ALL-NEW FORD EVEREST สุดยอด เอสยูวี ล่าสุดของ ฟอร์ด รุ่นปี 2016 ยกระดับเพื่อเป็นผู้นำ ด้วยการนำเอา ADVANCED-DRIVING ASSIST TECHNOLOGY เทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ ที่มีอยู่แต่ในรถระดับหรู มาใช้ ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ หรือ ADAPTIVE CRUISE CONTROL ระบบเตือนการชนด้านหน้า หรือ FORWARD COLLISION WARNING SYSTEM ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง หรือ LANE KEEPING SYSTEM และระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัจฉริยะ ที่เรียกว่า AUTO HIGH BEAM CONTROL รวมทั้งระบบแจ้งเตือน (ความเหนื่อยล้า) ในขณะขับขี่ หรือ DRIVER ALERT SYSTEM สมกับเป็นพรีเมียม เอสยูวีด้านหน้าโดดเด่น ด้วยไฟวิ่งกลางวันแบบ LED และไฟหน้าแบบ HID PROJECTOR ที่สามารถปรับระดับสูง/ต่ำ อัตโนมัติ พร้อมที่ฉีดทำความสะอาด (JET WASH) ในตัว และเพิ่มระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัจฉริยะ AUTO HIGH BEAM CONTROL ในรุ่นปี 2016 ที่ใช้กล้องคอยตรวจจับแสงไฟด้านหน้ารถ โดยในระหว่างการขับขี่หากทางข้างหน้ามืดสนิท ระบบจะเปิดไฟสูงให้อัตโนมัติและเมื่อตรวจจับเจอแสงไฟของรถคันข้างหน้าส่องมา ระบบจะปิดไฟสูงให้เองทันที หมดกังวลเรื่องไฟสูงที่จะส่องรถที่สวนมา ความสูงใต้ท้องจากพื้นถึงตัวรถ 225 มม. สูงที่สุดในรถระดับเดียวกัน และลุยน้ำได้ลึก 800 มม. กับมุมไต่ 29 องศา และมุมจาก 25 องศา มุมคร่อม 21 องศา ห้องโดยสารหรูหรา เบาะนั่งแบบ 7 ที่นั่ง พวงมาลัยเพาเวอร์แบบช่วยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า (EPAS) พร้อมระบบมัลทิฟังค์ชัน ติดตั้งถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ เบาะนั่งแถวที่ 2 แยก 60:40 และแถวที่ 3 แยก 50:50 พับเก็บให้แบนราบได้ทั้ง 2 แถว บรรทุกสัมภาระได้ถึง 2,010 ลิตร มีช่องเก็บของมากกว่า 30 ช่อง ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า สำหรับเบาะหน้าและหลัง และตัวยึดเบาะนั่งพิเศษสำหรับเด็กเล็กบริเวณเบาะนั่งแถว 2 และ 3 รุ่น TITANIUM+ เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า หลังคาบุด้วยผ้าสีดำและมูนรูฟขนาดใหญ่ (PANORAMIC MOONROOF) เบาะแถวที่ 3 พับเก็บด้วยไฟฟ้า และประตูท้ายรถเปิด/ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มความหรูอีกระดับด้วยเบาะหนังสีดำ สำหรับรถสี COOL WHITE GOLD และ ALUMINUM เบาะหนังสีเบจ สำหรับรถสี SUNSET BLACK MICA และ BLUE REFLEX ระบบสั่งงานด้วยเสียงรุ่นล่าสุด ซิงค์ 2 (SYNC TM 2) พร้อมจอสีทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว และเชื่อมต่อไร้สายผ่านบลูทูธ (BLUETOOTH) ได้ นอกจากนี้ยังมีช่องต่อ USB 2 จุด และช่องเสียบ SD CARD รวมถึงช่องเสียบ AUX 3.5 มม. และลำโพงถึง 9 ตัว กับซับวูเฟอร์อีก 1 ตัว ระบบปรับอากาศแบบแยกส่วน ด้านหน้าแยกอิสระซ้าย/ขวา และระบบปรับอากาศด้านหลัง สำหรับเบาะนั่งแถวที่ 2 และแถวที่ 3 พร้อมช่องแอร์เหนือศีรษะ และช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า 4 จุด (DC 12V) พร้อมปลั๊กไฟบ้าน (AC 230V) เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล เทอร์โบแปรผัน ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ ขนาด 3.2 ลิตร 5 สูบ 20 วาล์ว 200 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 47.9 กก.-ม. (470 นิวตัน-ม.) และขนาด 2.2 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว 160 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 39.3 กก.-ม. (385 นิวตัน-ม.) กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมโหมดเปลี่ยนเกียร์ บวก/ลบ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ I4WD TERRAIN MANAGEMENT SYSTEM เลือกปรับรูปแบบการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ คือ NORMAL สำหรับพื้นถนนทั่วไป SAND สำหรับพื้นทราย SNOW OR MUD สำหรับพื้นหิมะ หรือโคลน หรือทุ่งหญ้า และ ROCK CRAWL สำหรับพื้นหินขรุขระ พร้อมโหมด 4L และระบบลอคเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า (ELECTRONIC LOCKING REAR DIFFERENTIAL) นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน (HILL DESCENT CONTROL) ช่วงล่างหลังแบบคอยล์สปริง และระบบวัตต์ ลิงค์ (WATT'S LINK) ที่ช่วยทำให้หน้ายางตั้งฉากกับพื้นถนนเมื่อรถมีการเข้าโค้ง ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP) ให้รถเกาะถนนและทรงตัวดี พร้อมระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (HLA) และยังมีระบบควบคุมการจ่ายแรงบิดผ่าน ACTIVE TRANSFER CASE จ่ายแรงบิดไปยังล้อหน้าและหลังโดยอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ติดตั้งระบบป้องกันการพลิกคว่ำ รุ่น TITANIUM+ 4x4 ปี 2016 ยกระดับความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้น ด้วยระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (ADAPTIVE CRUISE CONTROL) นอกจากจะควบคุมความเร็วตามที่กำหนด ยังรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ โดยอาศัยกล้องเรดาร์ด้านหน้าคอยตรวจจับรถคันหน้า ซึ่งระบบจะประมวลผลและควบคุมระบบเบรคและคันเร่ง เพื่อช่วยเบรคและเร่งความเร็วให้ตามระยะห่างจากรถคันหน้า โดยที่ผู้ขับไม่ต้องคอยเหยียบเบรคและคันเร่ง และปิด/เปิดระบบควบคุมความเร็วใหม่ นอกจากนี้ ยังมี ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FORWARD COLLISION WARNING SYSTEM) กล้องเรดาร์หน้ารถจะคอยตรวจจับระยะห่างระหว่างรถคันหน้า หากระบบพบความเสี่ยงที่จะเกิดการชน ไฟจะเตือนขึ้นบนกระจกหน้ารถ และถ้ารถเข้าไปในระยะกระชั้นชิดกว่านั้น ไฟจะกะพริบพร้อมเสียงเตือนและระบบ จะเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรคให้พร้อมเพื่อให้รถหยุดได้เร็วขึ้นเมื่อแตะเบรค และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (LANE KEEPING SYSTEM) ในกรณีที่รถเบี่ยงออกจากเลนโดยไม่ได้ตั้งใจและไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว ระบบจะช่วยหักพวงมาลัยเล็กน้อย เพื่อช่วยให้รถกลับเข้ามาในเลน ถ้าหากทิศทางของรถยังคงเบี่ยงออกนอกเลนระบบจะเตือน โดยการสั่นที่พวงมาลัย และระบบแจ้งเตือนการขับขี่ (DRIVER ALERT SYSTEM) ระบบจะคอยสังเกตพฤติกรรมในการขับขี่ของผู้ขับอยู่ตลอดเวลา ด้วยกล้องหน้ารถในการตรวจจับลักษณะการวิ่งของรถบนเส้นถนน ถ้ารถเริ่มส่ายไปมาผิดปกติระบบจะทำการประเมินถึงความจำเป็นที่ผู้ขับขี่ต้องหยุดพัก จากสีเขียว เหลือง และแดง โดยจะมีสัญญานเตือนขึ้นบนหน้าจอแสดงผล ส่วนด้านหลังมีกล้องมองหลังขณะถอยจอด มีระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (ACTIVE PARK ASSIST) สแกนหาช่องจอดที่เหมาะสม พร้อมหมุนพวงมาลัยให้อัตโนมัติ เมื่อทำการจอด และยังมีระบบตรวจจับรถในจุดบอด (BLIND SPORT INFORMATION SYSTEM) ใช้เซนเซอร์เรดาร์ค้นหาว่ามีรถยนต์คันอื่นอยู่ในจุดบอดที่ผู้ขับขี่อาจมองไม่เห็นหรือไม่ พร้อมกันนั้นยังมีระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด (CROSS TRAFFIC ALERT)
บทความแนะนำ