Quattroruote ลองของแรง
FERRARI 12CILINDRI เสียงคำรามอันรื่นรมย์
ทุกครั้งที่เราได้ทดลองขับรถสปอร์ทของ FERRARI (แฟร์รารี) ความเร้าใจ และความรื่นรมย์ที่ได้รับ ชวนให้คิดไปว่า น้ำหนัก 21 กรัมของตัวรถ คือ จิตวิญญาณแห่งม้าลำพองแฝงอยู่ นี่คือ รถยนต์ที่รังสรรคืจากค่ายรถแห่งเมืองมาราเนลโลที่เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณอย่างแท้จริง ภายใต้น้ำหนักโดยรวมที่ 1,560 กก. ของ 12CILINDRI (12 ชีลินดรี) กับตัวถังที่มีขนาดใหญ่ บ่งบอกพละกำลังที่ซ่อนอยู่ในขุมพลังที่วางอยู่ด้านหน้า (และแอบซ่อน) อยู่ตรงกลางระหว่างล้อคู่หน้า เป็นแหล่งกำเนิดความดุดันเร้าใจขณะที่ตัวรถพุ่งทะยานไปข้างหน้า กับรายละเอียดทางวิศวกรรมของเครื่องยนต์อันน่าทึ่ง นั่นคือ รูปแบบเครื่องยนต์แบบ วี 12 สูบ ทำมุม 65 องศา ไร้ระบบอัดอากาศ และมีสมรรถนะสูงจากเครื่องยนต์สันดาปล้วนๆ ผลงานจากค่ายรถแห่งเมืองมาราเนลโล คือ สิ่งที่หาได้ยากในโลกยานยนต์ยุคปัจจุบันที่หลายแห่งต่างก็หันไปหาทางเลือกของการลดมลพิษด้วยการเสริมระบบไฮบริดเข้ามา แนวทางที่ถูกรักษาเอาไว้ถูกพิจารณาล่วงหน้าเมื่อ 3 ปีก่อน เมื่อโครงการพัฒนารถสปอร์ทรุ่นใหม่ มีรหัสว่า F167 ถูกริเริ่มขึ้นมา และถูกพัฒนาตามแนวทางดังกล่าวโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ในที่สุด 12CILINDRI ก็ถูกเผยโฉม ท่ามกลางกระแสการหันมาใช้ระบบไฮบริดอย่างกว้างขวาง กับการเป็นรถสปอร์ทที่ทำตลาดในระยะยาวจนถึงอย่างน้อยปี 2027 (ที่หลายคนยังไม่มีแนวทางของโลกยานยนต์ที่จะก้าวต่อไป) บ่งบอกว่า อนาคตไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเสียทั้งหมด
ระหว่างการทดลองขับ เราได้สัมผัสความเร้าใจในช่วงรอบเครื่องยนต์ที่ 9,500 รตน. การตอบสนองที่แสดงออกถึงความมั่นคง และเย้ายวน ผ่านเสียงแผดร้องจากขุมพลังของ FERRARI แถมยังมอบความเร้าใจตั้งแต่ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยซ้ำ จากเส้นสายของตัวรถที่เฉียบคม ผสมผสานความล้ำสมัยของรถสปอร์ทยุคใหม่ เข้ากับเส้นสายที่คุ้นเคย ทีมงานนักออกแบบปรับปรุงรายละเอียดในหลายส่วนตามสไตล์รถสปอร์ทแบบ BERLINETTA จากค่ายรถเมืองมาราเนลโล ผลลัพธ์อาจไม่เห็นชัดเจนจากอัตราเร่งของตัวรถ แต่แสดงออกกับความลงตัวในส่วนอื่นๆ ที่ลงตัวกว่าเดิม โดยยังสามารถรักษารูปแบบดั้งเดิมที่ถูกใช้งานมาเป็นเวลาหลายปี ทำให้ 12CILINDRI มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในหลายจุด เส้นสายบางส่วนมีการนำรูปแบบของรุ่น DAYTONA (เดย์โทนา) มาใช้งาน กระจกบานท้ายมีรูปทรงที่สวยงามแปลกตา จัดเป็นรูปแบบใหม่ในอนาคตของรถสปอร์ทจากค่ายรถแห่งนี้ รวมถึงห้องโดยสารที่มีการออกแบบแนวทางใหม่ FERRARI ออกแบบแผงหน้าปัดแบบแยก 2 ชั้น แบบที่เคยเห็นมาแล้วในรุ่น ROMA (โรมา) รวมถึงเอสยูวีของค่ายอย่าง PUROSANGUE (ปูโรซังกเว) การออกแบบบางส่วนมีความคล้ายคลึงกับห้องโดยสารของรถยนต์ในอดีตผสมผสานอยู่ เมื่อเทียบกับรถยนต์ซีดานแบบ 4 ประตู มีการเพิ่มเติมรายละเอียดที่น่าสนใจ ผ่านรูปแบบของการใช้งาน และวัสดุที่เลือกใช้ เห็นได้จากจอแสดงผลบนคอนโซลกลาง ลดการใช้งานปุ่มควบคุม และการแสดงผลบนแผงหน้าปัด (แบบที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับรุ่น PUROSANGUE) จัดเป็นการปรับปรุงที่อาศัยเสียงตอบรับจากผู้ใช้งานจริง ช่วยให้ผู้ขับสามารถมองเห็นการแสดงได้อย่างชัดเจน ทำให้ความรู้สึกขณะขับขี่มีความลงตัวยิ่งขึ้น ผู้ขับสามารถเลือกได้ว่าจะปรับหน้าจอให้แสดงผลรอบเครื่องยนต์ หรือการใช้งานระบบ APPLE CAR PLAY ตามความต้องการ นอกจากทางเลือกที่หลากหลายแล้ว จัดเป็นความสะดวกสบายที่ผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ราคากว่า 400,000 ยูโร ควรจะได้รับเช่นกัน จอแสดงผลแบบใหม่มีรูปแบบการใช้งานที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ระบบความบันเทิงสามารถใช้งานผ่านจอแป้นควบคุมระบบสัมผัสบริเวณคอพวงมาลัย แบบที่ใช้งานกันมาแล้วเป็นเวลากว่า 5 ปี เพื่อการใช้งานที่ลงตัวอย่างถึงที่สุด ทีมงานจากเมืองมาราเนลโลมีการปรับปรุงระบบใช้งานให้มีความเหมาะสม แต่สิ่งที่น่าพอใจอย่างแท้จริง คือ บรรดาปุ่มใช้งานแบบดั้งเดิมที่มีความสะดวกสบาย ลดความซับซ้อนของการใช้งาน บางทีอาจมีความเสี่ยงกับการออกแบบดังกล่าวอยู่บ้าง แต่ผลลัพธ์ที่ได้มาก็มีความคุ้มค่า กับประโยชน์ที่ได้มามากกว่าการไม่พัฒนาสิ่งใหม่ๆ เลย องค์ประกอบอื่นๆ ของห้องโดยสารมีรูปแบบที่เคยใช้งานมาแล้วกับรุ่น 812 นั่นคือ เบาะนั่งแบบสปอร์ทจำนวน 2 ตำแหน่ง และห้องโดยสารที่เอื้อต่อการขับขี่แบบเน้นสมรรถนะ โดยมีการแสดงผลที่ครบครันสำหรับการขับขี่ทางไกลในเวลาเดียวกัน
ความทันสมัย พร้อมความดุดัน
รถสปอร์ทคันนี้มีรูปแบบที่แตกต่างกันผสมผสานอยู่ ทันทีที่เคลื่อนรถยนต์รุ่นนี้ออกไป ผู้ขับสามารถรับรู้ได้ว่า 12CILINDRI ถูกปรับปรุงในหลายส่วนอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในส่วนของเครื่องยนต์สันดาป และรายละเอียดของระบบขับเคลื่อน แบบที่แฟนพันธุ์แท้ของรถยนต์สปอร์ทต่างก็ถวิลหา แต่อาจจะนึกอิจฉาอยู่ในที ทีมงานของเราขออธิบายคุณสมบัติดังกล่าว ทั้งในแง่ของนักทดสอบรถ และผู้ที่หลงใหลในโลกยานยนต์ ประการแรก 12CILINDRI ตอบสนองการขับขี่ใกล้เคียงกับรุ่นก่อนหน้านี้ และนั่นถือเป็นข้อดีเช่นกัน ความรู้สึกขณะขับขี่ให้ความรู้สึกทำได้ใกล้เคียงเช่นกัน เป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนาจะให้ค่ายรถรักษาสิ่งนี้เอาไว้ แม้กาลเวลาจะผ่านมาหลายปีนับทศวรรษ ผู้ที่ได้ขับรถสปอร์ทรุ่นนี้จะได้รับความรื่นรมย์อันน่าพึงพอใจแบบที่ไม่อาจจะประเมินค่าได้ เป็นผลดีจากองค์ประกอบที่ลงตัวรอบผู้ขับ ทั้งในแง่ของการใช้งานจริง และความรื่นรมย์ เริ่มจากรายละเอียดของเครื่องยนต์รอบจัด กับความเร็วที่ 24.7 ม. ใน 1 วินาที ซึ่งเป็นความเร็วของชุดลูกสูบเรียงตัวแบบ วี 12 สูบ กับรอบเครื่องยนต์ที่ 9,500 รตน. เข็มวัดรอบเครื่องยนต์สามารถกวาดให้เห็นถึงเกือบ 10,000 รตน. เป็นสิ่งที่ไม่สามารถพบเจอได้ง่ายๆ มาตรวัดรอบจะคงที่อยู่อย่างนั้นจากการทำงานของระบบควบคุมรอบเครื่องยนต์ จนกระทั่งผู้ขับทำการเปลี่ยนจังหวะเกียร์ ความดุดัน และพละกำลังมหาศาลจะถูกปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ความโดดเด่นของเครื่องยนต์แบบ วี 12 สูบ ไม่ใช่เพียงรายละเอียดทางเทคนิคเท่านั้น แต่มาจากความดุดันของขุมพลังที่ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างฉับไว เมื่อผู้ขับกดคันเร่งมิดทันทีทันใด แม้กระทั่งในช่วงรอบเครื่องยนต์ต่ำ ไม่เกิน 2,000 รตน. แต่การตอบสนองยังคงมีความมั่นคง พร้อมที่จะทะยานไปข้างหน้าอย่างฉับไวในพริบตา จัดเป็นขุมพลังที่มีความเกรี้ยวกราด และรวดเร็วในแง่ของอัตราเร่ง ตอบสนองคันเร่งได้ไหลลื่นอย่างไร้ข้อกังขา เป็นคุณสมบัติของเครื่องยนต์ที่เหล่าผู้รักความแรงต่างก็ถวิลหา รวมถึงซุ่มเสียงที่เร้าใจ ส่งเสียงอันแผดแหลมออกมา ผสมเสียงที่ทุ้มต่ำในบางจังหวะ เสียงอันเร้าใจของเครื่องยนต์ยังคงเป็นเอกลักษณ์ที่ยอดเยี่ยมของค่ายรถแห่งนี้แบบที่ไม่สามารถหารถยนต์รุ่นอื่นๆ มาเสมอเหมือน จะมีรถสปอร์ทที่ทำได้ใกล้เคียงก็เพียงรถยนต์จากค่าย FERRARI ด้วยกันเอง และเป็นรถสปอร์ทรุ่นพิเศษ ยกตัวอย่างเช่น รุ่น 812 COMPETITION (812 คอมเพทิชัน) ขณะที่คู่แข่งรายอื่นๆ ยังไม่สามารถสร้างเสียงเครื่องยนต์ที่เร้าใจเช่นนี้ได้
นอกเหนือจากความเร้าใจจากขุมพลัง เราขอเสริมอีกว่า จิตวิญญาณของม้าลำพอง น้ำหนัก 21 กรัม ยังคงแฝงอยู่ในการยึดเกาะถนนที่ยอดเยี่ยมด้วย ถือเป็นหนึ่งในความเร้าใจที่ถูกสืบทอดมานานหลายทศวรรษ ทีมงานของเราได้ขับ 12CILINDRI บนพื้นถนนเปียกเป็นส่วนใหญ่ แต่ความคล่องแคล่วแบบที่รุ่นก่อนหน้านี้เคยทำได้ ยังคงตอบสนองให้สัมผัสได้อย่างชัดเจน กับรุ่น 812 ตัวรถมีความมั่นคงขณะเข้าโค้ง แต่เอาเข้าจริง ผู้ขับยังสามารถกดคันเร่งเพิ่มเติมได้ และต้องอาศัยความมั่นใจในตัวรถ โดยรวมแล้ว เป็นความรู้สึกที่แตกต่างจากรถสปอร์ทที่วางเครื่องยนต์กลางลำแบบ วี 8 สูบ สำหรับ FERRARI คันนี้ เราได้ขับในสภาพการจราจรบนถนนจริง และเจอกับฝนตกในบางครั้ง การตอบสนองมีความนุ่มนวลแฝงอยู่เกินคาด ซึ่งไม่ใช่จุดอ่อนของตัวรถเลยแม้แต่น้อย การขับขี่แบบเน้นสมรรถนะยังทำได้ฉับไวทันใจ และการใช้ความเร็วสูงขึ้นต้องใช้การบังคับควบคุมเข้ามาช่วยเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่สนุกสนานกับการขับขี่ ผู้ขับไม่จำเป็นต้องเพ่งเล็งกับการบังคับพวงมาลัยมากเกินไป สำหรับการควบคุมการตอบสนองของล้อคู่หลัง การหักเลี้ยวที่แม่นยำ และเร้าใจในตัว ขณะออกจากโค้ง ตัวรถมีอาการท้ายปัดเล็กน้อย แต่อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ไม่ยากเย็นเกินไป ผู้ขับสามารถเพิ่มความเร้าใจด้วยการเติมคันเร่งได้อีก อาการท้ายปัดจะชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อผู้ขับทำการหักพวงมาลัยไปในทิศทางตรงกันข้าม เพื่อแก้ไขอาการดังกล่าว ความสมดุลระหว่างทิศทางของพวงมาลัย และระดับของคันเร่งที่เหมาะสม ตัวรถยังคงมีความมั่นคงขณะแล่นผ่านในโค้ง ผู้ขับสามารถควบคุมได้อย่างแม่นยำ นำมาซึ่งสิ่งที่หลายคนต้องการจากรถสปอร์ทสมรรถนะสูง นั่นคือ ความรื่นรมย์ของการขับขี่นั่นเอง
ข้อมูลของรถทดสอบจากผู้ผลิต
รุ่น 12CILINDRI
เครื่องยนต์
• วางด้านหน้า
• แบบ วี 12 สูบ (ทำมุม 65 องศา)
• ความจุ 6,496 ซีซี
• กำลังสูงสุด 830 แรงม้า ที่ 9,250 รตน.
• แรงบิดสูงสุด 69.2 กก.-ม. ที่ 7,250 รตน.
ระบบส่งกำลัง
• เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง
สมรรถนะ
• ความเร็วสูงสุด มากกว่า 340 กม./ชม.
• 0-100 กม./ชม. 2.9 วินาที
• 0-200 กม./ชม. 7.9 วินาที
• อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 6.5 กม./ลิตร
• ค่าไอเสียเฉลี่ย 2,353 กรัม/กม.
มิติตัวถัง และน้ำหนัก
• ระยะฐานล้อ 2,700 มม.
• ความยาว 4,730 มม. กว้าง 2,010 มม. สูง 1,290 มม.
• น้ำหนักโดยรวม 1,560 กก.
ราคา
• 395,000 ยูโร (ประมาณ 14,340,000 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้า)
คุณสมบัติรักษ์โลก
แม้เป็นรถสปอร์ทราคาแพง แต่ผู้ผลิตก็คำนึงถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สิ่งที่เห็นได้ คือ ชุดหนัง ALCANTARA ใช้ด้ายแบบรีไซเคิล 65 % ขณะที่วัสดุพลาสติค (เช่น บริเวณมือจับประตู) ใช้วัสดุที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเช่นกัน
1. ปุ่มใช้งานเต็มฟังค์ชัน
รูปแบบที่คุ้นเคยกันดี นั่นคือ ปุ่มใช้งานมากมายบนพวงมาลัย รวมถึงปุ่มใช้งานโหมดการขับขี่ MANETTINO รวมถึงปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์
2. การแสดงผลแบบดิจิทอล
จอแผงหน้าปัดขนาด 15.6 นิ้ว เปลี่ยนรูปแบบได้หลากหลาย ไม่มีมาตรวัดรอบเครื่องยนต์แบบแอนาลอกอีกต่อไป แต่แทนที่ด้วยมาตรวัดแบบดิจิทอล
3. ระบบความบันเทิง
บริเวณคอนโซลกลาง ติดตั้งหน้าจอขนาด 10.3 นิ้ว สำหรับแสดงผลระบบความบันเทิง รวมถึงการใช้งานต่างๆ และการใช้งานระบบปรับอากาศ
4. ผู้โดยสารด้านข้างผู้ขับ
จอแสดงผลขนาด 8.8 นิ้ว แสดงผลมาตรวัดรองเครื่องยนต์ ความเร็ว และข้อมูลต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้โดยสารข้างผู้ขับมีส่วนร่วมขณะนั่งในรถ
5. รูปแบบรางคล้ายเกียร์ธรรมดา
การออกแบบที่ชวนให้นึกถึงอดีตกับปุ่มใช้งานในปัจจุบัน เป็นรางรูปตัว H คล้ายกับเกียร์ธรรมดาดั้งเดิม หรือเกียร์อัตโนมัติ มีโหมดเกียร์ถอย และระบบช่วยออกตัว
ข้อมูลทางเทคนิค รูปแบบเดิมที่พัฒนาอีกขั้น
เครื่องยนต์แบบ วี 12 สูบ ที่รักษาความบริสุทธ์เอาไว้เสมอมา มีการออกแบบขุมพลังที่ลงตัว และมีสเปคในระดับสูง จากการถูกนำมาใช้ครั้งแรกกับรุ่น ENZO (เอนโซ) ในปี 2002 กับเครื่องยนต์รหัส F140B เป็นการบุกเบิกแนวทางการพัฒนาขุมพลังของรถสปอร์ทซีรีส์นี้ สำหรับบลอคที่วางอยู่ใน 12CILINDRI มีรหัส คือ F140HD เป็นการพัฒนาต่อเนื่องกับรุ่นรหัส F140HC ที่ใช้งานกับรถสปอร์ทรุ่น 812 COMPETIZIONE อ่างน้ำมันเครื่องยนต์แบบแห้ง อัตราส่วนกำลังอัดที่ 13.5:1 และกำลังสูงสุดที่ 830 แรงม้า ทำให้กลายเป็นเครื่องยนต์แบบไร้ระบบอัดอากาศที่ทรงพลังที่สุดที่ค่ายรถจากเมืองมาราเมลโลเคยรังสรรค์ขึ้นมา จุดเปลี่ยนแปลงสำคัญ คือ การเพิ่มระบบจัดสรรแรงบิดแบบแปรผัน เป็นระบบอิเลคทรอนิคที่ควบคุมการส่งกำลังไปยังล้อแต่ฝั่งในขณะเข้าโค้ง มีการส่งกำลังที่เหมาะสมตามสภาวะการขับเคลื่อน กับการรองรับรองเครื่องยนต์สูงสุดถึง 9,500 รตน. ทางผู้พัฒนาเครื่องยนต์ยังสามารถลดน้ำหนักโดยรวม และขนาดของขุมพลังได้อีกด้วย โดยการปรับปรุงองค์ประกอบต่างๆ ได้แก่ ก้านสูบใช้วัสดุไทเทเนียม (มีน้ำหนักลดลงถึง 40 % เมื่อเทียบกับวัสดุโลหะ) รวมถึงกระบอกสูบ และเสื้อสูบ (น้ำหนักลดลง 3 %) และองค์ประกอบในส่วนต่างๆ ทำให้มีน้ำหนักลดลง และสามารถออกแบบฝาสูบให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น เครื่องยนต์ วี 12 สูบ สามารถปลดปล่อยพละกำลังมหาศาลอย่างรวดเร็วสู่ล้อคู่หลัง ผ่านเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ พัฒนาโดย GETRAG มีตำแหน่งติดตั้งบริเวณเฟืองท้าย ลงตัวสำหรับรูปแบบการส่งกำลัง และมีความสมดุลในแง่ของการกระจายน้ำหนัก นำมาซึ่งอัตราส่วนของน้ำหนักหน้า/หลังที่ 48:52 ตามคุณสมับติในอุดมคติของซูเพอร์คาร์สมรรถนะสูง ช่วยให้รถมีการยึดเกาะที่ยอดเยี่ยมขณะเข้าโค้ง
ไร้ระบบอัดอากาศ
เครื่องยนต์ที่ไร้ระบบอัดอากาศใดๆ รวมถึงปราศจากระบบไฮบริด คือ จุดเด่นอันเหลือเชื่อของเครื่องยนต์ วี 12 สูบ บลอคนี้
เครื่องยนต์วางด้านหน้า
การวางเครื่องยนต์ด้านหน้า และมีการขยับตำแหน่งให้อยู่ถัดจากแนวฐานล้อคู่หน้า ทำให้ตัวรถมีการคล่องแคล่ว และฉับไวในการหักเลี้ยวมากยิ่งขึ้น
รูปแบบเพลาส่งกำลัง
เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ ถูกติดตั้งบริเวณเพลาส่งกำลังส่วนท้าย เพื่อผลดีขอสมดุลกับตัวรถ และอัตราส่วนการกระจายน้ำหนักหน้า/หลัง
การพัฒนาขึ้นมาใหม่หมด
โครงสร้างตัวถังขึ้นรูปจากวัสดุอลูมิเนียมทั้งหมด ช่วยให้โครงสร้างมีความแข็งแรงมากกว่าเดิมถึง 15 %