เยอรมนี-เปิดตัวแล้วเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่เพิ่งผ่านพ้นไป แต่ต้องรออีกหลายเดือนจึงจะเริ่มการจำหน่าย คือ รถเก๋งขนาดใหญ่ติดป้ายชื่อ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-6 จีที (BMW 6-SERIES GT) ซึ่งในระยะแรกจะมีรถให้เลือก 5 โมเดล ทั้งรถขับล้อหลัง รถขับทุกล้อ ทั้งรถเบนซิน รถดีเซลยอดผู้ผลิตรถหรูของเมืองเบียร์เติมเต็มให้แก่รถ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-6 (BMW 6-SERIES) ซึ่งขณะนี้มีตัวถังให้เลือก 3 แบบ คือ ตัวถัง 2 ประตูคูเป (COUPE) ตัวถัง 2 ประตูเปิดประทุน (CABRIOLET) และตัวถัง 4 ประตูคูเป (GRAN COUPE) โดยการเปิดเผยโฉมหน้าพร้อมรายละเอียดของตัวถังแบบที่ 4 คือ ตัวถัง 5 ประตูแฮทช์แบค 5 ที่นั่ง ซึ่งกำลังจะออกจำหน่ายพร้อมกับป้ายชื่อ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-6 กรัน ตูริสโม (BMW 6-SERIES GRAN TURISMO) ที่เรียกกันอย่างประหยัดถ้อยคำประหยัดเวลาว่า บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-6 จีที (BMW 6-SERIES GT) เป็นรถที่ค่ายนี้บรรจุเข้าสู่สายการผลิตแทนที่รถรุ่นเดิม ที่จำหน่ายระหว่างปี 2009-2016 โดยติดป้ายชื่อ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-5 จีที (BMW 5-SERIES GT) ตัวถังยาว 5.091 ม. กว้าง 1.902 ม. และสูง 1.538 ม. ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.25-0.26 วางตัวอยู่บนพแลทฟอร์ม CLAR (CLUSTER ARCHITECTURE PLATFORM) ที่ค่ายนี้ออกแบบ/พัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุด และส่งผลให้รถรุ่นใหม่นี้มีน้ำหนักตัวลดลงถึง 150 กก. เมื่อเทียบกันกับรถรุ่นก่อน ในเมืองเบียร์ซึ่งเริ่มการจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน 2017 จะมีทั้งรถขับล้อหลัง รถขับทุกล้อ และจะมีรถให้เลือกรวม 5 โมเดล คือ BMW 630I GRAN TURISMO (เบนซิน 4 สูบเรียง 1,998 ซีซี 190 กิโลวัตต์/258 แรงม้า) BMW 640I GRAN TURISMO/BMW 640I XDRIVE GRAN TURISMO (เบนซิน 6 สูบเรียง 2,998 ซีซี 250 กิโลวัตต์/340 แรงม้า) BMW 630D GRAN TURISMO/BMW 630D XDRIVE GRAN TURISMO (ดีเซล 6 สูบเรียง 2,993 ซีซี 195 กิโลวัตต์/265 แรงม้า) ทุกโมเดลติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ STEPTRONIC