Mercedes-Benz (เมร์เซเดส-เบนซ์) จัดงาน Class of Its Own. “The new CLA Designer Talk” เตรียมเผยโฉม CLA 250+ with EQ Technology ครั้งแรกในงาน Motor Expo พร้อมส่งท้ายไลน์อัพ Mercedes-EQ (เมร์เซเดส-อีคิว) ด้วยแคมเปญ “Defining Electric”
เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)ฯ จัดงาน Class of Its Own. “The new CLA Designer Talk” ดึงตัว Dennis Brings (เดนนิส บริงส์) ดีไซจ์เนอร์ระดับโลกจาก Mercedes-Benz Design มาร่วมเผยแรงบันดาลใจ และแนวคิดการออกแบบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % เจเนอเรชันล่าสุด “The new CLA” (ซีแอลเอ) ใหม่ ก่อนที่จะนำรุ่น CLA 250+ with EQ Technology มาจัดแสดงในประเทศไทยครั้งแรกที่งาน Motor Expo 2025
The new CLA มาพร้อมพแลทฟอร์ม MMA (Mercedes-Benz Modular Architecture) ที่เน้นความยืดหยุ่น และประสิทธิภาพการผลิต ให้สามารถเข้ากับรถยนต์ทุกระบบขับเคลื่อน ทั้งรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % รถยนต์พลัก-อิน ไฮบริด และรถยนต์สันดาปภายใน สอดคล้องกับการปรับกลยุทธ์ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า จากเดิมที่ใช้ซับแบรนด์ Mercedes-EQ จะถูกเปลี่ยนมาอยู่ภายใต้แบรนด์ Mercedes-Benz ทั้งหมด โดยรถยนต์ทุกรุ่นที่เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % จะใช้ชื่อรุ่นตามด้วย “with EQ Technology” ส่วนรถยนต์พลัก-อิน ไฮบริดจะตามด้วย “with EQ Hybrid Technology”
มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การทำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)ฯ ได้มีการใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างจากประเทศอื่นๆ โดยเริ่มต้นด้วยการนำรุ่นฟแลกชิพในเซกเมนท์ Top-End Luxury อย่าง EQS (อีคิวเอส) มาเปิดตัวครั้งแรกในปี 2565 ทั้งรุ่นนำเข้า และรุ่นประกอบในประเทศ เพื่อทำให้คนไทยได้สัมผัสกับขั้นสุดของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าระดับโลกจาก Mercedes-Benz ก่อนที่ในปี 2566-2567 จะเริ่มเปิดตัวรถยนต์ในเซกเมนท์ Entry Luxury อย่าง EQB 250 (อีคิวบี 250) ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนไปถึงการเปิดตัว EQE 350 4MATIC SUV (อีคิวอี 350 4 เมทิค เอสยูวี), EQE 53 4MATIC+ (อีคิวอี 53 4 เมทิค พลัส), EQE 300 (อีคิวอี 300) และ EQS 450 4MATIC SUV (อีคิวเอส 450 4 เมทิค เอสยูวี) ตามลำดับ ซึ่งจากระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน Mercedes-Benz มีความเข้าใจในโจทย์ และความพร้อมของผู้บริโภคชาวไทยสำหรับการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นอย่างดี
โดยกลยุทธ์ด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % ต่อจากนี้ หลังจากการเปลี่ยนผ่านของยุค Mercedes-EQ ทาง Mercedes-Benz คาดหวังให้ The new CLA เป็นโมเดลสำคัญที่จะเข้ามาตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทยที่มองหารถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % ในเซกเมนท์ที่จับต้องได้ โดย CLA 250+ with EQ Technology จะเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ประกอบในประเทศไทยด้วยพแลทฟอร์ม MMA ที่ทำให้กระบวนการผลิตรถยนต์ของทุกระบบขับเคลื่อนมีความยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลดีต่อการกำหนดโครงสร้างราคาของรถยนต์ Mercedes-Benz ที่จะเปิดตัวในอนาคต
ภายในงาน Class of Its Own. “The new CLA Designer Talk” เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)ฯ ได้รับเกียรติจาก Dennis Brings Senior Designer จากสตูดิโอ Mercedes-Benz Design ในประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานในแผนก “Lights & Parts” โดย Dennis Brings ได้พูดถึงแนวคิดการออกแบบ และองค์ประกอบสำคัญของ The new CLA ไว้ดังนี้
• ออกแบบภายใต้แนวคิด “Sensual Purity” ดีเอนเอของแบรนด์ที่สะท้อนไอคอนิคสไตล์อันหรูหรา และเรียบง่าย แต่ยังคงเปี่ยมไปด้วยความโดดเด่นที่สะกดทุกสายตา
• นำเสนอสัญลักษณ์ดวงดาวของแบรนด์ให้เข้ากับองค์ประกอบต่างๆ ของตัวรถ อาทิ กระจังหน้า Starpanel ในรูปแบบไฟแอนิเมชัน โคมไฟหน้าติดตั้ง Daytime Running Light รูปทรง Star Shaped และไฟท้าย Digital Jewelry ที่ผสานเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้ออกมาเป็นรายละเอียดของอัญมณีที่ลงตัว
• ดีไซจ์นภายในของ The new CLA ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสวนหินญี่ปุ่น หรือ “Zen Garden” สะท้อนศิลปะแห่งการลดทอน และคงไว้เฉพาะสิ่งที่เป็นแก่นแท้ เหลือไว้เพียงส่วนประกอบที่เป็นหัวใจของวิศวกรรมยานยนต์ เช่น การใช้วัสดุกระจกบนจอกลาง MBUX Superscreen วัสดุโลหะบนคอนโซลกลาง และวัสดุหนังบนแผงบุนุ่มบริเวณข้างประตู
CLA 250+ with EQ Technology จะเป็นก้าวสำคัญของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)ฯ ในการนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % ที่ตอบโจทย์ในทุกมิติ ทั้งในด้านสมรรถนะอันทรงพลังที่ให้กำลังสูงสุด 272 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 335 นิวทันเมตร รวมถึงการติดตั้งแบทเตอรี 800 โวลท์ ขนาด 85 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่ให้ระยะทางการขับขี่สูงสุด 792 กม./การชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP และมีประสิทธิภาพการชาร์จที่รองรับ DC Charge สูงสุด 320 กิโลวัตต์ โดยการชาร์จเพียง 10 นาที ด้วยกระแสไฟเต็มกำลัง จะสามารถขับขี่ได้ไกลถึง 325 กม. นอกจากนี้ The new CLA ยังถือเป็นรถยนต์ที่ล้ำสมัยที่สุดของ Mercedes-Benz ด้วยการติดตั้งระบบปฏิบัติการ MB.OS ที่ผสานการทำงานของเทคโนโลยี AI ด้วยระบบ MBUX Virtual Assistance ที่ร่วมมือกับ Google นอกจากนี้ ยังเชื่อมต่อเข้ากับแอพพลิเคชันระดับโลกมากมาย อาทิ ChatGPT, Gemini, Google Maps, Microsoft Teams, Webex, Zoom ฯลฯ
นอกจากนี้ สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)ฯ ได้จัดแคมเปญ “Defining Electric: Reimagine Intelligence.” ชวนลูกค้าทุกคนรับข้อเสนอสุดพิเศษ กับส่วนลดสูงสุดถึง 3 ล้านบาท พร้อมร่วมทดลองขับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % กว่า 8 รุ่น ได้ที่โครงการ One Bangkok ในวันที่ 15-17 สิงหาคม 2568 และโครงการ Central Village ในวันที่ 23-24 และ 30-31 สิงหาคม 2568