Michelin Primacy 5 ประสบการณ์ขับขี่ที่นุ่มสบายไปอีกขั้น

Michelin Primacy 5 (มิชลิน ไพรมาซี 5) เป็นยางรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Michelin ที่เน้นความนุ่มสบายและการขับขี่ที่เงียบ เหมาะสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถไฟฟ้า EV

Michelin Primacy 5 ยังคงจุดเด่นของ Michelin ในตระกูล Primacy ในเรื่อง ความนุ่มสบาย Michelin Primacy 5 ได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้นำด้านความนุ่มเงียบและความนุ่มสบาย ด้วยการออกแบบดอกยางใหม่เพื่อลดเสียงรบกวนเข้าสู่ห้องโดยสาร

Michelin Primacy 5 มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ด้วยเทคโนโลยี Max Touch Construction เป็นเทคโนโลยีช่วยในภาพรวมยาง กระจายแรง เพิ่มประสิทธิภาพในการเร่งความเร็ว การเบรค และเข้าโค้ง สัมพันธ์กันอย่างสม่ำเสมอและยืดอายุดอกยางนานขึ้น

Michelin Primacy 5 ให้ความปลอดภัย ความมั่นใจได้ทั้งบนถนนเปียกและถนนแห้ง ด้วยร่องรีดน้ำขนาดใหญ่ ช่วยให้วิ่งผ่านน้ำที่ความเร็วสูงได้ โดยไม่มีอาการเหินน้ำหรือสะบัด ตลอดอายุการใช้งาน

Michelin Primacy 5 ยังออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้รถไฟฟ้า สามารถรองรับการใช้งานของรถไฟฟ้า 

ภายในงาน Michelin Primacy 5 Confidence Made to Last Driving and Brand Experience 2025

Michelin แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ในตระกูล Primacy นั้นก็คือ Michelin Primacy 5 โดยชูจุดเด่น 3 ประการ ประกอบด้วย

1. การขับขี่สบายระดับพรีเมียม (Premium Comfort Drive)
2. ความปลอดภัยที่ทนทาน (Safety Made to Last)
3. เหมาะกับรถไฟฟ้า (Also Suitable for your EV) 

ไม่เพียงเท่านั้น Michelin Primacy 5 ยังออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

ประสบการณ์ขับขี่ที่นุ่มสบายไปอีกขั้น

Premium Comfort 

Michelin Primacy 5 ให้ความนุ่มเงียบและความนุ่มสบาย ซึ่งประสิทธิภาพเรื่องความนุ่มเงียบและความสบายเป็นผลจากเทคโนโลยีลดเสียงรบกวน Michelin Silent Rib Gen-3 

ในสถานีนี้ ทีมงานทดสอบ นำเอาท่อเหล็กมาวาง แทนรอยต่อบนถนน

เปรียบเทียบกับยางคู่แข่งอีก 2 บแรนด์ Michelin Primacy 5 ลดเสียงและแรงสั่นสะเทือน ที่ความเร็วต่ำ ได้ดีกว่า

จังหวะที่เลี้ยวลายดอกยางด้านข้าง ที่ต่างกัน ทำให้มีความถี่เสียงหักล้างกันเอง และร่องเล็กกลางดอกยาง ช่วยลดแรงสั่นสะเทือน Michelin Primacy 5 เงียบและเกาะถนนกว่าคู่แข่ง

ลายดอกต่างกันบริเวณกลางหน้ายางที่ Michelin เพิ่มมาใน Primacy 5 ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนและเสียง เมื่อยางหมุน เป็นประสบการณ์ขับขี่ที่นุ่มสบายไปอีกขั้น

Michelin Primacy 5 ไม่เพียงปรับเปลี่ยนลายดอกยางด้านข้าง และเพิ่มร่องเล็กเข้าไปเท่านั้น ออกแบบลายดอกยางด้านในให้มีขนาดและลายดอกต่างกัน เพื่อจำกัดเสียงรบกวนซ้ำๆ และลดแหล่งกำเนิดเสียงรบกวน

ความนุ่มเงียบและความนุ่มสบาย: การทดสอบจัดทำโดย TUV Rheinland Thailand ตามคำขอของมิชลิน ณ ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (Automotive and Tyre Testing, Research and Innovation Center: ATTRIC) จังหวัดฉะเชิงเทรา ประเทศไทย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 โดยติดตั้งยางขนาด 225/50R17 กับรถยนต์ Honda Accord e:HEV Y2022 เพื่อเปรียบเทียบยาง Michelin Primacy 5 (ยางใหม่) กับยาง Michelin Primacy 4 และยางระดับพรีเมียมแบรนด์อื่นๆ (ประสิทธิภาพเรื่องความนุ่มเงียบและความสบายเป็นผลจากเทคโนโลยีลดเสียงรบกวน Michelin Silent Rib Gen-3) 

มั่นใจได้ไกลกว่า..แม้เวลาเปลี่ยน

Michelin Primacy 5 มีสมรรถนะการเบรกบนถนนเปียกของยางใหม่และยางใกล้หมดดอก

Be Safe on Wet Road 

ยางใหม่มาเต็มๆ กับเทคโนโลยี Max Touch Construction 

หักหลบสิ่งกีดขวางได้ง่าย

สถานีนี้ ทดสอบสมรรถนะยางใหม่ Michelin Primacy 5 กับคู่แข่งอีก 2 ราย เริ่มจากหักหลบบนถนนแห้ง ก่อนจะเลี้ยวกลับรถบนถนนเปียก ตามชื่อ Be Safe on Wet Road

Michelin Primacy 5 รีดน้ำออกจากหน้ายางได้ดี ลดอาการเหินน้ำ แม้ว่าจะมีน้ำท่วมขัง ยังควบคุมให้ไปในทิศทางที่กำหนดได้ง่าย

ซึ่งความเร็วที่ใช้ในขณะกลับรถกำหนดไว้ที่ 50 กม./ชม. และเข้าโค้ง ที่ 60 กม./ชม. เท่ากัน ทั้ง 3 คัน คันที่ใส่ Michelin Primacy 5 โชว์ผลงาน ขับง่าย สั่งได้ดั่งใจ

Excellent Longevity

สถานียางเก่า “ยางใกล้หมดดอก” ในที่นี้หมายถึงยางที่มีความลึกร่องดอกยางเหลือ 2.0 มม. มาขับจับเวลาแบบ Gymkhana ทั้ง Michelin Primacy 5 และยางคู่แข่ง

ไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ หน้ายางเหลือแค่ร่องกลาง บนถนนแห้ง Michelin Primacy 5 ก็ทำได้ดีกว่าคู่แข่ง และบนทางเปียก ยังรีดน้ำได้ ควบคุมรถง่ายกว่า

ช่องทางแคบๆ รูปตัว M ต่อด้วย 5 ไปได้แบบต่อเนี่อง เวลาดี

จิกไม่ปล่อยกันเลยที่เดียว Michelin Primacy 5

ดูกันชัดๆ ใกล้ๆ ให้เห็นหน้ายางกันเลย ใกล้จะหมดดอกแล้ว

สมรรถนะการเบรกบนถนนเปียกของยางใหม่และยางใกล้หมดดอก: การทดสอบจัดทำโดย TUV Rheinland Thailand ตามคำขอของมิชลิน ณ ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (Automotive and Tyre Testing, Research and Innovation Center: ATTRIC) จังหวัดฉะเชิงเทรา ประเทศไทย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 โดยติดตั้งยางขนาด 225/50R17 กับรถยนต์ Honda Accord e:HEV Y2022 ที่ขับขี่ด้วยความเร็ว 0-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ผลการทดสอบพบว่ายาง Michelin Primacy 5 มีระยะเบรคสั้นกว่ายางระดับพรีเมียมแบรนด์อื่นๆ ถึง 8% (ยางใหม่) และ 13% (ยางใกล้หมดดอก)

“ยางใกล้หมดดอก” ในที่นี้หมายถึงยางที่มีความลึกร่องดอกยางเหลือ 2.0 มิลลิเมตร ซึ่งความลึกนี้เกิดจากการทำให้สึกด้วยเครื่องจักร

Michelin Primacy 5 มีอายุใช้งานยาวนาน

อายุใช้งานยาวนาน: การทดสอบจัดทำโดย DEKRA TEST CENTER ตามคำขอของมิชลิน ณ ศูนย์ทดสอบ DEKRA Test Center ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 โดยติดตั้งยางขนาด 205/55R16 กับรถ Golf VIII 5 ประตู ผลการทดสอบพบว่ายาง Michelin Primacy 5 มีอายุใช้งานเฉลี่ยยาวนานกว่ายางระดับพรีเมียมแบรนด์อื่นๆ ถึง 24%

รองรับทุกความท้าทายของรถไฟฟ้า

Suitable for EV Demonstration

ทดสอบการไหลจากสะพาน ด้วยรถไฟฟ้า เปรียบเทียบระหว่างยางคู่แข่งกับยาง Michelin Primacy 5 ด้วยรถคันเดียวกัน เปลี่ยนสลับยาง วัดระยะทางที่ไหลไปได้

Michelin Primacy 5 มีประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง

ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง: การทดสอบแรงต้านทานการหมุนของยางล้อจัดทำด้วยเครื่องจักรโดยสถาบันยานยนต์ ตามคำขอของมิชลิน ณ ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (Automotive and Tyre Testing, Research and Innovation Center: ATTRIC) จังหวัดฉะเชิงเทรา ประเทศไทย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 โดยใช้ยางขนาด 255/50R17 ผลทดสอบพบว่า Michelin Primacy 5 ลดแรงต้านทานการหมุนของยางล้อดีกว่ายางระดับพรีเมียมแบรนด์อื่นๆ ถึง 13% 

ข้อมูลเพิ่มเติม:

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและขนาดยางที่มีจำหน่ายได้ที่เว็บไซต์ของมิชลินประเทศไทย: PRIMACY 5 - ยางรถยนต์ | MICHELIN