ธุรกิจ
MotoGP พร้อมเปิดฤดูกาล 3 บิกอีเวนท์ 2026

MotoGP จัดใหญ่-ใส่เต็ม รับศักราชใหม่ ! 3 บิกอีเวนท์กีฬาระดับโลก “บุรีรัมย์ มาราธอน-MotoGP รอบเทสต์-สนามเปิดฤดูกาล 2026”Highlight
การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พร้อมด้วยภาคเอกชน ผนึกกำลังจัดการประชุมเตรียมความพร้อมมหกรรมกีฬาสุดยิ่งใหญ่ประจำปี 2569 ได้แก่ “บุรีรัมย์ มาราธอน 2026” ฉลองครบรอบ 10 ปี และรุกหนักแผนรับมือ “Pre-Season Test และสนามเปิดฤดูกาล” ต่อเนื่องปีที่ 2 “MotoGP รายการ PT Grand Prix of Thailand 2026” เพื่อวางรากฐานการบริหารจัดการอย่างเต็มระบบ รองรับคลื่นนักวิ่ง-แฟนความเร็วนับแสนสู่ 3 บิกอีเวนท์ระดับโลก
โชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการแข่งขัน (Race Director) บุรีรัมย์ มาราธอน กล่าวว่า บุรีรัมย์ มาราธอนก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ในปี 2569 นับเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของงานวิ่งที่ได้รับความสนใจจากนักวิ่งทั่วโลกมากขึ้นทุกปี โดยงานนี้ไม่ได้เป็นเพียงการแข่งขันเท่านั้น แต่ถูกออกแบบให้เป็นเทศกาลกีฬาที่ผสาน Music, Entertainment และ Night Run ตลอดระยะทาง 42.195 กม. ซึ่งการจัดงานในปีนี้ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมในทุกรายละเอียด เพื่อรองรับนักวิ่งจำนวนมาก และสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้แก่ผู้ร่วมงานทุกคน
จากความสำเร็จของการจัดงานในปี 2025 ที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 32,936 คน และสร้างเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจให้จังหวัดบุรีรัมย์กว่า 966 ล้านบาท โดยในปี 2026 ก็มีนักวิ่งทั้งชาวไทย และต่างชาติสมัครเข้าร่วมมากกว่า 30,000 คนเช่นกัน การจัดงานยังคงจุดเด่นเรื่องบรรยากาศความสนุก และความอบอุ่น พร้อมการปิดถนนตลอดเส้นทาง 100 % ตั้งแต่จุดสตาร์ทที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท ไปจนถึงเส้นชัยที่ช้าง อารีนา เพื่อสร้าง“สวรรค์ของนักวิ่ง” และส่งมอบประสบการณ์ที่ทำให้นักวิ่งอยากกลับมาเยือนบุรีรัมย์อย่างต่อเนื่องในทุกปี
ส่วนในช่วงบ่ายเป็นการประชุมความพร้อมการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมพ์โลก MotoGP สนามประเทศไทย ฤดูกาล 2026 ภายใต้ชื่อรายการ PT Grand Prix of Thailand 2026 นำโดยตัวแทนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย โปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย ร่วมกับ ฉลอง ติรไตรภูษิต ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ไตเติลสปอนเซอร์ พร้อมด้วย ตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท และโชติชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมต่างประเทศ สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท จ. บุรีรัมย์
การขับเคลื่อนทั้ง 2 งานใหญ่ในปี 2569 นี้ เกิดจากการบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วน ทั้ง บุรีรัมย์ มาราธอน 2026 ที่ ฉลองครบ 10 ปีอย่างยิ่งใหญ่ และศึกรถจักรยานยนต์ชิงแชมพ์โลก “MotoGP” รายการ “PT Grand Prix of Thailand 2026" โดยประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ การทดสอบก่อนเปิดฤดูกาล หรือ Pre-Season Test วันที่ 21-22 กพ. และสนามที่ 1 เปิดฤดูกาล ระหว่าง วันที่ 27 กพ.-1 มีค. 2569 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท จ. บุรีรัมย์
ตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อม MotoGP สนามประเทศไทย ปี 2026 ว่า ถือเป็นปีที่ 7 ที่ประเทศไทยอยู่บนปฏิทินการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ทรายการสุดยิ่งใหญ่ของโลก และยังได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่เป็นสนามเปิดฤดูกาลติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ซึ่งสะท้อนถึงมาตรฐานการจัดการแข่งขัน และศักยภาพของสนามประเทศไทยในระดับสากลอย่างชัดเจน
สำหรับปี 2026 เป้าหมายสำคัญ คือ การยกระดับประสบการณ์ของแฟนความเร็วจากทั่วโลกให้ครบทุกมิติ ไม่เพียงเฉพาะการแข่งขันบนทแรค แต่รวมถึงการพัฒนาพื้นที่กิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Commercial Area และ PT Grand Prix Expo ให้มีความสมบูรณ์ และรองรับผู้ชมจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ PT Grand Prix of Thailand เป็น "World Grand Prix" ที่สร้างความประทับใจ และตอกย้ำบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลาง Sport Tourism ของภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม
การประชุมทั้ง 2 กิจกรรมครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะ “มหานครแห่งกีฬา” ของประเทศไทย ที่ต้องอาศัยการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และท้องถิ่น เพื่อขับเคลื่อนพโรเจคท์กีฬาระดับนานาชาติที่จะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2569 ภายใต้ปีกของสนับสนุนชั้นเลิศของ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ กองทุนพัฒนาการกีฬา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.), จังหวัดบุรีรัมย์ ฯลฯ ภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นน้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง, บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG, บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด, บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, บริษัท เอ เอ เอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด (Ducati ประเทศไทย),สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท และผู้สนับสนุนอื่นๆ มากมาย ซึ่งทั้งหมดสะท้อนความพร้อมของประเทศไทย และจังหวัดบุรีรัมย์ ในการทำหน้าที่ “เจ้าบ้านที่ดี” ต้อนรับนักกีฬา แฟนกีฬา และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก พร้อมตอกย้ำบทบาทของบุรีรัมย์ในฐานะเมืองศูนย์กลางอีเวนท์กีฬาระดับโลกอย่างแท้จริง


