ธุรกิจ
Jaecoo 7 PHEV ทำสถิติใหม่วิ่งได้ไกลกว่า 1,427 กม.
![](https://autoinfo.co.th/uploads/2024042121525456.jpg)
Jaecoo 7 PHEV (เจคู 7 พีเอชอีวี) (ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ) ออกเดินทางจากประเทศสิงคโปร์ ผ่านประเทศมาเลเซีย จนมาถึงอำเภอหาดใหญ่ ประเทศไทย เพื่อทดสอบระยะการขับขี่สูงสุดด้วยเครื่องยนต์พลัก-อิน ไฮบริด ผลทดสอบจากการขับรถ Jaecoo 7 PHEV ทั้ง 5 คัน สามารถทุบสถิติเดิมด้วยระยะทางกว่า 1,427.5 กม. จากการใช้น้ำมัน 1 ถัง และแบทเตอรี 1 ชาร์จ
เอมิลี เลค รองประธาน (Jaecoo) ประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า “เรารู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้แสดงสมรรถนะ และศักยภาพของรถยนต์ Jaecoo 7 PHEV ให้ตลาดในประเทศมาเลเซีย และประเทศ อื่นๆ ได้เห็นว่ารถรุ่นนี้ผ่านการทดสอบอย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดเส้นทาง สะท้อนถึงคำมั่นของแบรนด์ Jaecoo ที่มุ่งมั่นในการมอบรถยนต์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภคด้วยเทคโนโลยีระบบ Super Hybrid (SHS หรือ Super Hybrid System) ของเรา เป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในกลุ่มเทคโนโลยีแถวหน้าของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังเป็นเทคโนโลยี PHEV แบบเดียวที่รองรับการชาร์จไฟโดยใช้ไฟฟ้ากระแสตรง (Direct Current หรือ DC) รวมถึงมีข้อดีอีกมากมายในรถยนต์ Jaecoo 7 PHEV นี้
จากการทดสอบการขับขี่ระยะไกลผ่าน 3 ประเทศ Jaecoo 7 PHEV มีสมรรถนะเหนือกว่าตัวเลขที่ระบุในรายละเอียดทางเทคนิค เนื่องจากรถรุ่นนี้สามารถขับขี่โดยใช้น้ำมันเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 947 กม. (โดยที่น้ำมันยังคงเพียงพอในการขับขี่อีก 372 กม.) และขับขี่โดยใช้ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 108 กม. ซึ่งไกลกว่าระยะทางที่ระบุในรายละเอียดทางเทคนิคถึง 18 กม. การทดสอบการขับขี่ครั้งนี้ยังเป็นการทดสอบอัตราการใช้น้ำมันของ Jaecoo 7 PHEV โดยผลลัพธ์ที่ได้คือ 3.5 ลิตร/100 กม. ซึ่งดีกว่ามาตรฐานที่ 6.6 ลิตร/100 กม.
“เราเชื่อมั่นว่าเครื่องยนต์พลัก-อิน ไฮบริดของ Jaecoo 7 PHEV สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งด้านการประหยัดพลังงาน และสมรรถนะที่เหนือกว่า โดยเครื่องยนต์พลัก-อิน ไฮบริดของ Jaecoo 7 PHEV ประกอบด้วยแบทเตอรีขนาด 18.3 กิโลวัตต์ ถังน้ำมัน ความจุ 60 ลิตร พร้อมระบบส่งกำลังไฮบริดโดยเฉพาะซึ่งสามารถสลับการทำงานได้อย่างไร้รอยต่อ และสร้างแรงบิดได้ถึง 525 นิวทันเมตร”
สมรรถนะของรถยนต์ Jaecoo 7 PHEV เป็นผลของการใช้ระบบ Super Hybrid (SHS หรือ Super Hybrid System) ซึ่งประกอบด้วยส่วนประกอบสำคัญ 3 ส่วน ได้แก่ เครื่องยนต์ 1.5TDGI เจเนอเร ชันที่ 5 สำหรับรถยนต์ไฮบริด ระบบส่งกำลังไฮบริดแบบแปรผันต่อเนื่อง และแบทเตอรีไฮบริดประสิทธิภาพสูง ส่วนประกอบทั้ง 3 ส่วนทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อเพื่อให้ได้สมรรถนะที่สูง กำลังที่มากขึ้น รวมถึงอัตราการใช้พลังงานน้ำมัน และไฟฟ้าที่ลดลง
ระบบ Super Hybrid (SHS หรือ Super Hybrid System) ของ Jaecoo ได้รับการออกแบบให้รองรับการชาร์จไฟได้อย่างหลากหลายรูปแบบเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ รูปแบบแรก คือ การชาร์จไฟแบบช้าผ่านปลั๊กไฟ 3 ขา 230 โวลท์ สามารถชาร์จไฟรถจาก 0-100 % ได้ภายในเวลา 8.5 ชม. ด้วยกำลังไฟ 3.3 กิโลวัตต์ รูปแบบที่ 2 คือ การชาร์จแบบ AC ที่สามารถชาร์จไฟรถจาก 30-80 % ในเวลา 3 ชม. ด้วยกำลังไฟ 6.6 กิโลวัตต์ และรูปแบบสุดท้าย คือ การชาร์จแบบ DC ซึ่งถือเป็นระบบที่สร้างความแตกต่างที่สำคัญที่ทำให้ Jaecoo 7 PHEV แตกต่างไปจากเดิม รถยนต์พลัก-อิน ไฮบริดของเจคู่เป็นรถยนต์ PHEV รุ่นเดียวในท้องตลาดปัจจุบันที่รองรับการชาร์จไฟแบบเร็วโดยใช้การชาร์จแบบ DC ซึ่งสามารถชาร์จแบทเตอรีจาก 30-80 % ได้ภายในเวลาเพียง 20 นาที ที่กำลังไฟ 40 กิโลวัตต์
Jaecoo 7 PHEV เป็นรถยนต์ที่ติดตั้งแบทเตอรีไฮบริดที่ออกแบบมาให้มีระบบจัดการความร้อนแบบพิเศษเฉพาะ ซึ่งมาจากการลงทุนด้านคุณภาพ การออกแบบ และความปลอดภัยของแบทเตอรีของ Jaecoo ที่ออกแบบให้แบทเตอรีมีความทนทานต่อแรงกระแทกด้วยเกราะแบทเตอรีขั้นสูง มีโล่ป้องกันภายใน และโครงสร้างหุ้มเหล็กภายนอก พร้อมได้รับการออกแบบมาให้สามารถทำงานได้ภายใต้อุณหภูมิที่สูง ซึ่งได้รับการรับรองจากมาตรฐานระดับ IP68 และทนทานต่อไฟแม้อยู่ในสภาวะที่รุนแรง เช่น แบทเตอรีโดนเจาะทะลุ หรือถูกบีบอัด
เป้าหมายของ Jaecoo ในการจัดการทดสอบการเดินทางระยะไกลจากสิงคโปร์ มาเลเซีย มาสู่ประเทศไทย เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้ให้เข้าใจถึงความเข้ากันได้ของเครื่องยนต์ PHEV กับตลาดในประเทศ และต่างประเทศ พร้อมตอบโจทย์สิ่งที่ผู้ขับขี่สนใจอย่างระยะทางสูงสุดในการขับขี่ และอัตราการใช้พลังงานของรถยนต์ Jaecoo 7 PHEV ซึ่งสเปคของประเทศไทยจะประกาศ และพร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเร็วๆ นี้
บทความแนะนำ