บทความ
เตรียมตัวอย่างไรให้ซื้อรถในงานคุ้มค่าที่สุด !

การจองรถไม่ใช่แค่ “จ่ายเงินแล้วรอรับรถ” แต่มีรายละเอียดเล็กๆ ที่ควรเชคก่อนตัดสินใจหลายคนพลาดจุดเล็กๆ จนทำให้เสียประโยชน์ บางรายต้องจ่ายเพิ่ม หรือได้ออพชันไม่ตรงกับที่คาดหวัง ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจเซนใบจอง มาดูว่ามีอะไรที่ต้องรู้บ้าง เพื่อให้มั่นใจว่า “เงินที่จ่ายไปคุ้มค่าที่สุด”Highlight
ในทุกๆ ปี ค่ายรถก็มักงัดโปรโมชันเด็ดออกมาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยพิเศษ ของแถมที่มากกว่าปกติ หรือแคมเปญเฉพาะช่วงงานซึ่งไม่มีในโชว์รูมช่วงเวลาปกติ ความรู้สึกตื่นเต้นของงาน บรรยากาศที่รายล้อมด้วยรถรุ่นใหม่ๆ และคำพูดเร่งเร้าของเซลล์ ก็ยิ่งทำให้หลายคนใจอ่อน และเซ็นจองทันที แต่สิ่งที่ต้องระวัง คือ โปรโมชันที่เห็นภายในงานอาจดูดี แต่บางรายการอาจมีเงื่อนไขที่ไม่ได้เปิดเผย หรือเป็นโปรโมชันที่โชว์รูมเองก็สามารถให้ได้ เพียงแต่ไม่ได้เน้นโชว์บนป้ายโปรโมชันในงานเท่านั้น
สิ่งแรกที่หลายคนเข้าใจว่าเงินจองสามารถขอคืนได้เสมอ แต่ความจริง คือ แต่ละค่ายมีนโยบายไม่เหมือนกัน บางค่ายไม่คืนเงินจองทุกกรณี บางค่ายคืนได้เฉพาะกรณี เช่น รถล่าช้าเกินกำหนด หรือไม่ได้รับอนุมัติไฟแนนศ์ บางยี่ห้อมีเงื่อนไขแฝง เช่น ต้องหักค่าดำเนินการก่อนคืนเพื่อความชัดเจน ควรให้พนักงานขาย เขียนยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษร หรือมีหลักฐานในแชท เช่น “เงินจองคืนได้ คืนไม่ได้ เงื่อนไขการคืน” เพื่อป้องกันปัญหาภายหลัง
ราคาหน้าป้าย หรือโปรโมชันที่เห็นบนโบรชัวร์ อาจมีเงื่อนไขกำกับอยู่โดยที่ลูกค้าไม่รู้ เช่น
ราคาพิเศษเฉพาะลูกค้าที่ดาวน์ขั้นต่ำ
ดอกเบี้ยพิเศษที่ต้องทำประกันชั้นหนึ่งกับบริษัทที่กำหนด
ของแถมบางรายการได้เฉพาะลูกค้าจองในงานเท่านั้น
ดังนั้นขอแบบฟอร์ม ใบเสนอราคาเต็ม (Quotation) ที่มีทุกอย่างระบุชัดเจน ทั้งค่างวด ดอกเบี้ย วงเงินดาวน์ ภาษี และค่าใช้จ่ายวันรับรถ เพื่อไม่ให้เกิดเซอร์ไพรส์ทีหลัง
ของแถม คือ จุดที่ลูกค้าหลายคนอาจจะ “หลงดีใจ” ในงานแจ้งว่าจะได้รับ แต่กลับไม่ได้จริงในวันรับรถ โดยเฉพาะฟีล์ม, กล้องหน้า หรือชุดแต่งสิ่งที่ต้องระบุให้ชัดเจนในใบจอง หรือในแชท ฟีล์มยี่ห้อ + รุ่น + ความเข้มเคลือบแก้วกี่ชั้นเครื่องชาร์จ (EV) เป็นแบบติดผนังหรือแบบพกพาพรม, กันสาด, กล้องหน้า-หลัง ยี่ห้ออะไรชุดแต่งเป็นของแท้ หรือของศูนย์ ฯลฯ ดังนั้นหลักการง่ายที่สุด คือ ไม่ได้ระบุไว้เท่ากับว่าไม่มีสิทธิ์ได้
แน่นอนว่าคิวรอรถหลังจากการจองไปแล้วนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งสีที่เลือก, รุ่นย่อย, ลอทการผลิต และความนิยมในตลาดที่อาจจะมีความต้องการที่มาก สิ่งที่ควรถามกับทางผู้ขาย คือ "รถจะได้ประมาณช่วงเดือนอะไร” สีไหนรอเร็วกว่าสีอื่น ถ้ารถล่าช้าเกินกำหนด มีมาตรการชดเชย หรือขอคืนเงินได้หรือไม่ กรณีถ้ามีการยืนยันเป็นข้อความ หรือใบจอง จะช่วยลดปัญหาในอนาคตได้
รถยนต์ใหม่บางค่ายอาจมีการปรับชิ้นส่วน หรือออพชันตามลอทผลิต เช่น รถยนต์จากประเทศจีนลอทนำเข้ากับลอทประกอบไทยอาจต่างกัน รุ่นไมเนอร์เชนจ์บางลอทมีตัดออพชันเงียบ หรือฟีเจอร์บางรายการอาจยังไม่เปิดให้ใช้งานช่วงแรก ควรถามเซลล์ให้แน่ชัดว่า รถที่คุณได้เป็นลอทผลิตเดือนไหน และสเปคตรงกับรถโชว์หรือไม่
ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายในวันรับรถมีมากกว่าที่คิด ควรขอเซลล์แยกค่าใช้จ่ายเป็นรายการล่วงหน้าเพื่อวางแผนงบประมาณ
ค่าจดทะเบียน
พรบ.
ประกันชั้น 1 ปีแรก
แพคเกจบำรุงรักษา
ค่าติดตั้ง Wall Charger (สำหรับผู้ซื้อรถยนต์ประเภท EV, PHEV)
ค่าปรับแต่งชุดอุปกรณ์รถเพิ่มเติม (หากเลือกของแถมนอกแพคเกจ)
หนึ่งในต้นทุนที่ใหญ่ที่สุด คือ “แบทเตอรี” สิ่งที่ควรดู คือ รับประกันแบทเตอรีกี่ปี หรือกี่กิโลเมตร เงื่อนไขที่ทำให้ประกันแบทเตอรีหลุด ค่าบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า/ระบบ Hybrid ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ค่าติดตั้ง และสเปค Wall Charger รวมถึงค่าอัพเกรดระบบไฟบ้าน เรื่องนี้สำคัญมากสำหรับผู้ซื้อ EV มือใหม่ ยิ่งช่วงกระแสรถยนต์ที่กำลังเตรียมทยอยปล่อยสตอครถไฟฟ้ายิ่งต้องสังเกตเป็นพิเศษ
ไฟแนนศ์เป็นอีกส่วนที่ต้องเชคละเอียด เพราะดอกเบี้ยที่เห็นในโพสเตอร์มักมีเงื่อนไขแอบแฝง เช่น ต้องทำประกันกับบริษัทที่กำหนด เลือกดาวน์ตามขั้นต่ำที่ธนาคารกำหนด ผูกสัญญากับธนาคารที่ค่ายรถร่วมโปรโมชัน ข้อแนะนำ คือ ต้องดูยอดค่างวดต่อเดือนด้วยว่าเหมาะกับความสามารถการผ่อนของตนเอง
ก่อนจะลงลายเซน ตรวจสอบเอกสารให้ละเอียด ทั้งชื่อ-นามสกุล รุ่นรถ สี และอุปกรณ์ทุกชิ้น ความผิดเพียงตัวเดียวอาจทำให้เอกสารต้องแก้ใหม่ และทำให้การรับรถล่าช้า ความละเอียดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
อีกคำถามที่หลายคนมักตามหาอยู่เสมอ คือ “ควรจองในงาน หรือรอไปจองที่โชว์รูมทีหลังจะดีกว่า ?” ดูเหมือนเป็นคำถามง่ายๆ แต่ความจริงเต็มไปด้วยปัจจัยที่ต้องพิจารณา ทั้งเรื่องโปรโมชัน ของแถม ความรีบเร่งของเซลล์ ระยะเวลารอรถ ไปจนถึงความสะดวกในการติดต่อ สิ่งสำคัญ คือ อย่าเพิ่งรีบเชื่อ ให้ใช้เวลาเชคข้อมูล และเปรียบเทียบทุกอย่าง ที่สำคัญ คือ การไปสัมผัสรถคันจริงให้ละเอียด เพราะการจองรถ คือ สัญญาผูกพันทางการเงินที่ยาวนาน หากคุณเป็นคนที่ชอบความคุ้มค่าพร้อมบรรยากาศตื่นเต้นในงาน และได้เตรียมคำถามสำคัญไว้เรียบร้อย การจองในงานย่อมตอบโจทย์อย่างแน่นอน และอาจจะเพิ่มโอกาสการต่อรองได้มากขึ้นอีกด้วย


