กล้องติดหน้ารถ

หลังจากได้เห็นประโยชน์หลากหลายของภาพที่ได้จากกล้องติดรถยนต์ เจ้าของรถจำนวนมากจึงเตรียมซื้อหามาใช้บ้าง แต่จะติดตั้งและเดินสายไฟอย่างไร ไม่ให้เกะกะสายตา DIY...คุณทำเองได้ ฉบับนี้ มีคำตอบ   ประโยชน์ของกล้อง กล้องติดรถยนต์เข้ามามีบทบาทอย่างมากเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เพราะมันสามารถเก็บภาพเหตุการณ์ และพฤติกรรมต่างๆ ของเราและคู่กรณีได้ ซึ่งใช้เป็นหลักฐานสำคัญในการดำเนินคดีทางกฎหมาย สามารถนำภาพไปยืนยันการเคลมประกันภัยรถยนต์ได้ หรือบางครั้งใช้เป็นหลักฐานช่วยเหลือผู้ร่วมทางคันอื่นที่เกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้กล้องติดรถยนต์ยังสามารถเก็บภาพเส้นทางระหว่างการท่องเที่ยวที่ประทับใจ หรือจะใช้ตรวจสอบเส้นทางขณะเดินทางกลับ เพื่อไม่ให้หลงทางได้   ดูที่คุณภาพ ไม่ใช่แค่หน้าตา กล้องติดรถยนต์มีหลายรุ่น หลายราคา ส่วนใหญ่ผลิตจากสาธารณรัฐประชาชนจีน มีตั้งแต่ราคาไม่กี่ร้อยบาท จนถึงหลักหมื่นบาท การเลือกซื้อ ควรตรวจดูคุณภาพของเลนส์ สมัยนี้ต้องมีความคมชัดระดับ FULL HD แล้ว และเลนส์หน้าจอต้องกว้าง เพื่อเก็บรายละเอียดรอบๆ ให้หมด ระบบการใช้งานต้องมีฟังค์ชันครบถ้วน วัสดุต้องแข็งแรง ทนทาน รวมถึงขนาดของจอภาพแสดงผล หลายรุ่นมีเพียงเลนส์เดียว สามารถมองได้ทางเดียว แต่บางรุ่นมี 2 เลนส์ สามารถมองเห็นถึง 2 ทิศทาง คือ การจราจรหน้ารถ และผู้โดยสารด้านใน บางรุ่นยังมีระบบ GPS ค้นหาว่าขณะนี้อยู่ส่วนไหนของโลก อีกทั้งยังสามารถส่งไฟล์ภาพจากกล้องเข้ามือถือ ผ่านทางสัญญาณ WI-FI ที่สะดวกและรวดเร็ว การเลือกซื้อต้องดูให้ดี ระวังของเลียนแบบยี่ห้อดังที่ภายนอกเหมือนกัน แต่ระบบฟังค์ชันภายในและคุณภาพที่ได้ แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง   ใช้งานง่าย ฟังค์ชันครบ การใช้งานง่ายแสนง่าย แค่เสียบปลั๊กไฟเข้ากับที่จุดบุหรี่ แล้วบิดกุญแจรถมาที่ตำแหน่ง ON หรือ สตาร์ทเครื่อง กล้องติดรถยนต์ก็จะเริ่มบันทึกภาพทันที และหยุดบันทึกเมื่อถอดสายชาร์จออก หรือบิดกุญแจมายังตำแหน่ง OFF (ดับเครื่องยนต์) เราสามารถตั้งค่ากล้องให้เหมาะสมกับการใช้งาน อาทิ เลือกเซฟไฟล์ได้ทุกๆ 3, 5, 10, 15 และ 30 นาที ตามคุณสมบัติของกล้อง ทำให้เปิดดูย้อนหลังเป็นช่วงเวลาได้ง่ายขึ้น และหากบันทึกเต็มความจุของเมโมรีแล้ว (บางอันรองรับสูงถึง 32GB) ระบบจะลบไฟล์เก่าสุดออกโดยอัตโนมัติ อีกทั้งสามารถตั้งค่าเปิด/ปิดระบบแสงอินฟราเรดอัตโนมัติ ที่ใช้ในเวลากลางคืนได้ ระบบ G SENSOR ป้องกันไฟล์ภาพเสียขณะเกิดอุบัติเหตุ ระบบบันทึกภาพอัตโนมัติเมื่อมีความเคลื่อนไหว เป็นต้น   วิธีเลือกซื้อกล้องติดรถยนต์ 1. ความละเอียดของภาพ ควรมีความชัดระดับ FULL HD และตัวเลนส์ต้องมีความกว้าง จะได้เก็บรายละเอียดได้หมด 2. ควรมีฟังค์ชัน ระบบป้องกันไฟล์ภาพไม่ให้สูญหายขณะเกิดอุบัติเหตุ 3. มีการรับประกันสินค้า หลังการขาย 4. ขนาดของกล้องติดรถยนต์ไม่ใหญ่เกินไป จนเกะกะสายตา 5. รองรับหน่วยความจำได้ถึง 16 หรือ 32GB และควรมีช่องต่อ HDMI หรือ USB 6. ก่อนซื้อ ควรชมภาพตัวอย่าง หรือดูรีวิวจากอินเตอร์เนทของกล้องติดรถยนต์รุ่นนั้นๆ 7. ราคาต้องเหมาะสมกับคุณภาพที่ได้   อุปกรณ์ 1. กล้องติดรถยนต์ 2. เทปกาวพันสายไฟ 3. ไขควง (หัวแบน) 4. กรรไกร 5. ผ้าสะอาด   ขั้นตอนติดตั้งกล้องติดรถยนต์ 1. ตรวจสอบกล้องติดรถยนต์ และความยาวของสายไฟ ให้พอดีในการติดตั้ง 2. ค่อยๆ ถอดชายบันไดประตูฝั่งคนขับ ระวังเขี้ยวพลาสติคหัก 3. ดึงพลาสติคในส่วนที่ติดกับชายบันไดประตูออก 4. ค่อยๆ ดึงยางขอบประตู จากด้านล่างขึ้นบน 5. ถอดพลาสติคด้านในของเสาเอ โดยการดึงออกมาตรงๆ 6. เช็ดกระจก แล้วนำกล้องติดรถยนต์ประกอบเข้ากับขาดูดกระจก ติดลงบนกระจก 7. เสียบหัวปลั๊ก พันสายรอบกระจกมองหลัง แล้วยัดสายไฟเข้าใต้หลังคา 8. หากยัดไม่เข้า ใช้ไขควงง้างที่บุหลังคาเล็กน้อย ยัดสายไฟจนมาถึงที่เสาเอ 9. นำเทปกาวพันสายไฟ มาพันสายไฟของกล้องติดรถยนต์ เข้ากับสายไฟเดิมที่มีอยู่ในรถ 10. ไล่สายลงมาด้านล่าง ดึงพรมออกเล็กน้อย แล้วสอดสายด้านล่างพรม ให้ออกใกล้ที่จุดบุหรี่ 11. เสียบปลั๊กเข้ากับที่จุดบุหรี่ ทดลองเปิดใช้งาน 12. ใส่ชิ้นส่วนที่ถอดออกกลับคืนให้เรียบร้อย (ตรงข้ามกับตอนใส่) เป็นอันเสร็จ