ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Bentley (เบนท์ลีย์) กำลังทบทวนความมุ่งมั่นเป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้าทุกรุ่นในปี 2035 เพื่อบรรลุเป้าหมายของการปล่อยมลพิษของสหภาพยุโรป (EU) เพื่อความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศในปี 2050 ในขณะนี้สหภาพยุโรปได้หันมาทบทวนพันธกรณีที่กำหนดไว้ ขณะเดียวกัน Bentley มีแนวคิดเลื่อนการเป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้าทุกรุ่นออกไปหลังปี 2035
Dr. Frank-Steffen Walliser ซีอีโอ ได้ประกาศที่สำนักงานใหญ่ ในเมือง Crewe ประเทศอังกฤษว่า Bentley ยังคงมุ่งมั่นการพัฒนารถไฟฟ้าต่อไป แต่จะปรับเลื่อนแผนการเป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้าทุกรุ่นออกไป ทั้งจะผลิตรถพลัก-อิน ไฮบริด และเครื่องยนต์สันดาปภายในต่อไป
Bentley ได้ปรับแผนกลยุทธ์ผู้ผลิตรถไฟฟ้า “Bentley100+” ใหม่ โดยกำหนดให้เปิดตัวรถพลัก-อิน ไฮบริด และรถไฟฟ้าใหม่ทุกปีจนถึงปี 2035 โดยมีรถไฟฟ้าคันแรกในปลายปี 2026 เป็นรถประเภท “Luxury Urban SUV” และส่งมอบในปี 2027
สำหรับ Bentley Continental GT Coupe (คอนทิเนนทัล จีที คูเป), Convertible (คอนเวอร์ทิเบิล) และ Flying Spur (ฟลายอิง สเปอร์) จะมีเวอร์ชันไฮบริดให้เลือกถึงปี 2035 เป็นอย่างน้อย และมีรถไฟฟ้าทุกรุ่นในปีเดียวกัน ทั้งจะผลิตรถเวอร์ชันไฮบริด หรือเครื่องยนต์สันดาปภายในต่อไป เพื่อเป็นการรักษาความยืดหยุ่นของการผลิตตามความต้องการของลูกค้าทั่วโลก ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน และไฮบริด ไปถึงปี 2035 เป็นอย่างน้อย เพื่อให้ลูกค้าของ Bentley ได้สัมผัสกับสมรถนะ และความเชี่ยวชาญของบริษัทต่อไป
ในปี 2023 สหภาพยุโรปเรียกร้องให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์มีความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2050 รถยนต์นั่ง, รถบรรทุก และรถเอสยูวีใหม่ ต้องไม่มีมลพิษภายในปี 2035 ทำให้รถไฟฟ้า คือ ทางเลือกเพียงทางเดียว และเกิดการเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคตการขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าทั้งหมด แต่ยอดขายรถไฟฟ้าไม่เป็นไปตามแผน ทำให้การคาดการณ์ส่วนแบ่งตลาดรถไฟฟ้าในเดือนพฤศจิกายน 2024 ลดลงจาก 27 % เหลือ 21 %
Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้พูดคุยกับผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ และเห็นว่าการกำหนดเป้าหมายการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ต้องการความยืดหยุ่น และกฎระเบียบของสหภาพยุโรปมีการกำหนดบทลงโทษเป็นเงินจำนวนสูงเกินไป สำหรับสภาวะเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวในขณะนี้

