ทดสอบ(formula)
ZEEKR X รถยนต์ไฟฟ้าเส้นสายเฉียบ พละกำลังสูง !
รถยนต์ไฟฟ้าหน้าใหม่ ตบเท้าเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างหลากหลาย หนึ่งในนั้น คือ ทีเด็ดจากค่าย GEELY (จีลี) กับหนึ่งในบแรนด์รถยนต์ที่มาแรงจากประเทศจีนกับ ZEEKR X (ซีเคอร์ เอกซ์) ครอสส์โอเวอร์มาดเฉียบ เส้นสายคมเข้ม แปลกตา กับรุ่นทอพ FLAGSHIP (ฟแลกชิพ) ที่มีจุดเด่นด้านสมรรถนะจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ถึง 428 แรงม้า ! จะล้ำสมัยแค่ไหน อัตราเร่งถึงใจหรือไม่ เรามาทดสอบกัน
EXTERIOR ภายนอก
จุดเด่นแรกของ ZEEKR X คือ ตัวถังแบบครอสส์โอเวอร์ที่มีเส้นสายคมกริบ สันเหลี่ยมพาดเฉียงด้านข้างตัวถังขับเน้นความโฉบเฉี่ยวได้เป็นอย่างดี แปลกตากับชุดไฟหน้า แต่อันที่จริงแล้วเป็นชุดไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ไฟส่องสว่างจริงจะถูกติดตั้งบริเวณกันชนหน้าถัดลงมาด้านล่างเล็กน้อย เป็นรูปแบบที่รถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่นออกแบบกัน ในรุ่นทอพ FLAGSHIP ใช้ล้อแมกขนาด 18 นิ้ว ยางของ CONTINENTAL ECO CONTACT (คอนทิเนนทัล อีโค คอนแทคท์) นับว่าน่าแปลกใจเล็กน้อยสำหรับรถยนต์พละกำลังสูงเช่นนี้ น่าจะใช้ยางซีรีส์สไตล์สปอร์ทเต็มตัวไปเลย เราสังเกตว่ามือเปิดประตูของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้จะเรียบสนิทกับตัวถัง เมื่อปลดลอคมือเปิดประตูจะพับหลบเข้าไปด้านใน ผู้โดยสารเพียงเอื้อมมือไปจับช่องเปิด และดึงมือเข้าหาตัว ประตูจะปลดลอค และเปิดได้เองโดยอัตโนมัติ เป็นลักษณะการเปิดประตูที่แปลกเล็กน้อย แต่ยังสะดวกสบายเหมือนเดิม
ขณะที่ตัวถังส่วนท้ายเน้นความล้ำสมัย และเรียบง่าย ไฟส่องสว่างพาดตลอดช่วงความกว้างของตัวถัง กับส่วนหลังคาที่มีความลาดเท โดยมีชื่อบแรนด์ ZEEKR ตรงกลาง (ปุ่มกดสำหรับเปิดประตูบานท้ายจะอยู่ต่ำลงมา) กระจกบานท้ายมีขนาดค่อนข้างเล็ก และทางผู้ผลิตก็ยังติดตั้งที่ปัดน้ำฝนขนาดเล็กมาให้ (ดีกว่าไม่ติดตั้งมาเลยแบบรถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่น) ส่วนมิติตัวถังโดยรวม คือ ความยาว 4,432 มม. และระยะฐานล้อ 2,750 มม. เทียบเท่าครอสส์โอเวอร์ระดับ B-SUV ขนาดใหญ่ เช่น BYD ATTO 3 (บีวายดี อัตโต 3)
INTERIOR ภายใน
ห้องโดยสารของ ZEEKR X ถูกออกแบบให้เน้นความทันสมัยแบบ “มีนีมอล” แฝงความทันสมัยในส่วนต่างๆ ได้อย่างแนบเนียน รุ่นที่เราได้มาทดสอบใช้การตกแต่งด้วยโทนสีเบจอ่อนๆ ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลสายตา (แต่อาจมีโอกาสของการเป็นรอยต่างๆ ได้ง่ายขึ้นด้วย) พวงมาลัยแบบ 2 ก้าน พร้อมปุ่มมัลทิฟังค์ชันที่มีลักษณะเป็นคันโยกขนาดเล็ก นอกจากนี้ ยังมีการซ่อนปุ่มกดบริเวณด้านหลังพวงมาลัยด้วย สามารถใช้ฟังค์ชันต่างๆ ตามที่ผู้ขับต้องการ
จอแสดงผลหลักมีขนาดใหญ่ และทำหน้าที่เป็นส่วนควบคุมการใช้งานระบบต่างๆ ส่วนจอแผงหน้าปัดด้านหน้าผู้ขับมีขนาดค่อนข้างเล็ก ใช้แสดงผลที่จำเป็นสำหรับการขับขี่ในเบื้องต้น (สามารถเปลี่ยนโหมดได้เล็กน้อยผ่านปุ่มบนพวงมาลัย) การเลือกใช้วัสดุในห้องโดยสารของ ZEEKR X สะท้อนความหรูหราในตัว ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของปุ่มปรับกระจกหน้าต่างขึ้น/ลง มีขนาดเล็ก กับสีแดงเลือดหมู (น่าแปลกที่การเลื่อนกระจกลงต้องดันปุ่มขึ้น และการเลื่อนกระจกขึ้นต้องดันปุ่มลง) ส่วนประกอบต่างๆ รวมถึงเบาะนั่งคู่หน้ามีการใช้วัสดุแวววาวทั่วบริเวณส่วนขอบ เบาะคู่หน้าเป็นแบบชิ้นเดียว ไม่มีพนักพิงศีรษะแยก แต่ยังคงนั่งได้สบาย ปรับตำแหน่งด้วยไฟฟ้า ทัศนวิสัยรอบผู้โดยสารด้านหน้ายังมีความปลอดโปร่ง ระยะเหนือศีรษะที่เหลือเฟือ ขณะที่เบาะด้านหลังมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด แต่ไม่อึดอัดแต่อย่างใด ตัวเบาะมีตำแหน่งค่อนข้างต่ำลงมา ทัศนวิสัยด้านข้างยังทำได้ดีอย่างน่าพอใจ แต่ทัศนวิสัยด้านหน้าค่อนข้างน้อย จากเบาะคู่หน้าที่อยู่สูงขึ้นมา
จุดเด่นของ ZEEKR X คือ การใช้งานที่หลากหลาย ในรุ่นทอพ FLAGSHIP ติดตั้งตู้เย็นขนาดเล็กบริเวณส่วนของคอนโซลเกียร์ตรงกลางเบาะคู่หน้า และสามารถทำความเย็นได้จริงตามที่ผู้โดยสารตั้งค่าในระบบ (แต่หากต้องอุณหภูมิเอาไว้ต่ำมากๆ อาจต้องใช้เวลาในการทำความเย็นอยู่บ้าง) สามารถแช่เครื่องดื่มได้เย็นตามต้องการ นอกจากนี้ ตัวรถยังมีลูกเล่นต่างๆ เพิ่มเติม เช่น ระบบไมโครโฟนให้เสียงออกสู่ภายนอก และสามารถปรับโทนเสียงได้ด้วย หรือมีเสียงสังเคราะห์รูปแบบต่างๆ ตามที่ผู้ผลิตติดตั้งมาให้ เช่น เสียงแมว เสียงม้า เสียงรถสปอร์ท เสียงกริ่งจักรยาน และเสียงรถทแรคเตอร์ นับเป็นลูกเล่นที่มีความเก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร และยังมีการติดตั้งชุดไฟส่องสว่างสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร สามารถเลือกสีได้หลากหลาย และเปลี่ยนสีตามจังหวะของเสียงเพลงก็ได้ เสริมด้วยการส่องสว่างเป็นลวดลายของตัวเมืองบริเวณแผงประตูด้านในข้างผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเครื่องเสียงของ YAMAHA (ยามาฮา) (เฉพาะรุ่นทอพ FLAGSHIP)
ENGINE เครื่องยนต์
ZEEKR X รุ่นทอพ FLAGSHIP ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา กำลังสูงสุด 315 กิโลวัตต์/428 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 543 นิวทันเมตร/55.4 กก.ม. นับว่ามหาศาลเอาเรื่องสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าราคา 1 ล้านบาทต้นๆ เช่นนี้ คู่เปรียบเทียบสมรรถนะ คือ VOLVO XC40 PURE ELECTRIC (โวลโว เอกซ์ซี 40 เพียวร์ อีเลคทริค) ซึ่งเป็นรุ่นก่อนปรับโฉม และยังคงใช้ชื่อเดิม (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น EX40) กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ กำลังสูงสุด กับกำลังสูงสุดที่ 408 แรงม้า โดยการทดสอบของเราจะใช้โหมดการขับเคลื่อนแบบ NORMAL เพื่อประเมินการตอบสนองที่เป็นกลางของตัวรถ
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ZEEKR X ใช้เวลาเพียง 4.3 วินาที ส่วน VOLVO XC40 คือ 5.1 วินาที รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน (แต่ค่ายรถอยู่ในเครือ GEELY เหมือนกับ VOLVO) ใช้ความได้เปรียบเรื่องพละกำลัง และขนาดโดยรวมของตัวรถ ชิงความได้เปรียบในช่วงตีนต้น ส่วนอัตราเร่ง 0-1,000 ม. ZEEKR X ทำเวลาที่ 23.9 วินาที (ที่ความเร็ว 196.0 กม./ชม.) ส่วน VOLVO XC40 มีตัวเลขที่ 25.4 วินาที (ที่ความเร็ว 182.6 กม./ชม.) ในส่วนนี้แสดงให้เห็นว่า ความเร็วสูงสุดจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ของ ZEEKR X ทำให้อัตราเร่งช่วงตีนปลายมีความได้เปรียบเช่นกัน
อัตราเร่งยืดหยุ่นที่ 60-100 และ 80-120 กม./ชม. ZEEKR X ทำเวลาได้ที่ 1.8 และ 2.4 วินาที การตอบสนองมีความฉับไวมาก แทบจะใกล้เคียงรถสปอร์ทพละกำลังสูงที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป โดยเฉพาะช่วงความเร็ว 60-100 กม./ชม. สามารถไต่ความเร็วได้ในพริบตา ผู้ขับได้สัมผัสถึงอาการ “หลังติดเบาะ” อย่างแท้จริง ช่วยให้รถทำอัตราเร่งได้เร้าใจ ไม่แพ้การออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง ขณะที่ทาง VOLVO XC40 ใช้เวลาที่ 2.3 และ 2.9 วินาที ถือว่าอัตราเร่งยืดหยุ่นสามารถตามกันมาได้ไม่ห่าง จากรถยนต์ไฟฟ้าร่วมเครือทั้ง 2 รุ่น
ขณะที่อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า เราสังเกตจากจอแสดงผล ตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 13.8 กิโลวัตต์/100 กม. ขณะที่ ZEEKR X มีความจุแบทเตอรีที่ 69 กิโลวัตต์ชั่วโมง ภายใต้การขับขี่แบบทดสอบอัตราเร่งในบางช่วงสลับการขับขี่บนจราจรตามปกติ ถือเป็นอัตราสิ้นเปลืองพลังงานที่ทำได้ดี แม้เป็นระบบมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ทางผู้ผลิตระบุว่า ระยะทำการสูงสุดเมื่อชาร์จแบทเตอรีเต็ม คือ 470 กม. (มาตรฐาน NEDC) รองรับการชาร์จแบบเร่งด่วนจากไฟฟ้ากระแสตรง (DC) สูงสุดที่ 158 กิโลวัตต์ ถือว่าใช้เวลาในการชาร์จไม่นานเกินไป แต่ระยะทำการโดยรวมไม่ได้มากมายเท่าไร จากตัวรถที่มีมิติตัวถังระดับ B-SUV
SUSPENSION ระบบรองรับ
ระบบรองรับของ ZEEKR X ถูกปรับแต่งให้เข้ากับอุปนิสัยการขับขี่ และสภาพแวดล้อมโดยรวมของประเทศไทย ความหนึบแน่นจะถูกเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย แต่ยังมีความนุ่มนวลที่พอเหมาะสำหรับการขับขี่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน รุ่นทอพใช้ล้อแมกขนาด 20 นิ้ว มีความแข็งกระด้างกว่ารุ่นเริ่มต้นเล็กน้อย (ใช้ล้อแมกขนาด 18 นิ้ว) การตอบสนองของพวงมาลัยในโหมด NORMAL ค่อนข้างเบาแรง หากต้องการการตอบสนองที่ไวขึ้น และน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นสามารถเลือกการตอบสนองของพวงมาลัยเป็นโหมด SPORT ได้ สิ่งที่ถูกเสริมเข้ามาในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ คือ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่หลากหลาย รวมถึงกล้องมองภาพรอบคัน (พร้อมระบบบันทึกคลิพภาพเคลื่อนไหวในตัว) เซนเซอร์ของตัวรถมีติดตั้งหลายจุด การใช้งานโดยรวม และการปรับแต่งการทำงานต้องทำผ่านหน้าจอหลักเท่านั้น ในจุดนี้ คือ สิ่งที่ต้องทำความคุ้นเคยพอสมควร เพราะไม่มีปุ่มใช้งานแบบดั้งเดิมมาให้ (แม้แต่การปรับทิศทางของกระจกมองข้างก็ต้องทำผ่านหน้าจอ !) ความหลากหลายของระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ทำได้ยอดเยี่ยม และหลากหลาย แต่ความสะดวกของการใช้งานเป็นสิ่งที่ผู้ขับ และผู้โดยสารต้องทำความคุ้นเคยในระยะแรกพอสมควร
ครอสส์โอเวอร์ไฟฟ้า สุดล้ำ สุดแรง !
ZEEKR X คือ รถยนต์ไฟฟ้าที่นำเสนออีกทางเลือกที่เน้นความคุ้มค่าจากสมรรถนะของตัวรถ เหนือกว่ารถยนต์ไฟฟ้าระดับราคาสูงกว่า กับตัวเลขที่ 428 แรงม้า และอัตราเร่งที่ดุดันเทียบเท่ารถสปอร์ท มาพร้อมการใช้งานที่ล้ำสมัย การออกแบบห้องโดยสารสุดล้ำ พร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ครบครัน ขนาดตัวถังโดยรวมเหมาะสำหรับผู้ใช้งานประมาณ 2-3 คน ภายใต้ราคาที่ 1,349,000 บาท ถือว่าคุ้มค่ามากๆ อย่างไรก็ตาม ค่ายรถ ZEEKR ภายใต้การทำตลาดของ GEELY ยังเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ของตลาดรถยนต์ในบ้านเรา ยังคงต้องใช้เวลาพิสูจน์ความเชื่อมั่น และตลอดจนบริการหลังการขายที่ต้องทำได้ดีไม่แพ้ค่ายรถที่ทำตลาดมาก่อนหน้านี้