มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ จัดกิจกรรม “MITSUBISHI E:MOTION VERSE เปิดมิติการขับขี่สุดท้าทาย”
เรียวอิจิ อินาบะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ ดำเนินธุรกิจในไทยมานานกว่า 63 ปี ปัจจุบันมีเครือข่ายผู้จำหน่ายมากกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ โดย MITSUBISHI XPANDER HEV และ MITSUBISHI XPANDER CROSS HEV ได้รับการผลิตที่โรงงานของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ ในจังหวัดชลบุรี
สำหรับการจัดกิจกรรมทดลองขับ “MITSUBISHI E:MOTION VERSE เปิดมิติการขับขี่สุดท้าทาย” เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสความเป็นที่สุดของการผสานการทำงานของเทคโนโลยีอันเหนือชั้น ที่จะสร้างความเชื่อมั่น และพิสูจน์ให้เห็นว่าเทคโนโลยีของเราได้รับการพัฒนา และพร้อมที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในชีวิตประจำวัน มั่นใจได้ในความปลอดภัยทุกสภาพถนน และทุกสภาพอากาศ โดยเฉพาะเมื่อผู้ขับขี่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
“MITSUBISHI E:MOTION VERSE เปิดมิติการขับขี่สุดท้าทาย” ออกแบบสนามทดสอบ 5 สถานี เพื่อเป็นการเน้นย้ำให้เห็นถึงคุณสมบัติ และสมรรถนะที่โดดเด่นของประสบการณ์การขับขี่แบบ MITSUBISHI E:MOTION สถานีแรก เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่จากพลังงานไฟฟ้า ด้วย CHARGE MODE และ EV PRIORITY MODE ที่สามารถชาร์จไฟฟ้ากลับคืนเข้าแบทเตอรีได้ แม้จะจอดอยู่กับที่ด้วยเวลาอันสั้น และยังให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าจากพลังงานไฟฟ้า 100 % ที่เงียบ พร้อมความคล่องตัวในการหลบสิ่งกีดขวาง ตลอดจนการเก็บเสียงที่ดีเยี่ยมของห้องโดยสาร
สถานีที่ 2 จำลองการทำงานของ TARMAC MODE ผู้ขับขี่ต้องเหยียบคันเร่งในอัตราความเร็ว 0-100 กม./ชม. บนถนนลาดยางในระยะทางที่กำหนด เพื่อสัมผัสถึงพละกำลังแรงบิดอันทรงพลังเช่นเดียวกับโหมดสปอร์ท แต่ยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะการขับขี่ที่นุ่มนวล เมื่อถึงสถานีที่ 3 ผู้ขับขี่จะต้องปรับรูปแบบการขับขี่ไปยัง WET MODE โหมดการขับขี่บนถนนเปียกลื่น ซึ่งเป็นรูปแบบการขับขี่ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้เหมาะกับภูมิอากาศของประเทศไทยโดยเฉพาะ และในสถานีนี้ ผู้ขับขี่ยังได้ทดสอบระบบควบคุมการขับเคลื่อน และสมดุลขณะเข้าโค้ง (ACTIVE YAW CONTROL: AYC) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ MITSUBISHI MOTORS มอบความปลอดภัย และความมั่นใจในการขับขี่โดยเฉพาะในขณะเข้าโค้ง โดยไม่เกิดอาการท้ายปัด หรืออันเดอร์สเตียร์ (UNDERSTEER)
สำหรับในสถานีที่ 4 ผู้ขับขี่ได้ทดสอบการใช้งานรูปแบบการขับขี่ “GRAVEL MODE” ทดสอบการขับขี่บนถนนลูกรัง แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการขับขี่บนถนนที่ลื่นไถลจากกรวดหิน และฝุ่น แต่ยังสามารถควบคุมตัวรถได้อย่างมีเสถียรภาพ และมั่นใจ สถานีสุดท้ายกับการทดสอบรูปแบบการขับขี่ “MUD MODE” โดยรูปแบบการขับขี่นี้จะมีการปรับการตอบสนอง และการควบคุมที่ทรงพลังบนถนนดินโคลนอันสมบุกสมบัน ให้สามารถผ่านไปได้โดยไม่ติดหล่ม พร้อมกับความสูงใต้ท้องรถที่ 205 มม. จึงทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องกังวลกับอุปสรรคบนพื้นผิวถนน
จากการทดสอบสมรรถนะทั้ง 5 สถานี จึงเป็นการตอกย้ำถึงสมรรถนะอันเหนือกว่า MITSUBISHI XPANDER HEV และ MITSUBISHI XPANDER CROSS HEV ที่เหนือกว่ารถยนต์ขับเคลื่อน 2 ล้อ ในกลุ่มรถยนต์ประเภทเดียวกัน
บทความแนะนำ