รถล่าสุด
Chery เตรียมยกทัพกลับมาอีกครั้ง ! กับรุ่นเด่น Tiggo 7 , Tiggo 8 , Tiggo Cross และ V23 (หรือ iCar V23)

รถแบรนด์ Chery เดินหน้าบุกตลาดไทยเต็มกำลัง
Chery (เชอรี) ประกาศความคืบหน้าการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นตลาดสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีแผนการลงทุนและการพัฒนาธุรกิจระยะยาว พร้อมกลยุทธ์การวางตำแหน่งแบรนด์และผลิตภัณฑ์ในตลาดรถยนต์ไทยที่เน้นย้ำจุดเด่นด้านเทคโนโลยี คุณภาพ และความคุ้มค่า ในปีนี้ Chery เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่น Chery Tiggo 8, Chery V23 (iCAR V23), Chery Tiggo Cross และ Chery Tiggo 7 ทาง Chery ยังเดินหน้าขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศไทย ให้ครบ 30 แห่ง ในประเทศไทย เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างครอบคลุม มุ่งมั่นสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดและมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือระดับให้กับผู้บริโภคชาวไทยภายในปีนี้
ขณะที่แบรนด์ Omoda & Jaecoo (โอโมดา แอนด์ เจคู) ไม่น้อยหน้า เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นที่มาพร้อมเทคโนโลยี SHS (Super Hybrid System), เครื่องยนต์ BEV (Battery Electric Vehicle), HEV (Hybrid Electric Vehicle) และ REEV (Range-Extended Electric Vehicle) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยมีกำหนดการเปิดตัว Jaecoo 5 EV และ Jaecoo 6T EV ภายในไตรมาส 3 ตามมาด้วย Omoda C7 SHS และ Omoda C9 SHS ในไตรมาส 4 ของปีนี้ และเพื่อสร้างการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น Omoda & Jaecoo เตรียมเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Jaecoo หรือ Mr.J ภายในเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ยังได้มีการปรับราคา Omoda C5 EV Long Range รุ่นใหม่ โดยยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะและฟังก์ชันเดิมอย่างครบถ้วน ได้แก่ Omoda C5 EV Long Range Dynamic ราคา 649,000 บาท และราคา Omoda C5 EV Long Range Max ราคา 699,000 บาท และยังมีโปรโมชันดาวน์เริ่มต้น 8,888 บาท ผ่อนนานสูงสุด 84 เดือน*
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี*
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง 5 ปี*
- โฮมชาร์ทเจอร์พร้อมติดตั้ง (เฉพาะ Omoda C5 EV Long Range Max)*
- การรับประกันครอบคลุมระยะเวลา 8 ปี หรือ ระยะทาง 200,000 กิโลเมตร*
สำหรับ Jaecoo 6 EV 4WD มีโปรโมชันพิเศษภายในเดือนพฤษภาคม – มิถุนายนนี้เท่านั้น โดยมอบส่วนลดสูงสุดมูลค่ากว่า 150,000 บาท สำหรับสี Forest Green และ Lunar Silver*
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี*
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง 5 ปี*
- โฮมชาร์ทเจอร์พร้อมติดตั้ง*
- การรับประกันครอบคลุมระยะเวลา 8 ปี หรือ ระยะทาง 200,000 กิโลเมตร*
ขณะเดียวกัน Jaecoo 7 SHS ที่พิสูจน์ความสามารถด้วยสถิติการขับขี่ระยะทางไกลถึง 1,433 กิโลเมตร ด้วยน้ำมันเพียงหนึ่งถังและการชาร์จแบตเตอรี่เพียงหนึ่งครั้ง ซึ่งถือเป็นระยะทางขับขี่ที่ไกลที่สุดในประเทศไทย และติดอันดับ 5 ของโลกจากการแข่งขันระดับนานาชาติ Jaecoo 7 SHS Global Super Hybrid Marathon นอกจากนั้น Jaecoo ได้จัดแคมเปญ ECO Bonus มอบส่วนลดพิเศษ 10,000 บาท สำหรับลูกค้าที่เป็นเจ้าของรถยนต์ประเภทเครื่องยนต์สันดาป (ICE) หรือ ไฮบริด (HEV) พร้อมฟรีค่าบำรุงรักษารถ (ค่าแรง และ ค่าอะไหล่) เป็นระยะเวลา 2 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) 2 ปี ฟรี Home Charger และ สายชาร์จ V-2-L สำหรับผู้จองและรับรถภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เท่านั้น*
เริ่มเดินสายการผลิตที่โรงงาน จ.ระยอง ไตรมาส 3 ปี 2568 ประเดิมด้วยรุ่น Jaecoo 6 EV
Chery และ Omoda & Jaecoo ประกาศความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานในประเทศไทย ที่อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง บนพื้นที่ 104 ไร่ โดยมีมูลค่าการลงทุนที่วางแผนไว้ทั้งสิ้นราว 5,000 ล้านบาท พร้อมเริ่มเดินสายการผลิตที่โรงงานใน ไตรมาส 3 ปี 2568 ด้วยเป้าหมายกำลังการผลิตเป็น 80,000 คันต่อปีภายในปี 2571 โดยเริ่มการผลิต Jaecoo 6 EV เป็นรุ่นแรกเพื่อเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกในเอเชีย โรงงานแห่งนี้จะเน้นการผลิตแบบ Completely Knocked Down (CKD) พร้อมติดตั้งหุ่นยนต์เชื่อมสำหรับ
การเชื่อมอลูมิเนียมที่แม่นยำ นอกจากนี้ ในอนาคตยังมีแผนการลงทุนในการผลิตยานยนต์เพิ่มเติม ทั้งขยายกำลังการผลิตและโมเดลไฟฟ้าไฮบริด (HEV) รถยนต์รุ่นอื่นๆ ของ Chery Group และการจัดตั้งโรงพ่นสีภายในปี 2570 รวมถึงการให้ความสำคัญในการจัดจ้างงานสำหรับการทำงานในโรงงานนี้โดยเริ่มต้นจะเป็นแรงงานไทย 150 คน สำหรับการทำงานกะเดียว และจะขยายโรงงานและอัตราการจ้างแรงงานไทยเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย
เร็วๆ นี้ Chery Automobile ผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์ระดับโลกและ Omoda & Jaecoo ได้ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ในการพัฒนาแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิต EV ในภูมิภาคอาเซียน โดยความร่วมมือครั้งนี้มุ่งเน้นพัฒนาแบรนด์ EV แห่งชาติของไทย ส่งเสริมขีดความสามารถด้านเทคโนโลยี EV ภายในประเทศ และสนับสนุนผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศให้เข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานระดับโลก โดยมุ่งเน้นการจำหน่ายในประเทศไทย โดยชูจุดเด่นด้านเทคโนโลยี EV และราคาที่เข้าถึงได้สำหรับผู้บริโภคไทย เพื่อสนับสนุนให้คนไทยสามารถเปลี่ยนมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ โครงการยังใช้ข้อได้เปรียบด้านภาษีในฐานะ “รถยนต์สัญชาติไทย” เพื่อสร้างระบบราคาที่เหมาะสม พร้อมกระตุ้นห่วงโซ่การผลิตภายในประเทศ ตั้งแต่การจัดหาชิ้นส่วน การจ้างงาน ไปจนถึงการพัฒนาเครือข่ายบริการหลังการขายให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นในทุกภูมิภาค
Omoda & Jaecoo และ Chery ภายใต้บริษัท Chery Automobile ผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลก ประกาศวิสัยทัศน์ทรงพลังในการนำประเทศไทยตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลก ด้วยการเปิดตัวเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ ที่มาพร้อมสมรรถนะ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพพลังงานระดับสูงสุด เพื่อก้าวสู่ยุคใหม่แห่งพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นหัวหอกสำคัญในการทำตลาดปีนี้ พร้อมประกาศความเคลื่อนไหวเชิงรุกของ Chery และ Omoda & Jaecoo ในไทย และเตรียมเปิดสายการผลิตในโรงงานไทยไตรมาส 3 พร้อมประกาศเปิดตัวรถใหม่ปีนี้ และประกาศความร่วมมือกับรัฐบาลไทย เพื่อร่วมกันพัฒนาแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) สัญชาติไทย โดยได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย สู่การเป็นศูนย์กลางการผลิต EV ในภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนประเทศเข้าสู่ยุคใหม่แห่งพลังงานสะอาด และนวัตกรรมยานยนต์อย่างยั่งยืน
เทคโนโลยีไฮบริด CHS/SHS ล้ำสมัย
Chery และ Omoda & Jaecoo ได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลก ด้วยการเปิดตัวเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ ที่มาพร้อมสมรรถนะ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพพลังงานระดับสูงสุด เพื่อก้าวสู่ยุคใหม่แห่งพลังงานสะอาด ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีไฮบริด CHS (Chery Hybrid System) / SHS (Super Hybrid System) ล้ำสมัย ที่โดดเด่นใน 4 ด้านหลัก
●ประสิทธิภาพพลังงานสูงสุด: เครื่องยนต์ไฮบริดเฉพาะทาง 1.5T GDI ให้ประสิทธิภาพทางความร้อนสูงถึง 44.5% สูงที่สุดในอุตสาหกรรม
●พลังขับเคลื่อนระดับโลก: ระบบส่งกำลัง DHT 230/280 สามารถให้กำลังสูงสุดถึง 280 กิโลวัตต์ และรอบเครื่องสูงสุดถึง 24,000 รอบ/นาที
●ความปลอดภัยเหนือมาตรฐาน: ระบบตัดพลังงานฉุกเฉินภายใน 2 มิลลิวินาที และการปกป้องในทุกสภาพอากาศ รวมถึงการลุยน้ำลึกถึง 700 มม.
●ความสามารถรอบด้าน (All Scenario): ระบบบริหารพลังงานล่วงหน้า (Predictive Energy Management) ลดการใช้พลังงานลง 15% และสามารถกู้คืนพลังงานจากเบรกได้ถึง 80% Omoda & Jaecoo เตรียมเปิดตัวรถอีกหลากหลายรุ่นภายใต้เทคโนโลยี SHS, BEV, HEV และ REEV ภายในปีนี้ และเตรียมพบกับ Mr.J เร็วๆ นี้