ธุรกิจ
Toyota แนะนำ Yaris Ativ HEV
Toyota (โตโยตา) แนะนำ New Yaris Ativ HEV (ยารีส เอทีฟ เอชอีวี) ใหม่ ราคาเริ่มต้น 719,000 บาท จนถึงสิ้นปี พร้อมเปิดรับจองสิทธิ์ BEV รุ่น New bZ4X (บีเซด 4 เอกซ์) ในประเทศไทย
โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยยังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากแต่ด้วยไลน์อัพของผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของ Toyota ทำให้เรายังคงรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุด และครองอันดับหนึ่งด้วยยอดขายสูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้ง 7 เซกเมนท์ นอกจากนี้ อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากการเติบโตของตลาด xEV และ SUV ซึ่งการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ก็ได้ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ BEV ในกลุ่มตลาด xEV เติบโตขึ้นด้วย หากแต่เมื่อพิจารณาด้านการใช้งานจริงแล้ว เรายังเชื่อมั่นว่ารถยนต์ HEV ยังคงมีบทบาทสำคัญ สอดคล้องไปในแนวทางเดียวกันกับตลาดโลก สำหรับกลุ่มตลาดเอสยูวี มีกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ หรือ D-SUV ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยส่วนใหญ่เป็นรถ BEV ทำให้ยอดขายรถเอสยูวีในปัจจุบันมีสัดส่วนสูงสุดในประเทศไทย
ดังนั้น Toyota แนะนำ 2 รุ่น ที่จะมาช่วยเสริมทัพไลน์อัพผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของ Toyota เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และการเติบโตของตลาดในเซกเมนท์นี้
Yaris Ativ สู่ตลาดอีโคคาร์เซกเมนท์ในประเทศไทยเมื่อปี 2560 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากลูกค้าชาวไทย ทั้งมีบทบาทสำคัญในตลาดกลุ่มอีโคเซกเมนท์ ด้วยยอดขายสะสมรวมกว่า 280,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน (ข้อมูลยอดจำหน่ายสะสมตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2560-เดือนกรกฎาคม 2568)
ที่สำคัญ เรามีความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ Yaris Ativ ได้มีส่วนสร้างการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างยั่งยืน นับตั้งแต่การมีส่วนร่วมของวิศวกรชาวไทยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ นอกจากนั้น ยังใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศถึง 73 % ผลิตภายใต้คุณภาพมาตรฐานระดับโลกของ Toyota ณ โรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าเกตเวย์ จ. ฉะเชิงเทรา เพื่อตอบสนองความต้องการภายในประเทศ และส่งออกไปจำหน่ายยังกว่า 34 ประเทศทั่วโลก
เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในประเทศ ตลอดจนความต้องการของรถยนต์ไฮบริดที่เพิ่มมากขึ้น และต่อยอดการส่งเสริมเศรษฐกิจ และความยั่งยืนของอุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศไทย เราจึงขอแนะนำ New Yaris Ativ HEV ที่พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด "Be Confident & Beyond Expectation" โดยรถยนต์รุ่นนี้จะครองใจลูกค้าในประเทศไทย และเป็นหนึ่งในรุ่นที่สร้างยอดขายให้แก่ Toyota ด้วยเป้าหมายการขายที่ 20,000 คัน ในปีแรก กับทางเลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น HEV Premium และรุ่น HEV GR Sport
นอกเหนือจากดีไซจ์นภายนอกซึ่งได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี และภายในของรถที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันแล้ว ยังมีการปรับขนาดของเครื่องยนต์จาก 1.2 ลิตร เป็น 1.5 ลิตร และด้วยเทคโนโลยีไฮบริดที่เชื่อถือได้ของ Toyota New Yaris Ativ HEV สามารถมอบสมรรถนะอันทรงพลัง และประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนาน โดยมีอัตราสิ้นเปลืองการใช้เชื้อเพลิงไฮบริดที่ดีที่สุดในประเทศไทย ที่ 29.4 กม./ลิตร
สำหรับรุ่น HEV GR Sport ยังโดดเด่นด้วยดีไซจ์นสปอร์ท และระบบช่วงล่างที่เป็นเอกลักษณ์ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานยิ่งขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น เราภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนเศรษฐกิจไทยต่อไป โดย New Yaris Ativ HEV จะใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศเริ่มต้นที่ 65 % โดยเรามีแผนที่จะเพิ่มให้มากขึ้น รวมทั้งมีการส่งออกรถรุ่นนี้ไปยัง 23 ประเทศอีกด้วย
bZ4X ใหม่ รถยนต์ไฟฟ้า BEV อเนกประสงค์ D-Segment เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่กำลังมองหารถเอสยูวีขนาดใหญ่ โดยในปี 2565 Toyota ได้แนะนำรถ BEV รุ่นแรก คือ bZ4X สู่ประเทศไทย ภายใต้มาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า EV 3.0 ของรัฐบาลไทย แต่เนื่องจากขีดจำกัดด้านการจัดสรรจำนวนรถในเวลานั้น ทำให้เราขายเพียงแค่ 132 คันเท่านั้น
แต่สำหรับ bZ4X ใหม่ จะนำเข้าจากญี่ปุ่นในรูปแบบ CBU และเข้าร่วมมาตรการ EV 3.5 ด้วยเป้าหมายยอดขายที่มากกว่าเดิมถึง 6,000 คันในช่วงปีแรก
New bZ4X มีดีไซจ์นการออกแบบที่สะดุดตา และน่าดึงดูดใจ ใช้เวลาในการชาร์จเร็วขึ้น และที่สำคัญ ในรุ่นระบบขับเคลื่อนล้อหน้าที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ยังสามารถทำระยะการขับขี่ได้ถึง 600* กม./การชาร์จ 1 ครั้ง ภายใต้มาตรฐาน NEDC ซึ่งไกลกว่ารถหลายรุ่นด้วยกัน พละกำลังสูงสุดได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น และติดตั้งระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบมาตรฐาน Toyota ในทุกรุ่นย่อย
หมายเหตุ : * ข้อมูลระยะทางวิ่งสูงสุดอาจมีการเปลี่ยนแปลง โดยอยู่ระหว่างการรับรองขั้นสุดท้าย
เสถียรภาพ (Stability) ความรู้สึกในการควบคุมพวงมาลัย (Steering Feel) ความนุ่มนวล (Riding Comfort) และประสิทธิภาพการเบรคนั้นอยู่ในระดับ “สูงสุดในรถระดับเดียวกัน” โดยเราจะจัดให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับรถรุ่นนี้ในช่วงปลายเดือนตุลาคม เพื่อให้ท่านได้สัมผัสถึงความยอดเยี่ยมของรถรุ่นนี้ด้วยตนเอง และเราจะประกาศราคาอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนตุลาคม โดยคาดว่าจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไป ทั้งนี้ เราขอประกาศการเปิดรับจองสิทธิ์เพื่อเป็นเจ้าของล่วงหน้า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
สำหรับ bZ4X ใหม่ รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าจะมีราคาเริ่มต้นที่ 1,5xx,xxx บาท และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมีราคาเริ่มต้นที่ 1,6xx,xxx บาท
นอกจากการที่ bZ4X มีมาตรฐานคุณภาพระดับโลกของ Toyota แล้ว ยังมีระบบการจัดการชิ้นส่วนอะไหล่ และเครือข่ายศูนย์บริการที่ครอบคลุม กับโชว์รูม และศูนย์บริการกว่า 450 แห่งทั่วประเทศ เราจึงมั่นใจว่า New bZ4X จะมอบความอุ่นใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า จึงอาจกล่าวได้ว่า bZ4X ใหม่ จะไม่เพียงแต่มอบความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของเท่านั้น แต่ยังมอบความสุขให้แก่ชีวิตผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ในทุกๆ วันอีกด้วย
เราเชื่อมั่นว่ารถยนต์ไฟฟ้าใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ bZ4X ใหม่ และ New Yaris Ativ HEV จะช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวไทย ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์แบบครบวงจร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อ Toyota ให้มากขึ้น พร้อมก้าวเดิน และเติบโตไปพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ เรายังจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มเติมให้แก่ลูกค้าในประเทศไทยอีก ในปลายปีนี้
ศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า Toyota เป็นผู้บุกเบิกตลาดรถยนต์ไฮบริด และได้รับความไว้วางใจในประเทศไทยมายาวนานกว่า 16 ปี อีกทั้งยังมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับโลก โดยลูกค้าสามารถมอบความไว้วางใจให้แก่ Toyota ตลอดการใช้งาน ภายใต้แนวคิด “Toyota No.1 Trusted HEV” โดยมีจุดเด่นดังนี้
1. การรับประกันระบบไฮบริด 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง และรับประกันแบทเตอรีสูงสุด 10 ปีไม่จำกัดระยะทาง (เชคระยะตามเงื่อนไข TCFR Plus+)
2. Toyota Service Technician ช่างผู้ชำนาญการ ที่ผ่านการฝึกอบรมจากศูนย์การศึกษา และฝึกอบรม Toyota ที่มีมากกว่า 8,000 คน รวมถึงอุปกรณ์การซ่อมที่ได้มาตรฐานสำหรับรถไฮบริด ที่ศูนย์บริการทั่วประเทศกว่า 450 แห่ง
3. ด้านอะไหล่ เรามีความพร้อมให้บริการ เรามีการจัดเตรียมอะไหล่ไว้รองรับนานกว่า15 ปี และสามารถจัดส่งได้เร็วสุดภายใน 48 ชั่วโมง
ด้วยจุดแข็งหลักที่กล่าวมา สามารถพิสูจน์ได้ถึงความไว้วางใจของลูกค้า จากความนิยม และราคาขายต่อรถไฮบริดของ Toyota นั้น ยังคงมีมูลค่าที่สูง และเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง
ซึ่ง New Yaris Ativ HEV เป็นอีกทางเลือกที่เข้าถึงได้ในราคาที่คุ้มค่าสำหรับคนรุ่นใหม่ กับ 2 รุ่นย่อย ได้แก่ HEV Premium และ HEV GR Sport
สำหรับรุ่น HEV Premium มาพร้อมกับเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.5 ลิตร แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขับเคลื่อนล้อหน้า เมื่อเครื่องยนต์ และมอเตอร์ทำงานควบคู่กัน จะได้กำลังสูงสุด 111 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอัตราเร่งในช่วงออกตัว และช่วงการเปลี่ยนระบบส่งกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นเครื่องยนต์ ประหยัดน้ำมันสูงสุดในกลุ่มรถ HEV อยู่ที่ 29.4 กม./ลิตร และยังคงสิทธิพิเศษที่คุ้มค่าตลอดอายุการใช้งาน เช่นเดียวกับรถยนต์ Toyota ทุกรุ่น อาทิ บริการสินเชื่อ Connected Auto Loan (CAL), ประกัน PHYD, โปรแกรมสะสมคะแนน Toyota Alive X, โปรแกรม TCFR Plus+ สิทธิประโยชน์ตามการเชคระยะต่อเนื่อง มาพร้อมสเปคจุดเด่น และจุดที่เพิ่มเติมใหม่ ดังนี้
อุปกรณ์ภายนอก
- กระจังหน้าด้านบนโครเมียมรมดำ และด้านล่างสีเทาเมทัลลิค
- ล้ออัลลอยดีไซจ์นใหม่ ขนาด 16 นิ้ว
อุปกรณ์ภายใน
- เบาะหนังสังเคราะห์สีดำ-เทา
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
- หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
- อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย
- ระบบเบรคมือแบบไฟฟ้า EPB (Electric Parking Brake) พร้อมระบบหน่วงเบรคอัตโนมัติ ABH (Auto Brake Hold)
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง และระบบกรองฝุ่น PM2.5
- ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร (Ambient Light) ปรับได้ 64 เฉดสี
ระบบความปลอดภัย
- ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense (TSS) พร้อมฟังค์ชันใหม่ LKC: Lane Keeping Control หรือระบบช่วยคุมรถให้อยู่ในเลน ที่จะทำงานคู่กับ Adaptive Cruise Control แบบ All-speed
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM (Blind Spot Monitor)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยจอด RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- กล้องมองรอบคัน PVM (Panoramic View Monitor)
- สัญญาณเตือนกะระยะด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
- กล้องวีดีโอบันทึกภาพด้านหน้า DVR (Digital Video Recorder)
- Airbag 6 ตำแหน่ง
สำหรับผู้ที่มองหาความโดดเด่น สปอร์ท และขับสนุกยิ่งขึ้น เรามีรุ่น HEV GR Sport ไว้ให้เป็นทางเลือก กับสเปคหลักที่เพิ่มขึ้น ดังนี้
- กระจังหน้าดีไซจ์นใหม่ พร้อมโลโก GR
- ชุดแต่ง GR-S ได้แก่ สเกิร์ทกันชนหน้า ชุดสเกิร์ทข้าง สเกิร์ทกันชนหลัง และสปอยเลอร์หลัง
- ล้ออัลลอยดีไซจ์นใหม่ขนาด 17 นิ้ว
- หลังคาดำ
- ช่วงล่าง และพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS พร้อมโลโก GR ปรับแต่งพิเศษ
- กระจกมองข้างสีดำปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว LED และพับเก็บอัตโนมัติ
- เบาะหนังสังเคราะห์ และพวงมาลัยสีดำ พร้อมโลโก GR
- ลำโพง Pioneer 6 ตำแหน่ง
สำหรับสีภายนอก รุ่น HEV Premium มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี และรุ่น HEV GR Sport มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี มาพร้อมหลังคาดำ
เรามั่นใจว่า New Yaris Ativ HEV นั้นจะเข้ามาเติมเต็มความต้องการของลูกค้าในตลาดอีโคคาร์เซกเมนท์ ได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ด้วยทางเลือกที่หลากหลาย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มองหานวัตกรรม คุณภาพ เน้นความคุ้มค่าในระยะยาว และเป็นเจ้าของง่าย ผ่านการสื่อสารที่สะท้อนภาพลักษณ์ของคนรุ่นใหม่ ที่มุ่งมั่นสู่การพัฒนาตัวเองในทุกจังหวะของชีวิต พร้อมยกระดับชีวิตได้ในทุกมุมมอง ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านพรีเซนเตอร์ที่เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ทั้ง 2 ท่าน ภายใต้คอนเซพท์การสื่อสาร "Your Days Elevated จังหวะที่ใช่ ในแบบเรา"
เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ให้พรีเมียม และโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ทางเราได้จัดเตรียมชุดแต่งใหม่ภายใต้ชื่อ Charismo Drift มาเป็นทางเลือกในรุ่น HEV Premium โดยในชุดจะประกอบไปด้วย สเกิร์ทกันชนหน้า ชุดสเกิร์ทข้าง สเกิร์ทกันชนหลัง และสปอยเลอร์หลัง ซึ่งจะเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่ต้องการความสปอร์ท แตกต่างไม่เหมือนใคร
เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่เฝ้ารอการเปิดตัว และต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์นั่งไฮบริดตัวเริ่มต้น New Yaris Ativ HEV เราจึงขอมอบราคาพิเศษแนะนำจนถึงสิ้นปีนี้
เพื่อให้ทุกท่านเป็นเจ้าของ New Yaris Ativ HEV ได้ง่ายยิ่งขึ้น เรายังได้เตรียมข้อเสนอสุดพิเศษ ผ่อนเริ่มต้นเพียง 6,443 บาท/เดือน หรือเลือกรับฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care พร้อมรับประกันแบทเตอรีไฮบริดสูงสุด 10 ปี (เชคระยะตามเงื่อนไข TCFR Plus+) รวมทั้งบริการ และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย”
เลือกเป็นเจ้าของ New Yaris Ativ HEV ได้ 2 รุ่นย่อย
ราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
- รุ่น HEV GR Sport ราคา 779,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
(มาพร้อมสีภายนอก 3 สี ได้แก่ สีดำ Attitude Black Mica/สีขาวมุก หลังคาดำ Platinum White Pearl with Black Roof และสีแดง หลังคาดำ Red Mica Metallic with Black Roof, ภายในสีดำ)
สำหรับสี Platinum White Pearl with Black Roof เพิ่ม 12,000 บาท
สำหรับสี Red Mica Metallic with Black Roof เพิ่ม 5,000 บาท
- รุ่น HEV Premium ราคา 729,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
(มาพร้อมสีภายนอก 5 สี ได้แก่ สีเงิน Metal Stream Metallic/สีเทา Urban Metal/สีดำ Attitude Black Mica/สีขาวมุก Platinum White Pearl และสีแดง Red Mica Metallic, ภายในสีดำ-เทา)
สำหรับสี Platinum White Pearl เพิ่ม 7,000 บาท
ราคาพิเศษช่วงแนะนำ (ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2568 ถึง 31 ธันวาคม 2568)
- รุ่น HEV GR Sport ราคา 769,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
(มาพร้อมสีภายนอก 3 สี ได้แก่ สีดำ Attitude Black Mica/สีขาวมุก หลังคาดำ Platinum White Pearl with Black Roof และสีแดง หลังคาดำ Red Mica Metallic with Black Roof, ภายในสีดำ)
สำหรับสี Platinum White Pearl with Black Roof เพิ่ม 12,000 บาท
สำหรับสี Red Mica Metallic with Black Roof เพิ่ม 5,000 บาท
- รุ่น HEV Premium ราคา 719,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
(มาพร้อมสีภายนอก 5 สี ได้แก่ สีเงิน Metal Stream Metallic/สีเทา Urban Metal/สีดำ Attitude Black Mica/สีขาวมุก Platinum White Pearl และสีแดง Red Mica Metallic, ภายในสีดำ-เทา)
สำหรับสี Platinum White Pearl เพิ่ม 7,000 บาท
พร้อมขยายระยะเวลาการคุ้มครอง TCFR Plus+ มูลค่า 12,000 บาท ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม.
และขยายระยะเวลารับรองการใช้งานแบทเตอรีไฮบริด 10 ปี และระบบไฮบริด 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง เมื่อเข้าเชคระยะตามกำหนด
(เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
เปิดรับจองสิทธิ์ เพื่อเป็นเจ้าของ New bZ4X ผ่านช่องทางออนไลน์
ที่ https://stores.toyota.co.th/register/bz4x
- รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ราคาเริ่มต้น 1,5xx,xxxx บาท
- รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) ราคาเริ่มต้น 1,6xx,xxxx บาท
(มาพร้อมสีภายนอก 4 สี ได้แก่ Precious Metal Black Roof/Platinum White Black Roof/Emotional Red Black Roof/Attitude Black)
พิเศษ รับทันทีส่วนลดเงินสด 20,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยพิเศษ 0.99 % เฉพาะ 2,000 สิทธิ์แรก สำหรับลูกค้าที่จองสิทธิ์ตั้งแต่ 21 สิงหาคม-19 ตุลาคม 2568 หรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด
(อัตราดอกเบี้ยคำนวณที่ดาวน์ 25 % ขึ้นไป นาน 48 เดือน สำหรับผู้ซื้อที่ผ่านการอนุมัติจาก บริษัท โตโยต้าลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด โดยคำนวณจากดอกเบี้ยต้นงวด และส่วนลดดอกเบี้ยรถไฟฟ้า)