของ Denza D9 ให้ความรู้สึกโปร่งสบายด้วย Panoramic Glass Roof ขนาด 1.1 ตารางเมตร พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า ความกว้างขวางสะดวกสบายพร้อมรองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง เพิ่มระดับความหรูหราด้วยเบาะหุ้มหนังแท้ Nappa เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่สอง ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง มาพร้อมระบบพนักพิงดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง รวมทั้งยังสามารถปรับหมอนรองศรีษะให้เข้ากับสรีระศรีษะได้อีกด้วย นอกเหนือจากนั้นยังมาพร้อมกับระบบนวดไฟฟ้า และระบบระบายอากาศ ยกระดับความสะดวกสบายขึ้นไปอีกขั้นด้วยระบบจดจำตำแหน่งที่นั่งเบาะคนขับ และผู้โดยสารแถวที่สอง ที่มาพร้อมฟังก์ชัน Welcome Seat และปุ่ม reset ตั้งค่าเบาะ ทำให้สะดวกสบายในการขึ้น/ลงรถ ครบครันด้วยระบบมัลทิมีเดียเพื่อความบันเทิง อาทิ หน้าจอมัลติมีเดียสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าขนาด 15.6 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงชั้นนำระดับโลก Dynaudio Hi-Fi Class ลำโพง 14 ตำแหน่ง ที่พักแขนเบาะนั่งโดยสารแถวที่สอง พร้อมหน้าจอ LCD แบบมัลทิฟังก์ชัน ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายทั้งหมด 3 ตำแหน่ง ได้แก่ ห้องโดยสารตอนหน้า 1 ตำแหน่ง และห้องโดยสารแถวที่สองอีก 2 ตำแหน่ง ทั้งยังมีระบบตู้เย็นภายในรถยนต์ที่สามารถปรับแต่งองศาตั้งแต่ -6 จนถึง 50 และสัญญาณอินเตอร์เน็ต 4G ในตัว ให้ทุกคนใช้ชีวิตยุคออนไลน์ได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อ พร้อมทั้งเติมเต็มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องโดยสารด้วยกระจกกันเสียง 2 ชั้นรอบคัน
การออกแบบ
การออกแบบภายใต้แนวคิด DENZA π-Motion สะท้อนความทันสมัย และความหรูหราของแบรนด์ โดยผสานเทคโนโลยี และรูปลักษณ์ที่ทันสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
• ด้านหน้ารถแบบ Pi Motion
O การออกแบบด้านหน้าของ DENZA π-Motion ใช้แนวคิด Pi Motion (ไพร์ โมชั่น) นำเสนอความโมเดิร์นและความหรูหรา มาพร้อมไฟหน้ารูปแบบ Meteor Arrow และกระจังหน้าแบบฝนดาวตกสีเงิน
• ด้านหลังไฟท้ายออกแบบด้วยแนวคิดฝนดาวตกแห่งกาลเวลา
O มาพร้อมกับประตูไฟฟ้าคู่สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ยกระดับความหรูหราและความสะดวกสบาย เสริมด้วยยางเก็บเสียงคุณภาพสูงเพื่อให้ห้องโดยสารเงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัวตลอดการเดินทาง
• ระบบไฟส่องสว่างรอบคัน
O ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED มาพร้อมกับระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ
O ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
O ระบบไฟเลี้ยวด้านหลังแบบ Sequential
O ไฟเบรกบน ดวงที่ 3 แบบ LED
O ระบบช่วยควบคุมไฟสูงอัจฉริยะ (IHBC)
O ฟังก์ชันหน่วงเวลาการปิดไฟหน้า Follow-Me-Home
O ระบบไฟส่องมุมอับสายตา LED เมื่อเปิดไฟเลี้ยงหรือหมุนพวงมาลัยเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ
O แสงไฟตกแต่งช่องชาร์จไฟแบบมัลทิคัลเลอร์
มิติตัวถัง
• ความยาว 5,250 มม.
• ความกว้าง 1,960 มม.
• ความสูง 1,920 มม.
• ระยะฐานล้อ 3,110 มม.
• ระยะห่างของล้อ คู่หน้า/คู่หลัง 1,675/1,675 มม.
• รัศมีวงเลี้ยงแคบสุด 5.95 ม.
• ความสูงใต้ท้องรถไม่รวมน้ำหนักบรรทุก 155 มม.
• ความสูงใต้ท้องรถรวมน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 140 มม.
• ความจุสัมภาระด้านท้าย 410 ลิตร
• ความจุสัมภาระด้านท้ายสูงสุด 2,310 ลิตร
• ความสะดวกสบายและความปลอดภัย
O ครบครันทั้งระบบอำนวยความสะดวก ระบบความปลอดภัย และระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ มั่นใจได้ทุกการเดินทาง
O เซ็นเซอร์ตรวจจับน้ำฝนพร้อมก้านปัดน้ำฝนแบบไร้โครงเหล็ก
O สำหรับรุ่น Performance AWD กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติพร้อมกระจกมองหลังแบบสตรีมมิ่งกล้องมองภาพ (ติดตั้งในตัว)
• ห้องโดยสารที่ทันสมัย
O ห้องโดยสารเพิ่มความหรูหราในการสัมผัสสำหรับรุ่น Performance AWD ด้วยเพดานห้องโดยสารบุด้วยหนังกลับแบบพรีเมียม และเพดานห้องโดยสารแบบผ้าในรุ่น Premium
O ประตูผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าแบบผ่อนแรงปิด
O ห้องโดยสารมาพร้อมกับซันรูฟพร้อมม่านบังแดดสำหรับห้องโดยสารด้านหน้า และ หลังคากระจกขนาด 1.1 ตารางเมตร พร้อมม่านบังแดดเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
O ระบบแสงไฟสร้างบรรยากาศแบบมัลติคัลเลอร์ พร้อมโหมดต่างๆ เพื่อปรับบรรยากาศห้องโดยสารให้มีความหรูหราเพิ่มมากยิ่งขึ้น
O หน้าจอเรือนไมล์ผู้ขับขี่แบบ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว แบบ 3 มิติ
O ระบบมัลติมีเดียเพื่อความบันเทิงภายในห้องโดยสาร ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอสัมผัสระบบมัลติมีเดียสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าขนาด 15.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ รวมถึงรองรับ Apple CarPlay® และ Android Auto™ แบบไร้สาย ระบบเครื่องเสียงพรีเมียมแบบ Hi-Fi Class Dynaudio พร้อมสำโพง 14 ตำแหน่ง
O สำหรับรุ่น Performance AWD เสริมด้วยระบบแสดงผลบนกระจกหน้า ขนาด 12 นิ้ว (W-HUD) เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ
O เบาะนั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมระบบพนักพิงดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง ระบบจดจำตำแหน่งที่นั่งเบาะคนขับ เบาะนั่งโดยสารแถวที่สอง ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทางพร้อมระบบพนักพิงดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง โดยเบาะที่นั่งทั้งสองแถวมาพร้อมระบบนวดไฟฟ้าและระบบระบายอากาศ ระบบจดจำตำแหน่งเบาะนั่งโดยสารแถวที่สอง หน้าจอ LCD แบบมัลติฟังก์ชันบริเวณที่พักแขนแถวที่สองสำหรับควบคุมฟังก์ชันต่างๆ อย่างง่ายดาย
O ทั้งนี้เบาะนั่งยังมาพร้อมกับพนักพิงศรีษะที่สามารถปรับระดับสูงต่ำ และการปรับทรงให้เข้ากับสรีระศรีษะได้ 2 ทิศทางสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า และ ปรับทรงให้เข้ากับสรีระศรีษะ 4 ทิศทางสำหรับผู้โดยสารแถวที่สอง
O ระบบตู้เย็นภายในรถยนต์ความจุ 7.5L ที่สามารถปรับช่วงองศาได้ตั้งแต่ -6 จนถึง 50 องศา และที่วางแก้วรอบคัน 12 ใบ ครอบคลุมทุกที่นั่ง
O ระบบปรับอากาศแบบอิสระ 3 โซน - ผู้ขับขี่ ผู้โดยสารตอนหน้าและห้องโดยสารตอนหลัง พร้อมระบบกรองอากาศ IONIZER และระบบกรองฝุ่น PM2.5 แบบประสิทธิภาพสูง (CN95)
O ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย 3 จุด (กำลังสูงสุด 50W) ประกอบด้วย 1 จุดในห้องโดยสารตอนหน้า และ 2 จุด สำหรับเบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่สอง
o แหล่งจ่ายไฟรอบคัน 7 จุด
- ช่องจ่ายไฟ 12V และ ช่อง USB - C และ USB - A อย่างละ 1 ตำแหน่ง สำหรับผู้โดยสารด้านหน้า
- ช่อง USB - C 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้โดยสารแถวที่สอง
- ช่อง USB - C 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้โดยสารแถวที่สาม
O กระจกเปิดปิดอัตโนมัติแบบสัมผัสสวิตช์ครั้งเดียวพร้อมระบบป้องกันการหนีบ
o กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติและปรับองศาไฟฟ้า พร้อมระบบทำความร้อนไล่ฝ้า
o กระจกมองข้างพับเก็บไฟฟ้า
o ระบบจดจำองศากระจกมองหลัง
o เซ็นทรัลล็อก
o ประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า (สามารถตั้งค่าการจดจำตำแหน่งได้)
o รองรับการตอบสนองคำสั่งเสียงอิสระ 4 โซน
o ระบบ Keyless Entry และ Keyless Start
o ระบบควบคุมการสตาร์ทรถยนต์ระยะไกล
o ระบบควบคุมการเปิดแอร์ล่วงหน้าระยะไกล
o รองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 4G
o รองรับการอัพเดทซอฟแวร์ผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ต (OTA)
o Denza กุญแจดิจิทอล NFC ที่จะเปลี่ยนโทรศัพท์ของคุณเป็นกุญแจอัจฉริยะ
o ระบบกุญแจแบบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ NFC (NFC Card)ข้อมูลขนาดตัวถัง
• e-Platform 3.0 ที่พัฒนาเฉพาะสำหรับรถพลังงานไฟฟ้าที่เป็นเอกสิทธิ์ของ BYD ที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนแบบ 8 in 1
• BYD Blade Battery ความจุแบตเตอรี่สูงสุด 103.36 กิโลวัตต์ชั่วโมง
• ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าสูงสุด ตามมาตรฐานการทดสอบ NEDC
O รุ่น Premium 600 กม.
O รุ่น Performance AWD 580 กม.
• แพลตฟอร์มช่วงล่างอัจฉริยะ DiSus-C สำหรับรุ่น Performance AWD เพื่อความเป็นที่สุดของความสบายระหว่างการโดยสาร
การพัฒนาด้วยเทคโนโลยีระบบกันสะเทือนแบบแอคทีฟ
• ก้าวข้ามขีดจำกัดทางกลไกของระบบกันสะเทือนแบบพาสซีฟ เพื่อสัมผัสถึงระบบกันสะเทือนที่มีแรงอัด และแรงคืนตัวที่มีประสิทธิภาพ
O รองรับการปรับแต่งความแข็งกระด้าง และความนุ่มนวลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสัมผัสประสบการณ์ความสบายของการโดยสารตามที่คุณเลือก
O อัตราส่วนแรงอัด และแรงคืนตัวที่มีช่วงระยะของการอัดและคืนตัวที่มากกว่าระบบกันสะเทือนทั่วไปหลายเท่า
O ระบบตรวจสอบผ่านเซนเซอร์ตรวจจับการสั่นสะเทือนของการยุบ และการคืนตัวของรถรวมถึงตรวจจับอาการของรถทั้งคัน โดยระบบควบคุมจะประมวลผลเพื่อควบคุม โซลินอยด์วาล์วผ่านระบบอิเลคทรอนิคส์ของระบบกันสะเทือน เพื่อช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาของการทรงตัวที่ไม่มีเสถียรภาพ ไม่ว่าจะเป็นการยุบตัวของตัวรถ การพลิกคว่ำ การเกิดแรงกระชากเมื่อเบรคหรือเหยียบคันเร่ง ซึ่งไม่เพียงส่งผลให้มีรถสามารถควบคุมให้มีความสบายในการโดยสารอย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเสริมประสิทธิภาพในการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ภาพรวมการเสริมประสิทธิภาพที่เด่นชัดมากยิ่งขึ้น
• ประสิทธิภาพด้านความสบาย:
O ระบบกันสะเทือนอิเลคทรอนิคส์ ที่จะช่วยให้แรงหน่วงของระบบกันสะเทือนที่น้อยลง ที่จะช่วยเพิ่มให้ระหว่างการโดยสารสบายมากยิ่งขึ้น
• ประสิทธิภาพการควบคุม:
O ระบบกันสะเทือนแบบอิเลคทรอนิคส์ ก็ยังสามารถสร้างแรงหน่วงที่มากกว่าเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการควบคุมรถให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่ระบบกันสะเทือนแบบแอคทีฟจะมีผลลัพธ์ที่แตกต่าง และโดดเด่นกว่าระบบกันสะเทือนทั่วไปในท้องตลาดอย่างชัดเจน
ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค
• ระบบขับเคลื่อน
O รุ่น Premium ขับเคลื่อนล้อหน้า
O รุ่น Performance AWD ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา
• กำลังรวมสูงสุด
O รุ่น Premium 230 กิโลวัตต์/308 แรงม้า
O รุ่น Performance AWD 275 กิโลวัตต์/369 แรงม้า
• แรงบิดรวมสูงสุด
O รุ่น Premium 360 นิวทัน-ม./36.7 กก.ม.
O รุ่น Premium 470 นิวทัน-ม./47.9 กก.ม.
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที)
O รุ่น Premium ภายใน 9.5 วินาที
O รุ่น Performance AWD ภายใน 6.9 วินาที
• ระบบกันสะเทือน
O ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบ แมคเฟอร์สันสตรัท
O ระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบ มัลทิลิงก์
O มาพร้อมกับจานเบรคแบบมีช่องระบายอากาศทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
O รุ่น Premium ติดตั้ง ระบบกันสะเทือนปรับอัตโนมัติตามความเร็วแบบ FSD
O รุ่น Performance ครั้งแรกกับการติดตั้งระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ DiSus-C ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD ในประเทศไทย
• กำลังการชาร์จ
O รองกรับการชาร์จกระแสสลับ AC – กำลังสูงสุด 11 กิโลวัตต์ (3 เฟส)
O รองรับการชาร์จกระแสตรง DC แบบ CCS2 - กำลังสูงสุด166 กิโลวัตต์
• ความสบายห้องโดยสาร
O VIP Cockpit จำนวน 3 แถว รวม 7 ที่นั่ง (รูปแบบการจัดเรียงที่นั่งแบบ 2-2-3)
• ห้องโดยสารที่มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยและระบบขับขี่อัจฉริยะ
O ระบบการป้องกันอุบัติเหตุก่อนจะเกิดการชน Active Safety
- ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC)
- ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS)
- ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรค (EBD)
- ระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
- ระบบช่วยเบรคเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาด้านหน้า (FCTA)
- ระบบช่วยเบรคเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาด้านหน้า (FCTB)
- ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน (ELKA)
- ระบบช่วยช่วยกระจายแรงเบรคอัจฉริยะ (HBA)
- ระบบช่วยควบคุมและช่วยป้องกันการพลิกคว่ำ (RMI)
O อุปกรณ์ความปลอดภัยหลังจากการชนเกิดขึ้น Passive Safety
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้าฝั่งคนขับ และผู้โดยสารตอนหน้า
- ถุงลมนิรภัยด้านข้างฝั่งคนขับ และผู้โดยสารตอนหน้า
- ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับผู้โดยสารแถวที่สอง
- ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง - ฝั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ผู้โดยสารแถวที่สอง และผู้โดยสารแถวที่สาม
O ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving)
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันอัจฉริยะ (ICC)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
- ระบบช่วยแจ้งเตือนอันตรายจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ (DMS)
- ระบบควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน (HHC)
- ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)
- เซนเซอร์ช่วยตรวจจับวัตถุรอบคัน 8 จุด
- กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
- ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD)
- ระบบช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
- ระบบจดจำป้ายสัญญาณจราจร (TSR)
- ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า (FCW)
- ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง (RCW)
เอกสิทธิ์ด้านบริการสำหรับลูกค้า Denza โดยเฉพาะ
โชว์รูม และศูนย์บริการแบรนด์ Denza นำเสนอบริการระดับพรีเมียมโดยบุคลากรทั้งหมดจาก DENZA ไม่ว่าจะเป็นพนักงานฝ่ายขาย และทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเพื่อมอบประสบการณ์และความประทับใจให้กับลูกค้าตั้งแต่ก้าวแรก โดยทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านสำคัญในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดใหญ่ในประเทศไทย พร้อมมอบความสะดวกสบายในการเข้าถึงให้กับลูกค้าหลากหลายพื้นที่ รวมจำนวนทั้งสิ้น 10 แห่ง ประกอบด้วย
• กรุงเทพมหานคร 3 แห่ง ได้แก่ สาธุประดิษฐ์ เพชรบุรีตัดใหม่ และศรีนครินทร์
• ต่างจังหวัด 7 แห่ง ได้แก่ ระยอง ชลบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา สุราษฎร์ธานี และภูเก็ต