ตะลึงความงามอ่าวโต๊ะหลี สัมผัสชีวิตดี๊ดีของคนภูเก็ต

มนุษย์เรามีขีดจำกัด ถ้าเหนื่อยล้าจากการทำงาน ลองหาเวลาหยุดพักร่างกาย ด้วยการออกจากกรอบเดิมๆ ไปใช้ชีวิตให้ช้าลง "ฟอร์มูลา" ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้ลืมทุกสิ่งอย่าง ในจังหวัดพังงา และภูเก็ต เพื่อเติมพลังของคุณให้เต็มเปี่ยมอีกครั้ง

ล่องใต้ ไปกับ เอมจี จีเอส

    เป็นครั้งแรก ที่ผมได้มีโอกาสทดสอบสมรรถนะเจ้า เอมจี จีเอส 2.0 เทอร์โบ ขับทางไกลเกินกว่า 800 กม. ต้องบอกว่าดีเกินคาด เอมจี ตอบสนองการเดินทางไกลได้อย่างดี ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว แบบไดเรคท์อินเจคชัน ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 218 แรงม้า ที่ 5,300 รตน. จึงมีกำลังเร่งแซงได้ฉับไว มีเพียงบางจังหวะเท่านั้นที่เกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ 6 จังหวะ อาจตอบสนองช้าอยู่บ้าง   การเดินทางล่องใต้ครั้งนี้ ต้องเจอกับฝนตลอดทาง บางช่วงมีสภาพพื้นผิวที่แย่สุดๆ แต่ช่วงล่างของ เอมจี จีเอส 2.0 เทอร์โบ ก็ทำงานอย่างไว้ใจได้ การเดินทางครั้งนี้จึงเป็นไปอย่างราบรื่น    

อ่าวโต๊ะหลี งามจนลืมหายใจ

    หลังจากฝ่าสายฝนตลอดเส้นทาง เราก็มาถึง "จุดชมวิวอ่าวโต๊ะหลี" ที่ อ. ตะกั่วทุ่ง จ. พังงา ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุด 1 ใน UNSEEN THAILAND เราจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้น ท่ามกลางภูเขาหินปูนน้อยใหญ่ของอ่าวพังงาแบบ 180 องศา และในยามค่ำคืนก็ยังเป็นจุดชมดวงดาวที่งดงาม สามารถมองเห็นดาวได้ใกล้ชิดเต็มท้องฟ้าอีกด้วย   จากฝนที่ตกตลอดทั้งคืน ผมภาวนาขอให้เช้านี้ท้องฟ้าเปิดจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นอย่างที่ตั้งใจไว้ทีเถิด เหมือนท้องฟ้าจะรับรู้ ทันทีที่ฟ้าเปิด แสงอาทิตย์สีส้มค่อยๆ สาดส่องกระทบผ่านตัวผม ภาพต่างๆ ที่คิดไว้ก็เผยขึ้นต่อหน้า ช่างเป็นภาพที่งดงามจนผมแทบลืมหายใจเลยทีเดียว     จากการสอบถามผู้ใหญ่นพดล (ผู้ดูแลจุดชมวิวแห่งนี้) ก็รู้ถึงที่มาของชื่อจุดชมวิวนี้ "โต๊ะ" มาจากคำเรียกผู้สูงอายุ เช่น ตา หรือ ปู่ ของคนที่นี่ ส่วน "หลี" คือ ชื่อของ "โต๊ะ" ที่มาบุกเบิกสร้างที่พักอาศัยแถบนี้ตั้งแต่แรกเริ่ม ดังนั้น "อ่าวโต๊ะหลี" จึงตั้งขึ้นเพื่อระลึกถึงผู้มีพระคุณของชุมชนแห่งนี้   ได้อิ่มเอมใจเสร็จสรรพ ขากลับผมเลยขับรถแวะเข้าไปที่หมู่บ้านหินล่ม ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ มีที่พัก ร้านอาหาร และยังมีเรือคอยบริการนักท่องเที่ยว สามารถนั่งเรือจากจุดนี้ไปชมสถานที่เที่ยวชื่อดังอย่าง เขาพิงกัน เขาตะปู ฯลฯ ได้เลย    

มุ่งสู่ภูเก็ต ชมพิพิธภัณฑ์เก่าแก่

    เมื่อเห็นพระอาทิตย์ขึ้นสมใจ ผมเดินทางต่อไปจังหวัดภูเก็ต ตั้งใจไปชมตึกเก่าสไตล์ชิโน-ยูโรเพียน ที่พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว สถานที่แห่งนี้อดีตเคยเป็นโรงเรียนจีน ภายในมีนิทรรศการเกี่ยวกับชาวจีนโพ้นทะเล ที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่จังหวัดภูเก็ต มีทั้งหมด 14 ห้อง มีวีดีทัศน์บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของชาวจีนฮกเกี้ยน กวางตุ้ง และไหหลำ การก่อร่างสร้างตัว การทำเหมืองแร่ ทำสวนยางพารา การสร้างบ้าน และการแต่งกาย รวมถึงตัวอย่างของผู้ประสบความสำเร็จ ตลอดไปจนถึงประวัติโรงเรียน และครูคนสำคัญ     จากนั้น เราเดินทางไปที่ "บ้านชินประชา" ซึ่งเป็นบ้านไม้เก่าสไตล์ชิโน โปรตุกีส อายุกว่า 100 ปี ซึ่งสร้างขึ้นเป็นแห่งแรกของภูเก็ต ภายในบ้านได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นตัวอาคาร หรือข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ผมสะดุดตาที่พื้นบ้านปูกระเบี้องจากอิตาลี และเครื่องเรือนเป็นไม้ฝังมุก ที่นำเข้าจากเมืองจีน รวมถึงภาพถ่าย และภาพวาดเก่าๆ ส่วนใครอยากแต่งกายย้อนยุค ที่นี่เขามีชุด "บาบ๋าย่าหยา" ให้ลองใส่ถ่ายรูปกันด้วยนะ    

แวะสักการะ วัดคู่บ้านคู่เมือง

    มาภูเก็ตทั้งที เราชาวพุทธก็ควรไปสักการะพระคู่บ้านคู่เมืองกันเสียหน่อย วัดแรกที่ห้ามพลาด คือ "วัดพระทอง" หรือ วัดพระผุด ที่เรียกแบบนั้นเนื่องจากมีพระพุทธรูปที่ผุดขึ้นมาจากดินประมาณครึ่งองค์ ที่เราเห็น คือ พระพุทธรูปที่สร้างทับองค์จริงไว้ องค์เดิมไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างในสมัยใด บ้างก็เล่าว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำอายุราว 2,000 ปี ที่ถูกน้ำซัดมาจากเรือที่ล่มในอ่าวพังงา แต่ปัจจุบันเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองถลาง     วัดต่อมา คือ "วัดฉลอง" หรือ วัดไชยธาราราม เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองชาวภูเก็ต ที่ประดิษฐานรูปปั้น "หลวงพ่อแช่ม" พระภิกษุที่ชาวภูเก็ตเลื่อมใสศรัทธา จากคุณงามความดีที่เป็นที่พึ่งของชาวบ้านในการต่อสู่กับพวกอั้งยี่ (ชาวจีนที่ก่อกบฏ) ภายหลังรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี ปัจจุบันมีการปรับภูมิทัศน์ภายในวัดให้สวยงาม มีพระมหาธาตุเจดีย์ตั้งตระหง่านให้กราบไหว้    

แวะชมวิวเขารัง ดื่มด่ำความงาม 3 อ่าว

    ในภูเก็ตมีสถานที่หนึ่งที่สามารถชมวิวได้ทั้งเกาะแบบ 380 องศา นั่นคือ "จุดชมวิวเขารัง" ตั้งอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะ สามารถขับรถขึ้นมาได้ แต่ต้องเดินต่อขึ้นหอคอยอีกนิดหนึ่ง   เมื่อขึ้นไปถึง คุณจะหายเหนื่อย เพราะข้างบนนั้นมีทัศนียภาพที่สวยงามยากที่จะได้เห็น ทั้งอาคารเก่า สะพานหิน อ่าวฉลอง หาดราไวย์ หรือแม้แต่ท่าเรือยอชท์ที่สวยงาม เสียดายที่เราไม่ได้ชมในช่วงเวลาพลบค่ำ เขาว่าจะมีแสงระยิบระยับจากด้านฝั่งเมืองดูสวยงามไปอีกแบบ   ภูเก็ตยั่งมีอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยงามไม่แพ้กัน อาจไม่เห็นทั้งเมือง แต่สามารถเห็นอ่าวได้ถึง 3 อ่าว จากจุดเดียวกัน ได้แก่ อ่าวกะตะน้อย อ่าวกะตะใหญ่ และอ่าวกะรน    

สัมผัสชายหาดภูเก็ตที่เลื่องชื่อ

    ชื่อเสียงด้านความสวยงามของชายหาดภูเก็ต ไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้นที่รับรู้ ชาวต่างชาติต่างเลือกที่นี่เป็นจุดหมายปลายทาง หาดทรายที่ขาวละเอียด เหมาะมากกับกิจกรรมทางน้ำ ในทุกๆ ปี จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ต่างสลับสับเปลี่ยนกันมาพักผ่อนชมชายหาดอย่างไม่ขาดสาย ทั้งอาบแดด ดำน้ำ หรือแค่เดินเล่นชิลล์ๆ ก็ฟินทั้งนั้น   ถ้าเรามีรถ สามารถขับรถเที่ยวชมได้เลยทุกหาด ไล่ตั้งแต่หาดทางใต้สุดอย่างหาดกะรน หาดกะตะน้อย หาดกะตะใหญ่ หาดป่าตอง ตลอดไปจนถึงหาดกมลา ซึ่งแต่ละหาดก็มีความสวยงามต่างกันไป แล้วคุณจะเข้าใจภูเก็ตมากขึ้น    

แหลมพรหมเทพ ความงามที่โหยหา

    ได้ยินจากวิทยุตั้งแต่เด็ก ว่าพระอาทิตย์จะตกสถานที่สุดท้ายในประเทศไทยที่แหลมพรหมเทพ ผมจึงตั้งใจมาชมให้เห็นกับตา แต่ไม่นึกมาก่อนว่าจะมีคนมาชมร่วมกับผมเยอะขนาดนี้ โดยเฉพาะชาวจีนมากันเพียบ คงเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิทในตารางเที่ยวที่ต้องมา ผมยืนมองความสวยงามอยู่พักใหญ่ ก็เหลือบไปเห็นประภาคารโดดเด่นตั้งอยู่ที่ปลายสุดของแหลมที่ชื่อว่า "แหลมเจ้า" เป็นแหลมยื่นไปในทะเล และโดดเด่นด้วยต้นตาลที่เกาะกลุ่มกันอย่างสวยงาม ทันใดนั้นแสงสีส้มจากดวงอาทิตย์ก็ค่อยๆ ลับหายไป ทิ้งไว้เพียงความทรงจำที่ผมจะไม่มีวันลืม    

ขอขอบคุณ

    บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อ เอมจี จีเอส ในการเดินทาง