เลือกวิทยุ ให้ตรงใจ ถูกหู

การเลือก วิทยุหรือเฮดยูนิท ระบบเสียงติดรถยนต์มีองค์ประกอบหลักอยู่ 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ 1. แหล่งกำเนิดสัญญาณ มีทั้งวิทยุ/ซีดี หรือวิทยุ/ดีวีดี ซึ่งเราจะเรียกกันว่า ซีดี รีซีเวอร์ เครื่องเล่นประเภทนี้จะอยู่ในกลุ่มของนักฟังประเภทออดิโอที่เน้นเฉพาะการฟังเพลงอย่างเดียว หรือวิทยุ/ดีวีดี ที่เรียกว่า ดีวีดี รีซีเวอร์ ที่ให้ทั้งภาพ/เสียง เหมาะสมกับการดูหนังและฟังเพลง ส่วนเครื่องเล่นมัลทิมีเดีย รีซีเวอร์ จะรวมทั้งภาพ/เสียง ช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์สื่อมีเดียต่างๆ เช่น SD CARD PORT, USB PORT, AUX INPUT สำหรับเชื่อมต่อกับ MP3, IPOD, IPHONE เพื่อตอบสนองความบันเทิงให้กับสมาชิกที่ร่วมเดินทางไปด้วยกันหลายคน 2. เพาเวอร์แอมพ์ทำหน้าที่ขยายสัญญาณจากแหล่งกำเนิดดังกล่าว และ 3. ลำโพงมีหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณเหล่านี้ให้เป็นคลื่นเสียงให้ได้ยิน สำหรับการเลือกซีดี รีซีเวอร์ หรือที่ได้ยินติดปากว่า ฟรอนท์ หรือเฮดยูนิท ถือว่ามีความสำคัญในระดับ ต้นๆ เพราะเป็นอุปกรณ์แยกชิ้นในระบบเสียงที่กำหนดคุณภาพเสียงว่า ดีมาก-น้อยแค่ไหน ส่วนวิธีเลือกนั้นควรเปรียบเทียบยี่ห้อสัก 2-3 ยี่ห้อ เพื่อใช้พิจารณาว่าตัวไหนถูกใจ ถูกหู และตอบสนองความต้องการของคุณ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะวิทยุแต่ละยี่ห้อมีบุคลิกเสียงแตกต่างกัน ในบางยี่ห้อ ฟังแล้วให้ความรู้สึกเพลิดเพลินไปเรื่อยๆ ประเภทแนว CLASSIC, LIGHT MUSIC หรือบางยี่ห้อให้เสียงที่ฟังสนุกสนานประเภท ROCK, POP เป็นต้น   ดูฟังค์ชันสำคัญ ในฟรอนท์ ซีดี รีซีเวอร์ และมัลทิมีเดีย รีซีเวอร์ ที่มีคุณภาพ จะมีฟังค์ชันการทำงานต่างๆ มาให้อย่างเพียงพอ อย่างเช่น ฟังค์ชัน EQ ช่วยปรับชดเชยคุณภาพเสียงที่เกิดจากห้องโดยสารรถยนต์ ที่มีสภาพแวดล้อมด้านอคูสติคแตกต่างกัน สำหรับรถระดับ 2-3 ล้านบาท ภายในจะใช้วัสดุที่มีคุณภาพ สภาพอคูสติคในรถระดับนี้ มีความเงียบมาก การใช้ EQ ช่วยปรับให้เสียงดนตรีมีความชัดเจนมากขึ้นอาจจะไม่จำเป็น แต่ถ้าเป็นรถระดับราคา 500,000-1,000,000 บาท โครงสร้างวัสดุที่ใช้บุภายในรถยนต์ก็จะมีคุณภาพลดลงไปตามลำดับ และเพื่อให้ห้องโดยสารมีความเงียบมากขึ้น อาจจะต้องบุวัสดุ SOUND DAMPING เพื่อลดเสียงรบกวนต่างๆ หรือใช้ EQ ปรับชดเชยการตอบสนองความถี่ให้กับชุดเครื่องเสียงมีความชัดเจนขึ้น ส่วนฟังค์ชันอื่นๆ ที่ควรมี เช่น AUTO TIME ALIGNMENT สามารถช่วยยืดระยะทางของเสียงที่เกิดจากลำโพง มีตำแหน่งติดตั้งที่แตกต่างกัน ทำให้เสียงจากลำโพงแต่ละตัวเดินทางถึงผู้ฟังพร้อมกัน ฟังค์ชันเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องนำไปพิจารณาเช่นกัน   แรงดันพรีเอาท์ และสายต่อสัญญาณที่สำคัญ ในเฮดยูนิททั่วไปส่วนใหญ่จะมีแรงดันพรีเอาท์ประมาณ 2 โวลท์ แต่ถ้าเป็นเฮดยูนิทระดับกลางถึงสูง จะมีแรงดันพรีเอาท์สูงถึง 4 โวลท์ เมื่อใช้เทคนิคเลเวล แมทชิง (ปรับเพื่อให้ S/N RATIO กับระบบเสียงสูงสุด) ทำให้เสียงดนตรีมีความชัดเจน เสียงรบกวนมาน้อยมาก ทำให้ได้ดนตรี เมื่อฟังแล้วจะรู้สึกได้ถึงความชัดเจน สะอาด ไม่พร่าเพี้ยน ส่วนสายต่อสัญญาณที่สำคัญ นอกจากสายต่อแบบ RCA ที่พบเห็นตามปกติในเฮดยูนิทที่มีคุณภาพ แต่ในเฮดยูนิทบางรุ่น มีสายต่อแบบ HDMI และ MHL เป็นสายต่อโดยตรงกับสมาร์ทโฟน ทำให้ผู้บริโภคได้รับความบันเทิงที่หลากหลายยิ่งขึ้น