ทดสอบ
NISSAN SERENA E-POWER
NISSAN SERENA E-POWER (นิสสัน เซเรนา อี-เพาเวอร์) ใหม่ รหัส C28 (ซี 28) รถอเนกประสงค์ (MPV) ขนาดกลาง 7 ที่นั่ง อันดับ 1 จากประเทศญี่ปุ่น (NO.1 JAPAN’S MID-SIZE MPV) โฉมใหม่ทั้งภายนอก และภายใน ฟังค์ชันการใช้งานครบครัน ทันสมัย ขึ้น-ลงง่ายกว่า NISSAN SERENA S-HYBRID (นิสสัน เซเรนา เอส-ไฮบริด) หรือเรียกตามรหัสว่า C27 (ซี 27) ที่เป็นคู่แข่งของ HONDA STEPWAGON SPADA (ฮอนดา สเตพแวกอน สปาดา) เรานำมาทดสอบด้วยดาทรอน เพื่อให้รู้ถึงสมรรถนะ และความน่าใช้ เอาใจผู้อ่านที่กำลังมองหารถสำหรับครอบครัว ขนาด 7 ที่นั่ง ประตูสไลด์ มีเครื่องยนต์
EXTERIOR ภายนอก
NISSAN SERENA E-POWER สะดุดตายิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่สีดำเงา พร้อมแถบโครเมียมดีไซจ์นแบบ NEXT GENERATION V-MOTION ไฟหน้า และหลัง เป็นแบบ FULL LED ดูล้ำสมัย มาพร้อมล้อขนาด 16 นิ้ว ยาง 205/65 R16
ภายนอกออกแบบเส้นสายทันสมัย ลักษณะแบบกล่อง ONE-BOX TYPE ด้วยกระจังหน้ารูปตัววี แบบ V-MOTION GRILLE รับกับกันชนหน้าพร้อมไฟหน้า ADAPTIVE LED HEADLIGHT ไฟท้าย LED แนวลากยาว สามารถเปิดฝาท้ายได้ 2 แบบ ทั้งแบบ DUAL BACK DOOR สามารถแบ่งการเปิดกระจกด้านบน และเปิดฝาท้ายด้านล่างทั้งบาน เพิ่มความง่ายในการใช้งานเก็บสัมภาระ
มิติตัวถังมีความยาว 4,765 มม. ความกว้าง 1,715 มม. และความสูง 1,870 มม. ระยะฐานล้อ 2,870 มม. ระยะต่ำสุดถึงพื้นอยู่ที่ 135 มม. เท่าๆ กับ NISSAN SERENA S-HYBRID
INTERIOR ภายใน
ภายในห้องโดยสารออกแบบใหม่ ทำให้ผู้ขับขี่มองเห็นด้านหน้าได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น หน้าจอแสดงผลแบบ TFT ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว พร้อมกราฟิคเคลื่อนไหวแบบ 3 มิติ และมีปุ่ม CAMERA สำหรับระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายทั้ง APPLE CAR PLAY และ ANDROID AUTO
NISSAN SERENA E-POWER มีห้องโดยสารที่กว้างขวางมากที่สุดในกลุ่มรถแบบเดียวกัน มีพื้นที่กว้างขวางสำหรับผู้โดยสารทุกคนในที่นั่งทั้ง 3 แถว โดยในที่นั่งแถวที่ 2 เป็นที่นั่งแบบ CAPTAIN SEAT ที่มีพื้นที่วางขามากขึ้น เบาะที่นั่งสามารถปรับได้อิสระ 4 ทิศทาง (เลื่อนหน้า-หลัง, ซ้าย-ขวา) และแยกออกจากกันได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ระหว่างที่นั่ง ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก
ประตูสไลด์ไฟฟ้า, ที่วางแก้ว 17 จุด, ช่องชาร์จ USB ทุกแถวที่นั่ง รวม 6 จุด (USB-C 5 จุด, USB-A อีก 1 จุด) และอุปกรณ์ชาร์จไร้สาย 1 ตำแหน่ง
ส่วนแถวที่ 3 รองรับ 3 ที่นั่ง ปรับพนักพิงให้เอนราบได้ รวมถึงปรับเลื่อนได้อย่างอิสระ สามารถเก็บกระเป๋าเดินทาง หรือสัมภาระขนาดใหญ่ทางด้านหลัง โดยยังคงมีพื้นที่กว้างขวางนั่งสบายในเบาะที่นั่งแถว 3 แต่ก็พับเบาะนั่งเก็บได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ
และมีฝาท้ายอเนกประสงค์แบบ DUAL BACK DOOR สามารถแบ่งการเปิดกระจกด้านบน และเปิดฝาท้ายด้านล่างทั้งบาน เพิ่มความง่ายในการใช้งานเก็บสัมภาระ
เสียงรบกวนในห้องโดยสาร ที่ความเร็ว 60/80/100/120 กม./ชม. อยู่ที่ 57/59/61/64 เดซิเบล ทำได้ดีกว่า NISSAN SERENA S-HYBRID ที่ทำไว้ 59/62/65/67 เดซิเบล เงียบกว่า HONDA STEPWAGON SPADA ที่ทำไว้ 66/67/69/71 เดซิเบล
ENGINE เครื่องยนต์
ขุมกำลังเทคโนโลยี E-POWER ใหม่ ประกอบด้วยชุดขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 120 กิโลวัตต์ หรือ 163 แรงม้า ที่ 3,700-8,600 รตน. ให้แรงบิด 315 นิวทันเมตร หรือ 32.1 กก.ม. ที่ 0-3,600 รตน. พร้อมแบทเตอรีลิเธียม-ไอออนขนาด 1.77 กิโลวัตต์ชั่วโมง ขณะที่ชุดเครื่องยนต์สันดาปสำหรับสร้างกระแสไฟฟ้า เป็นเครื่องยนต์ใหม่ รหัส HR14DDE ขนาดความจุ 1.4 ลิตร 3 สูบ 12 วาล์ว CVTC กำลัง 72 กิโลวัตต์ หรือ 98 แรงม้า ที่ 5,600 รตน. แรงบิดสูงสุด 123 นิวตัน-เมตร หรือ 12.5 กก.ม.ที่ 5,600 รตน. แบบหัวฉีดไดเรคท์อินเจคชัน รองรับน้ำมัน E10
ระบบถ่ายทอดกำลังเกียร์อัตโนมัติแบบ 1 จังหวะ มีรูปแบบการขับขี่ 3 โหมดหลัก ได้แก่ STANDARD, SPORT และ ECO โดยมีฟังค์ชัน B ที่เพิ่มแรงหน่วง หรือช่วยเบรค และเพิ่มการฟื้นฟูพลังงาน หรือ REGENERATIVE รวมถึง EV MODE ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้รถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่เหลือภายในแบทเตอรี โดยเครื่องยนต์จะไม่ทำงานจนกระทั่งแบทเตอรีอยู่ในระดับต่ำ และติดตั้งระบบ E-PEDAL STEP สามารถเร่ง และชะลอความเร็วได้ในคันเร่งเดียว ในขณะเดียวกันก็ชาร์จไฟฟ้ากลับเข้าแบทเตอรีด้วย
มี N HOLD MODE ที่ทำให้สามารถเข็นรถได้ง่ายเมื่อต้องจอดซ้อนคัน รวมถึงเบรคมือไฟฟ้า พร้อม AUTO BRAKE HOLD ที่เสริมความสะดวกในการใช้งานเพื่อความสนุกในการขับขี่ NISSAN SERENA E-POWER สัมผัสได้ถึงความเงียบ และอีกขั้นของความประหยัด
จากผลทดสอบดาทรอน อัตราเร่งตีนต้น 0-100 กม./ชม. และ 0-400 ม. ทําได้ 10.2/17.5 วินาที อัตราเร่งตีนปลาย 0-1,000 ม. ทําได้ 31.9 วินาที
อัตราเร่งยืดหยุ่น จังหวะเร่งแซง 60-100 และ 80-120 กม./ชม. ทําได้ 5.6/7.4 วินาที
เร็วกว่าเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า รุ่น S-HYBRID ที่ทำไว้ 12.9/19.0/34.3 วินาที และ 6.8/8.6 วินาที
ดีกว่าคู่แข่งเดิมอย่าง HONDA STEPWAGON SPADA ที่ทําไว้ 12.9/19.1/34.1 กับ 6.9/8.6 วินาที
อัตราสิ้นเปลืองวัดจากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. ทําได้ 31.3/22.3/13.9/12.5 กม./ลิตร โดยรวมประหยัดกว่ารุ่น S-HYBRID ที่ทําไว้ 27.7/20.6/16.0/12.1 กม./ลิตร แต่มีเพียงช่วงความเร็ว 100 กม./ชม. ที่น้อยกว่า และประหยัดกว่า HONDA STEPWAGON SPADA ที่ทําไว้ 21.1/16.9/13.1/10.5 กม./ลิตร
SUSPENSION ระบบรองรับ
ด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านท้ายแบบทอร์ชันบีม และยังตอบสนองเรื่องการนั่งที่ให้ความนุ่มนวล พวงมาลัยไฟฟ้าปรับ 4 ทิศทาง ให้น้ำหนักการบังคับควบคุมที่มั่นใจได้ พร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
ผลทดสอบเบรคที่ความเร็ว 60/80/100 กม./ชม. อยู่ในเกณฑ์พอใช้ ด้วยยางขนาด 205/65 R16 ระยะเบรค 15.8/28.3/44.7 ม. ดีกว่ารุ่น S-HYBRID ที่ใช้ยางขนาด 195/65 R15 มีระยะเบรค 16.8/29.9/47.0 ม. กับ HONDA STEPWAGON SPADA ที่ทำไว้ 16.3/29.8/46.5 ม.
เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงรอบคัน 360? NISSAN SAFETY SHIELD ครบครัน เช่น ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (IEB) ระบบการเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชน (IFCW) สัญญาณหยุดฉุกเฉินอัตโนมัติ ขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ระบบกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (IAVM)ระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (MOD) ระบบเตือนจุดอับสายตา (BSW) ระบบป้องกันการชนรถในจุดอับสายตา (IBSI) ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (LDW) ระบบควบคุมรถเมื่อออกนอกช่องทาง (ILI) ระบบเตือนขณะถอยรถ (RCTA) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (ICC) กระจกมองหลังอัจฉริยะ (IRVM) ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (HBA) ระบบเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (IDA) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (VDC) ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ ขณะเบรกกะทันหัน ระบบเสียงเตือนคนเดินถนน VSP และสัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและหลัง
NISSAN SERENA E-POWER เป็นรถครอบครัวที่ครบเครื่องทั้งความอเนกประสงค์ ความสะดวกสบายอยู่แล้ว ด้วยความแรง ความประหยัด
ส่วนเรื่องราคา 1,690,000 บาท ที่ต้องจ่ายเพิ่มอีก 220,000 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับราคา 1,469,000 บาท ของ NISSAN SERENA S-HYBRID ก็คุ้มด้วยความแรง ความประหยัด และความใหม่
