ทดสอบ
GWM TANK 300 DIESEL เอสยูวีหรูพันธ์ุดี อีกตัวเลือกคู่แข่งพีพีวี
4 WHEELS ทดสอบ GWM TANK 300 DIESEL (กเรท วอลล์ มอเตอร์แทงค์ 300 ดีเซล) 1 ใน 2 เอสยูวี แนวรุกใหม่ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ที่กล้ารับประกันยาวนานถึง 1,000,000 กม. หรือระยะเวลานานถึง 8 ปี ของ GWM สู้กับคู่แข่ง ตัวใหญ่ในตลาดบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็น FORD EVEREST (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) ISUZU MU-X (อีซูซุ มิว-เอกซ์) MITSUBISHI PAJERO SPORT (มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท) NISSAN TERRA (นิสสัน แตร์รา) และ TOYOTA FORTUNER (โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์)
EXTERIOR ภายนอก
GWM TANK 300 คล้ายตัวลุยในตำนาน ไฟหน้าทรงกลม และขอบซุ้มล้อคู่หน้าที่ยื่นออกมา ยางอะไหล่ที่ติดตั้งบริเวณฝาท้าย ทำให้นึกถึง JEEP WRANGLER (จีพ แรงเลอร์)
มิติตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง 4,760/1,930/1,903 มม. ฐานล้อ 2,850 มม. เทียบกับเอสยูวี 7 ที่นั่ง
GWM TANK 300 มีตัวรถที่สั้นกว่า แต่กว้าง และสูงกว่า FORD EVEREST ที่มีมิติ 4,914/1,923/ 1,842 มม. ฐานล้อ 2,900 มม. ISUZU MU-X ที่มีมิติ 4,850/1,870/1,875 มม. ฐานล้อ 2,855 มม. MITSUBISHI PAJERO SPORT 4,825/1,815/1,835 มม. และ 2,800 ม. และ NISSAN TERRA 4,890/1,865/1,865 มม. และ 2,850 มม.
ใกล้เคียงกับ TOYOTA FORTUNER 4,795/1,855/1,835 มม. และ 2,750 มม. โดยสั้นกว่าเพียง 35 มม. แต่กว้างกว่า 75 มม. สูงกว่า 68 มม. และมีฐานล้อที่ยาวกว่า 100 มม.
GWM TANK 300 มีมุมปะทะถึง 33 องศา มุมจาก 34 องศา มุมคร่อม 23.1 องศา
กระจังหน้าแบบ RECTANGLE ตัดขอบสีดำเงาที่รวมการจัดเรียงของไฟหน้าทรงกลมตัด DRL หลังคาซันรูฟ มาพร้อมราวหลังคา เสาอากาศแบบครีบฉลาม และสปอยเลอร์ท้าย
ประตูท้ายแบบบานสวิง พร้อมกล้องมองหลังบนฝาครอบยางอะไหล่ ไฟท้าย LED ในแนวตั้ง
บันไดข้าง กับยาง CONTINENTAL (คอนทิเนนทัล) รุ่น CROSS CONTACT RX (ครอสส์ คอนแทคท์ อาร์เอกซ์) ขนาด 265/65 R17
INTERIOR ภายใน
ห้องโดยสารของ GWM TANK 300 รุ่น ULTRA และ ULTRA 4WD มีความทันสมัย เต็มไปด้วยฟังค์ชันการใช้งาน และการแสดงผลแบบดิจิทอล
หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทอลขนาด 12.3 นิ้ว ร่วมกับหน้าจอมัลทิมีเดียแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ที่รองรับทั้ง APPLE CAR PLAY และ ANDROID AUTO พร้อมให้สัมผัสกับความบันเทิงอีกขั้น ด้วยลำโพงถึง 6 ตำแหน่ง สำหรับรุ่น 2.4T PRO และลำโพง 8 ตำแหน่ง พร้อมซับวูเฟอร์ ONLINE MUSIC และ ONLINE RADIO ในรุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD
รุ่น 2.4T ULTRA จะเป็นเบาะหนัง NAPPA และหนังสังเคราะห์ ให้สัมผัสที่หรูหรา และสบายกว่าที่เคย เบาะคนขับปรับไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง ระบบ WELCOME SEAT ควบคู่ไปกับระบบระบายอากาศ พร้อมดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง และระบบนวดไฟฟ้า
ระบบปรับพนักพิง และพนักพิงเบาะพับได้แบบ 60:40 ที่มาพร้อมกับที่พักแขนตอนกลาง พร้อมที่วางแก้ว
พร้อมช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหน้า และหลัง ช่องต่อ USB สำหรับกล้องบันทึกภาพ พร้อมช่องจ่ายไฟสำรอง 12V และ 220V
ระดับเสียงในห้องโดยสารของ GWM TANK 300 รุ่น 2.4T ULTRA จากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. วัดได้ 57/61/64/68 เดซิเบล ใกล้เคียงกับ NISSAN TERRA (57/60/63/67 เดซิเบล)
แต่ยังเงียบเท่า ISUZU MU-X (52/56/59/63 เดซิเบล) MITSUBISHI PAJERO SPORT (55/57/62/67 เดซิเบล) FORD EVEREST (48/51/54/58 เดซิเบล) และ TOYOTA FORTUNER (49/52/55/59 เดซิเบล)
ENGINE เครื่องยนต์
GWM TANK 300 DIESEL ใช้เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,600 รตน. ให้แรงบิดสูงสุด 480 นิวทันเมตร แบบต่อเนื่อง 1,500-2,500 รตน.
แรงบิด 260 นิวทันเมตร ตั้งแต่ 1,000 รตน. 350 นิวทันเมตร ที่ 1,000 รตน. และ 480 นิวทันเมตร ที่ 1,500-2,500 รตน.
ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ออกแบบให้มีช่วงอัตราทดกว้าง ช่วยลดรอบเครื่องยนต์ขณะใช้ความเร็วเดินทาง
ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) ในรุ่น 2.4T PRO และ 2.4T ULTRA ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) ในรุ่น 2.4T ULTRA 4WD
ผู้ผลิตแจ้งสมรรถนะอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 11 วินาที ช้ากว่ารุ่น 2.0T HEV เครื่องยนต์ระบบไฮบริด ที่ทำได้ในเวลา 9.0 วินาที
ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย ทำได้ 14 กม./ลิตร (ECO STICKER)
ผลจากการทดสอบสมรรถนะ อัตราเร่งช่วงต้น 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลา 11.8 วินาที 0-400 ม. ทำได้ในเวลา 18.2 วินาที อัตราเร่งช่วงความเร็วปลาย ขณะทำความเร็วสูง 0-1,000 ม. ทำได้ 33.3 วินาที ใกล้เคียงกับ NISSAN TERRA (11.6/18.2/33.5 วินาที) TOYOTA FORTUNER (12.0/18.3/33.7 วินาที) และ ISUZU MU-X 2.2 ที่ทำไว้ 12.1/18.4/33.5 วินาที
ช้ากว่า ISUZU MU-X รุ่น 3.0 ลิตร ที่ทำเอาไว้ 10.5/17.3/32.0 วินาที และ FORD EVEREST 2.0 เทอร์โบคู่ (10.9/17.8/32.8 วินาที)
แต่ยังเร็วกว่า MITSUBISHI PAJERO SPORT (12.4/18.7/33.8 วินาที)
ขณะเร่งแซงช่วง 60-100/80-120 กม./ชม. ทําเวลาได้ 3.9/5.3 วินาที เร็วกว่าคู่แข่งทั้ง MITSUBISHI PAJERO SPORT (6.4/8.2 วินาที) ISUZU MU-X รุ่น 3.0 ลิตร (6.0/7.7 วินาที) FORD EVEREST (6.0/8.0 วินาที) NISSAN TERRA (6.0/7.8 วินาที) และ TOYOTA FORTUNER (5.8/7.4 วินาที)
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ขณะใช้ความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. อยู่ที่ 22.9/18.7/14.4/12.7 กม./ลิตร
SUSPENSION ระบบรองรับ
ระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระ ดับเบิลครอสส์อาร์ม ด้านหลังแบบมัลทิลิงค์ หนึบแน่น แต่ยังให้ระยะยืด/ยุบตัวได้ดีในการลุยทางสมบุกสมบัน พวงมาลัยมีน้ำหนักตามการปรับโหมด NORMAL ECO และ SPORT
จุดสำคัญของเอสยูวีรุ่นนี้ คือ การใช้งานขณะลุยทางสมบุกสมบัน บริเวณคอนโซลเกียร์ ทางซ้ายมือเป็นปุ่มหมุนสำหรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ต่างๆ ตามลักษณะของเส้นทางในการลุย ฝั่งขวามือเป็นปุ่มปรับโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ ความเร็วต่ำ (4L) รวมถึงระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน แต่ที่น่าสนใจ คือ TANK TURN (4L เท่านั้น) ระบบเลี้ยวในวงแคบ
ผลทดสอบเบรค ที่ความเร็ว 60-0/80-0/100-0 กม./ชม. สามารถหยุด TANK 300 ได้ในระยะ 16.6/26.6/43.5 ม. อยู่ในเกณฑ์ดี โดยเฉพาะช่วงความเร็ว 80 และ 100 กม./ชม. เมื่อเทียบกลุ่ม 7 ที่นั่ง ISUZU MU-X 2.2 และ 3.0 ลิตร (16.2/29.4/45.0 ม. และ 16.2/28.6/45.7 ม.) และคู่แข่งอย่าง TOYOTA FORTUNER (16.2/28.4/44.0 ม.)
ใช้ระยะเบรคสั้นกว่า FORD EVEREST (17.5/32.6/50.2 ม.) และ MITSUBISHI PAJERO SPORT (17.0/31.0/46.7 ม.)
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ด้วย 3D IMAGING STEREO CAMERA ที่มีมุมมองกว้าง และแม่นยำกว่าเดิม พร้อมเรดาร์ 2 จุด มีเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (FCW) พร้อมระบบเบรคฉุก เฉินอัตโนมัติ (AEB) ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะ เลี้ยวขวา (TA-AEB) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) พร้อมฟังค์ชัน STOP & GO และเพิ่มใหม่ คือ ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์ (RCTA) พร้อมระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย (RCTB)
ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา (BSM) ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (AHB) ระบบตัดกําลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด (PMM) ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน (LDW) ระบบเบรคอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซํ้าซ้อน (MCB) ระบบเซนเซอร์ช่วยจอดรถยนต์ ระบบตั้งค่าจํากัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง (MSL) ACTIVE SAFETY ระบบความปลอดภัยป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ เช่น ABS EBD ESC TCS HSA HDC และกล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอดแบบ BUILT-IN แจ้งเตือนจุดอับสายตา พร้อมเส้นกะระยะ LANE GUIDE
GWM TANK 300 เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเอสยูวียุคใหม่ มีความครบครัน และเมื่อเทียบกับราคาดีเซล 7 ที่นั่ง ก็ยังมี GWM TANK 300 DIESEL อีกตัวที่น่าสนใจ
GWM TANK 300 ดีเซล 2.4T ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง PRO 999,000 บาท ULTRA 1,149,000 บาท และขับเคลื่อน 4 ล้อ ULTRA 1,249,000 บาท รับประกันเครื่อง 1 ล้านกิโลเมตร