สัญญาณไฟสีที่สี่ ปฏิวัติการจราจรยุคอนาคต

Highlight

นักวิจัยสหรัฐฯ เสนอแนวคิด “สัญญาณไฟสีที่สี่” หรือไฟสีขาว ใช้เทคโนโลยีรถยนต์อัตโนมัติสื่อสารกันเอง ลดเวลารอไฟแดงได้เกือบ 100 % ปฏิวัติอนาคตการจราจรให้ลื่นไหล และไร้ไฟแดง

ตลอดเวลากว่าศตวรรษที่ผ่านมา สัญญาณไฟจราจร ถือเป็นระบบพื้นฐานที่ทำให้เมืองทั่วโลกดำเนินไปอย่างมีระเบียบ แดงให้หยุด เหลืองให้ชะลอ และเขียวปล่อยให้ไป กฎง่ายๆ ที่ทุกคนรู้จักดี แต่ล่าสุดนักวิจัยจาก North Carolina State University ในสหรัฐอเมริกา กำลังจะพลิกประวัติศาสตร์การจราจรด้วยแนวคิดใหม่ สัญญาณไฟสีที่สี่ “Fourth Light”

สัญญาณไฟดวงใหม่ที่เพิ่มมา คือ “ไฟสีขาว (White Light)” ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous Vehicles) แนวคิดนี้ถูกเผยแพร่ในงานวิจัยของ IEEE โดยระบุว่า เมื่อมีรถยนต์อัตโนมัติเพียงพออยู่ในบริเวณสี่แยก ระบบจะเปิดไฟสีขาวขึ้นเพื่อให้รถเหล่านั้น สื่อสาร และจัดระเบียบการเคลื่อนที่เองได้แบบเรียลไทม์

ในช่วงที่ “ไฟสีขาว” ทำงาน รถยนต์อัตโนมัติจะกลายเป็น “ผู้ควบคุมการจราจรเคลื่อนที่ Mobile Traffic Controllers” ที่ช่วยประสานการเคลื่อนไหวของรถทุกคัน ส่วนผู้ขับขี่ปกติจะได้รับสัญญาณให้ “ขับตามรถคันหน้า” โดยไม่ต้องตัดสินใจเองว่าควรหยุด หรือไป

ทีมนักวิจัยเรียกระบบนี้ว่า “Distributed Coordination Strategy” หรือ “การประสานงานแบบกระจายตัว” ซึ่งเปรียบเสมือนการสร้าง “ศูนย์กลางจราจร” ที่ทำให้รถทุกคันสามารถคำนวณเส้นทางร่วมกัน ป้องกันการชน ลดเวลารอไฟแดง และทำให้การสัญจรลื่นไหลยิ่งขึ้น

ผลการทดสอบจำลอง พบว่า การเพิ่ม “ไฟสีขาว” สามารถลดเวลารอไฟแดงได้ 3.2-94 % และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพจราจรโดยรวมได้สูงสุดถึง 98.9 % เมื่อเทียบกับระบบสัญญาณไฟแบบเดิม

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นทฤษฎี ต้องใช้เวลาอีกมากในการพัฒนา ทั้งในด้านความพร้อมของรถยนต์ไร้คนขับ และการอัพเกรดโครงสร้างพื้นฐานเดิมกว่า 75 % ทั่วโลกแต่สิ่งที่แน่นอน คือ แนวคิด “สัญญาณไฟสีที่สี่” ได้เปิดประตูสู่อนาคตของการจราจรอัจฉริยะ (Smart Traffic System) ที่รถยนต์สามารถสื่อสารกันได้เอง และมนุษย์อาจไม่ต้องทนรอ “ไฟแดง” อีกต่อไป