สัมผัส ซูบารุ เลอโวร์ก ใหม่ ปล่อยกาย ปล่อยใจ ที่เกาะลันตา

หลังจากได้ยินข่าวสะพานข้ามทะเล ที่เชื่อมระหว่างเกาะลันตาน้อย-ใหญ่ จ. กระบี่ สร้างเสร็จแล้ว ผมหวนนึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่เงียบสงบของเกาะแห่งนี้ หาดทรายขาวตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าใส เรือนไม้เก่าของชาวประมงสุดคลาสสิค รวมถึงแหลมโตนดที่งดงามในยามเย็น จึงหวนกลับไปที่นั่นอีกครั้ง "ฟอร์มูลา" ขอชวนท่านผู้อ่านที่มีใจรักทะเล ร่วมเดินทางท่องเที่ยวพร้อมกับเรา บนเกาะสุดคลาสสิคแห่งนี้

เข้าโค้งมั่นใจ สไตล์ ซูบารุ

การเดินทางครั้งนี้ ผมถือโอกาสทดสอบสมรรถนะเจ้า ซูบารุ เลอโวร์ก ระยะทางไกลๆ ไปในตัว ว่ารถทรงสปอร์ทสเตชันแวกอนคันนี้ เมื่อถึงคราวต้องเดินทางไกลกว่า 900 กม. จะยังให้ความรู้สึกสบายอยู่หรือไม่ ตลอดระยะทางจากกรุงเทพฯ-เกาะลันตา จ. กระบี่ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เลอโวร์ก สุดหล่อคันนี้ สามารถเดินทางไกลๆ ได้อย่างสบาย ช่วงล่างที่รู้สึกแข็งในความเร็วต่ำ เมื่อยามเดินทางด้วยความเร็วสูงกว่า 100 กม./ชม. กลับให้ความรู้สึกที่ไว้ใจได้ มีความแน่นหนึบอย่างไม่น่าเชื่อ คนขับสามารถควบคุมรถได้อย่างสบาย แม้ขณะเข้าโค้งที่ความเร็วสูง คงต้องยกความดีความชอบให้กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมาตร ที่เลื่องชื่อของ ซูบารุ เขาละครับ ด้านพละกำลังมีมาให้เพียงพอ เนื่องจากใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบแบบสูบนอนขนาด 1.6 ลิตร ไดเรคท์อินเจคชัน ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติซีวีที อัตราเร่งอาจช้าไปบ้างที่ความเร็วสูง เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบของเพื่อนร่วมค่าย    

ลงแพขนานยนต์ ขึ้นสะพานข้ามเกาะ

ใครที่เคยมาเกาะลันตา คงทราบกันดีว่า กว่าจะถึงต้องข้ามแพขนานยนต์ถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกจากแผ่นดินใหญ่ถึงเกาะลันตาน้อย และครั้งที่ 2 จากเกาะลันตาน้อยถึงเกาะลันตาใหญ่ จึงทำให้การไปมาหาสู่กันระหว่าง 2 เกาะไม่ค่อยสะดวกนัก ภาครัฐจึงอนุมัติงบประมาณกว่า 430 ล้านบาท เพื่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตาน้อย-ใหญ่แห่งนี้ เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา ได้มีพิธีเปิดสะพานอย่างยิ่งใหญ่ และเปิดใช้อย่างเป็นทางการในวันต่อมา สะพานแห่งนี้ยาว 630 ม. ถ้ารวมถนนที่เชื่อมขึ้นระหว่างสะพานทั้ง 2 ฝั่ง ก็ยาวถึง 1.7 กม. โดยมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "สะพานเกาะลันตา" สร้างความดีใจให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก การคมนาคมใน อ. เกาะลันตา ทั้ง 2 เกาะ จึงสะดวกขึ้น รวมถึงการเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ของเราด้วย    

"ลัสตา" ความงามที่ซ่อนเร้น

"ลันตา" เขาว่าเพี้ยนมาจากคำว่า "ลัสตา" ในภาษาท้องถิ่น ซึ่งหมายถึงที่ "ตากปลา" ของชาวเลสังกาอู้ ที่อาศัยอยู่บนเกาะมานานหลายชั่วอายุคน เกาะลันตา เป็นอำเภอหนึ่งใน จ. กระบี่ ประกอบด้วยเกาะลันตาน้อย และเกาะลันตาใหญ่ แต่แหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะอยู่ที่เกาะลันตาใหญ่ ขณะที่เกาะลันตาน้อย เป็นที่ตั้งของศูนย์ราชการต่างๆ อาทิ ที่ว่าการอำเภอ โรงเรียน บ้านเรือนโบราณ เป็นต้น เกาะลันตามีผู้คนอาศัยอยู่มานานกว่า 100 ปี เนื่องจากแต่ก่อนเกาะแห่งนี้เคยเป็นเมืองท่าของชาวจีน และชาวอาหรับ ที่แล่นเรือค้าขายในน่านน้ำภูเก็ต ปีนัง สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย จนกลายเป็นชุมชนใหญ่ ปัจจุบันยังคงมีวิถีชีวิตของชาวเกาะดั้งเดิม ทั้งไทยพุทธ ไทยจีน ไทยมุสลิม และกลุ่มไทยใหม่ (ชาวเล) อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ส่วนบริเวณด้านหัวเกาะ (ท่าเรือศาลาด่าน) และชายหาดฝั่งตะวันตก ก็คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะชาวต่างชาติ เป็นการผสมผสานที่ลงตัว    

ทรายขาว น้ำทะเลใส ประภาคารเด่น

นอกจากความหลากหลายทางวัฒนธรรมแล้ว ด้านทิศตะวันตกของเกาะ ยังเป็นแหล่งศูนย์กลางธุรกิจทั้งร้านอาหาร ธนาคาร และที่พักหลากสไตล์ หลายราคา ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักแสนบาท เนื่องจากมีชายหาดมากมายเรียงรายต่อเนื่องกัน อาทิ หาดคลองดาว พระแอะ คลองโขง คลองโตบ คลองนิน บากันเตียง คลองจาก ไม้ไผ่ และแหลมโตนด ด้านใต้สุดของเกาะเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา มีจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอย่าง "จุดชมวิวแหลมโตนด" เป็นที่ตั้งของประภาคารที่สามารถมองเห็นโค้งอ่าวกรวด และอ่าวทรายขาวมาบรรจบกัน แถมยังเป็นจุดดำน้ำดูปะการังน้ำลึกที่สวยงามอีกด้วย  

เยี่ยมชุมชนโบราณ ทานอาหารอร่อย

ด้านทิศตะวันออกของเกาะ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างชุมชนโบราณบ้านศรีรายา ซึ่งเป็นชุมชนที่อาศัยมานานกว่า 100 ปี ด้วยเสน่ห์ของเรือนไม้หน้าแคบ ที่ยื่นยาวลึกออกไปในทะเล และวิถีชีวิตแบบสงบของชาวไทยจีน และชาวไทยมุสลิม ที่อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข เลยไปอีกนิดจะเจอกับหมู่บ้านชาวเล หรือชาวไทยใหม่ ชื่อบ้านสังกาอู้ ที่ตั้งอยู่ใต้สุดของเกาะ เป็นชุมชนของชาวเลเผ่าลูโมะลาโว้ย ที่ตั้งถิ่นฐานมานานหลายชั่วอายุคน     บริเวณท่าเรือศาลาด่าน มีร้านอาหารมากมาย ผมชิมมาก็หลายร้าน นึกว่าอาหารที่นี่รสชาติธรรมดา บังเอิญไปเจอร้านชื่อ "ลานตาซีฟู๊ด" รสชาติดีทีเดียว ร้านนี้ฝรั่งไม่ค่อยเข้ามีแต่คนไทย เนื่องจากอาหารรสจัด แต่ถูกปากเรายิ่งนัก ผมสั่งปลากะพงทอดน้ำปลา กุ้งอบเนย ปลาหมึกผัดไข่เค็ม และปูนิ่มทอดกระเทียม เผลอแป๊บเดียว...หมด ! โดยไม่รู้ตัว การเดินทางครั้งนี้ทำให้รู้ว่า ความสุขไม่ได้เกิดขึ้นที่จุดหมายปลายทาง แต่มันเกิดขึ้นตลอดการเดินทางต่างหาก แล้วคุณจะพบความสุขเหล่านั้น เมื่ออยู่บนเกาะแห่งนี้  

ขอขอบคุณ

บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อ ซูบารุ เลอโวร์ก ในการเดินทาง