เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS
เหินฟ้าสู่อนาคต
หลังจากได้เห็นในภาพยนตร์ และนิยายวิทยาศาสตร์นานหลายปี ในที่สุดรถบินได้ก็กำลังจะเป็นจริงรู้หรือไม่ ? เอดดี ริคเคน แบคเคอร์ เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับรถบินได้เป็นครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม ปี 1924 เมื่อการ์ตูน THE JETSONS ออกฉายทางโทรทัศน์ครั้งแรกในปี 1962 นักบินอวกาศชื่อ จอห์น กเลน เป็นชาวอเมริกันคนแรกที่ได้บินโคจรรอบโลก ในยุคแรกๆ ของการเดินทางนอกโลก ในขณะที่ทุกคนครุ่นคิดเกี่ยวกับจรวด ดาวเทียม และพลังงานนิวเคลียร์ ทำให้มโนไปว่าเราจะสามารถเดินทางบนรถยนต์บินได้อย่าง จอร์จ เจทสัน ในอีกไม่กี่ปี โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นรถบินได้บ่อยขึ้นเรื่อยๆ จากยานของ LUKE SKY WALKER ในเรื่อง STAR WARS จนถึงเรื่อง TOTAL RACALL ที่นำกลับมาสร้างใหม่ เราก็ยิ่งรอคอยว่าเมื่อไหร่พวกเขาจะเปลี่ยนจากนิยายวิทยาศาสตร์ให้กลายเป็นเรื่องจริงเสียที อย่างไรก็ตามการรอคอยอาจจะสิ้นสุดลงในเร็วๆ นี้ ปีนี้เราได้เห็นความคึกคักของรถยนต์บินได้ อย่างน้อยก็มีการเปิดตัว รถต้นแบบถึง 2 คัน คือ LITIUM JET ที่ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกที่มิวนิค และ KITTY HAWK FLYER ที่ออกแสดงต่อสาธารณชน โดยทดลองบินที่อ่าวซานฟรานซิสโก ในขณะที่แอพพลิเคชัน RIDE HAILING ของ UBER เผยว่ามีแผนจะเปิดตัวเครือข่ายแทกซีเครื่องบินในดูไบ และเทกซัส โดยกำลังจะซื้อฝูงรถบินได้กว่า 500 คัน จากบริษัทสัญชาติสโลวาเกีย AEROMOBIL ลาร์รี เพจ ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิลไม่ได้ลงทุนกับ KITTY HAWK FLYER ในปีนี้อย่างเดียว แต่ยังสมทบทุนกับบริษัทรถยนต์บินได้อย่าง ZEE .AERO ตั้งแต่ปี 2010 ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มบริษัท สตาร์ทอัพ (STARTUP) ทั้งในอุตสาหกรรมยานยนต์ และเครื่องบินรวมถึง โตโยตา และ AIR BUS มีความตั้งใจอย่างจริงจังที่จะพัฒนารถยนต์บินได้ ทำไมต้องเป็นตอนนี้ ไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราได้เห็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญอย่างมากในการช่วยให้รถยนต์บินได้สำเร็จ โดยขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้ามากกว่าพลังเจท เนื่องจากเทคโนโลยีของแบทเตอรีได้รับการพัฒนาตามความต้องการของรถยนต์ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า ในขณะที่บางคอนเซพท์ของยานพาหนะ ยังให้มนุษย์เป็นผู้ควบคุมอยู่ด้านหลังพวงมาลัย แต่ที่ก้าวหน้าไปกว่านั้น ซึ่งรู้จักกันอย่างแพร่หลายว่า MACHINE LEARNING เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่สำคัญ ทำให้หลายๆ บริษัทสร้างรถยนต์บินได้ ขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้สำเร็จ นั่นหมายถึง ผู้ใช้ไม่ต้องมีบัตรขับเครื่องบิน ซึ่งมีราคาแพง และใช้เวลานานกว่าจะได้มา ทำให้ทุกๆ คนสามารถใช้งานรถยนต์บินได้ ความนิยมในการใช้ ดโรน ซึ่งมีขนาดเล็ก และเบามากเท่าไร ก็จะช่วยลดต้นทุนของส่วนประกอบบางชนิด ความจริงแล้วอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกัน คือ EHANG บริษัทผลิต ดโรน ของจีน กำลังพัฒนาแทกซีบินได้ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง ที่ดูเหมือนจะมีขนาดใหญ่กว่า ควาดรอคอพเตอร์ อย่างไรก็ตามการวาดวิมานในอากาศเกี่ยวกับรถยนต์บินได้ อย่างในอดีตทำให้ต้องผิดหวัง สิ่งที่สำคัญ คือ ตอนนี้เรายังอยู่บนพื้นดิน ผู้ผลิตได้ออกมากล่าวว่า เราจะไม่สามารถบินบนท้องฟ้าได้อย่างยอดเยี่ยมจนกว่าจะถึงปี 2020 หรือ 2025 แต่เทคโนโลยีขณะนี้ก็สนับสนุนให้ไปถึงจุดนั้นได้อย่างสวยงาม มันต้องใช้เวลาหลายปีในการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม นำออกมาทดลองบิน รวมถึงทำให้ทุกขั้นตอนเรียบง่ายในการผลิตเป็นจำนวนมาก ทั้งที่มีการกระตุ้นด้านของนวัตกรรมที่ทำให้รถบินได้นั้นเป็นจริง เอลอน มัคส์ ซีอีโอ ของ เทสลา มีข้อสงสัยเกี่ยวกับรถยนต์บินได้ “จริงๆ แล้ว ผมชอบอะไรที่บินได้” เขากล่าวกับสื่อ BLOOMBERG ซึ่งสอดคล้องกับบริษัทสร้างจรวด SPACE X “แต่มันยากที่จินตนาการว่ารถบินได้จะเป็นวิธีการแก้ปัญหา” เขากังวลเกี่ยวกับอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ กลางอากาศ “หากบางคนไม่บำรุงรักษารถบินได้ของเขา HUBCAP อาจจะตกลงมา และฆ่าคุณได้” เอลอน มัคส์ กล่าวอีกว่า “ความกังวลของคุณจะไม่ลดลงเลยหากมีบางอย่างที่มีน้ำหนักมากบินอยู่เหนือหัวของคุณ” ไม่ยากเลยที่จะมองข้ามข้อกังขาของ มัคส์ เพราะในความเป็นจริง เขากำลังพัฒนายานพาหนะที่แตกต่าง ซึ่งผู้คนจะเดินทางด้วยความเร็วสุดขีดในอุโมงค์ HYPERLOOP มากกว่าบินบนท้องฟ้า อย่างไรก็ตาม วิศวกรด้านเครื่องบิน และผู้เชี่ยวชาญด้านการบินก็มีความกังวลที่คล้ายๆ กัน เกี่ยวกับอันตรายของการจราจรบนอากาศ และท่าอากาศยาน ลานขึ้น/ลงของเฮลิคอพเตอร์ในแต่ละพื้นที่ และการควบคุมจราจรทางอากาศ จะตกอยู่ในความกดดันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อีกด้านของการผลิตกองทัพแทกซีเครื่องบิน UBER สัญญาที่จะสร้าง VERTIPORT (จุดบริการ) ซึ่งรู้จักอย่างแพร่หลาย ในอีกแง่หนึ่งก็มีเจตนาที่จะสร้างความมั่นใจว่าสามารถเข้าถึงได้ทุกสถานที่ เช่นเดียวกับผู้ใช้งานรถแทกซีบนพื้นดินแบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะให้ความสะดวกสบายกับความต้องการของโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่อีกด้วย UBER กล่าวว่า ได้ค้นหาพื้นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังต้องดูว่ามันจะไปได้ดีหรือไม่ในด้านกฎข้อบังคับ ยังไม่รวมด้านผู้อยู่อาศัย บริษัทจีน EHANG วางแผนว่าจะสร้างตึกควบคุมการจราจรทางอากาศเป็นของตัวเอง เมื่อเริ่มให้บริการแทกซี ดโรน หนึ่งในศูนย์สั่งการได้ก่อตั้งและปฏิบัติงานแล้วที่เมืองกวางโจว (GUANGZHOU) เมื่อ EHANG ทดสอบการบิน ศูนย์สั่งการจะติดตามการเดินทางผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ แบบเรียลไทม์ ตรวจสอบข้อมูลความเร็ว ระดับความสูง กำลังของใบพัดแต่ละตัว และพิกัดตำแหน่ง เจ้าหน้าที่สามารถดูกล้องที่ติดไว้ที่ ดโรน และสื่อสารกับผู้โดยสารด้านในได้ นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นในเรื่องการใช้ยานพาหนะบนอากาศมีความปลอดภัย ฝ่ายรัฐบาลของแต่ละประเทศอาจจะกำหนดกฎ และมาตรการควบคุมของตนเอง หากกฎสำหรับการเดินทางบนอากาศก่อตั้งขึ้น รถยนต์บินได้จะไม่เพียงเปลี่ยนวิถีการเดินทาง แต่รวมถึงเรื่องการใช้ชีวิตของเราด้วย เช่น หากคุณสามารถบินทางไกลด้วยเวลาครึ่งหนึ่งของการขับรถ เมืองก็จะเล็กลง หากเราคุ้นเคยกับการใช้เครื่องบินเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง มีเหตุผลอื่นไหมที่เราจะใช้ถนนเหมือนเดิม ในขณะที่รถยนต์บินได้ พัฒนาไปเรื่อยๆ อนาคตจะเป็นเช่นไรหากความฝันนี้ของเราเป็นจริง
วิวัฒนาการของรถยนต์บินได้
ปี 1917
คล้ายกับ โมเดล ที ที่มาพร้อมกับ 3 ใบพัด ชนิดถอดออกได้ CURTISS AUTOPLANE บินได้ไม่นาน ก็ต้องลงจอดอย่างไม่มีกำหนด เมื่อสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมสงครามโลก ครั้งที่ 1ปี 1921
TAMPIER ROADABLE คือ รถยนต์กึ่งเครื่องบิน ปีกสามารถถอดออกได้ และวิ่งบนถนนด้วยความเร็วสูงสุด 24 กม./ชม. ผู้คิดค้น คือ เรเน ทัมปิแอร์ บินไปยัง AIR SALON ที่ปารีส และขับไปยัง ชอง-เอลิเซปี 1946
AIRPHIBIAN คือ รถบินได้คันแรกที่ได้รับการรับรองว่าบินได้อย่างปลอดภัยโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกา และนักบินที่มีชื่อเสียงอย่าง ชาร์ลส์ ลินด์เบิร์ก ก็ให้การรับรองอย่างเป็นทางการเช่นกัน แต่ด้วยมูลค่าในการพัฒนาสูง จึงทำให้ผู้คิดค้นต้องทิ้งมันไปปี 1957
ทหารอเมริกันพัฒนา PIASECKI VZ-8 คือ จีพไฮบริดเฮลิคอพเตอร์ที่สามารถบินได้ต่ำพอเพื่อหลบหลีกเรดาร์ มันมี 2 ใบพัดขนาดใหญ่แนวนอนที่สามารถถอดออกได้ บินด้วยความเร็วสูงสุด 136 กม./ชม.ปี 1965
THE WAGNER AEROCAR ห้องนักบินรูปฟองอากาศ และครีบตอนท้ายทำให้ดูเหมือนเฮลิคอพเตอร์มากขึ้น พร้อมกับล้อ ซึ่งเหมือนกับออกมาจากการ์ตูนเรื่อง THE JETSONS แต่ก็ถูกยกเลิกการพัฒนาไปในปี 1971ปี 1980
ดูแล้วเหมือนออกมาจากนิยายในปี 1970 ในเวอร์ชัน BATTLESTAR GALACTICA (ในทางที่ดี) บริษัทโบอิง สร้างเครื่องต้นแบบของ SKY COMMUTER ทั้งหมด 3 ลำ แต่พโรเจคท์นี้ในที่สุดก็ยุติลงปี 1990
THE MOLLLER M400 รถบินได้เกิดขึ้นในยุค 90 รูปทรงทันสมัย ออกแบบสไตล์จรวด แต่น่าเศร้าที่พโรเจคท์ MOLLER ถูกยกเลิก และถูกประมูลขายผ่านเวบไซท์ EBAYปี 2017
เป็นปีที่ประสบความสำเร็จในการขึ้นบิน และลงจอดเป็นครั้งแรกของโลกกับ LITIUM JET ใช้พลังงานไฟฟ้า เครื่องต้นแบบที่ทำการทดสอบสามารถโดยสารได้ 2 ที่นั่ง แต่ของจริงจะโดยสารได้ถึง 5 ที่นั่ง “AEROMOBIL มียอดสั่งจองกว่า 500 คัน” เป็นเวลาหลายปีที่รถยนต์บินได้เป็นเพียงภาพสเกทช์ และอีกไม่นานมันจะเป็นจริงได้1. จัดเก็บอย่างเรียบง่าย
ปีกของ TF-X สามารถพับเก็บได้อย่างกะทัดรัดในแนวตั้ง สามารถเข้าจอดในโรงรถขนาดทั่วไปได้2. ความเร็ว
ยานพาหนะลำนี้สามารถทำความเร็วสูงสุด 322 กม./ชม. เดินทางได้ 805 กม./1 เที่ยวบิน3. ชาร์จไฟได้
เครื่องยนต์ของรถยนต์บินได้คันนี้ สามารถชาร์จไฟผ่านมอเตอร์ไฟฟ้า หรือจะเสียบปลั๊กชาร์จที่สถานีชาร์จไฟสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าก็ได้4. ขับง่าย
ยานพาหนะจะได้รับการรับรองแบบ LIGHT SPORT AIRCRAFT ในสหรัฐอเมริกา ดังนั้นหากจะบินก็แค่มีใบอนุญาตสำหรับขับเครื่องบินที่ต้องเข้าร่วมการอบรมเพียง 20 ชม. เท่านั้น5. การขึ้นบินแนวตั้ง
ใบพัดของ TF-X จะเปลี่ยนจากจุดที่เป็นแนวตั้งเป็นแนวนอน และขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ 300 แรงม้า6. พลังงานไฮบริด
เครื่องยนต์ 4 สูบในขณะที่บิน จะสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวนมาก เมื่ออยู่บนพื้นดินมันจะทำหน้าที่เป็นเครื่องปั่นไฟ และขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ล้อคู่หน้า7. ระบบร่มชูชีพแนวดิ่ง
ในสถานการณ์ฉุกเฉิน AEROBIL จะกางร่มชูชีพสำหรับเครื่องบินทั้งลำ เพื่อชะลอให้ลงสู่พื้นดินอย่างช้าๆ8. บินด้วยความเร็ว
เป็นเครื่องบินน้ำหนักเบา ทำความเร็วสูงสุดที่ 360 กม./ชม. และวิ่งได้ระยะทาง 750 กม.9. ใบอนุญาตขับขี่
ในขณะที่คุณต้องมีทั้งใบอนุญาตขับเครื่องบิน และรถยนต์เพื่อใช้งาน AEROBIL เป้าหมายในอนาคต คือ ขับเคลื่อนอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ10. ห้องนักบิน
แผงควบคุมในห้องโดยสารจะถูกรายล้อมไปด้วยหน้าจอดิจิทอล เพื่อแสดงข้อมูลที่จำเป็น สำหรับโหมดขับบนถนน และโหมดบิน โครงสร้างของ AEROMOBIL ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีน้ำหนักเบา เที่ยวบินแฟนซี ? เผชิญความท้าทายกับรถบินได้กฎข้อบังคับ
ถึงแม้จะข้ามผ่านทุกอุปสรรคด้านเทคนิคต่างๆ มาแล้ว แต่ข้อบังคับเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยจนถึงการควบคุมจราจรทางอากาศ อีกหนึ่งอุปสรรค ที่คาดว่าต้องใช้เวลาหลายปี เพื่อให้ผู้ออกกฎหมายยอมรับ รถบินได้อาจจะต้องเจอมาตรการที่เพิ่มเติมเข้ามาอีกการใช้เชื้อเพลิง
ต้องใช้เชื้อเพลิงอย่างมากเพื่อขึ้นบิน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง และเป็นมลพิษ ความล้ำสมัยของเทคโนโลยีแบทเตอรีอาจจะเป็นทางเลือกที่ดี แต่เครื่องบินยังต้องใช้เชื้อเพลิงมากในแต่ละกิโลเมตร ส่วนสำคัญที่ต้องพิจารณา คือ เรื่องของน้ำหนักเครื่องบินที่บริษัทต่างๆ ต้องเอาชนะให้ได้มลภาวะทางเสียง
คนที่ได้ยินเสียงเวลาเฮลิคอพเตอร์ขึ้น/ลงจอด หรือดโรนบินจะรู้ว่า ยานพาหนะ VTOL ซึ่งจะทำให้เกิดแรงดันลม ทำให้ผู้คนที่อยู่บนพื้นได้ยินเสียง ดังนั้นการบินไปในพื้นที่สาธารณะอาจไม่เป็นที่น่าพอใจนักคุณสมบัติของนักบิน
แม้ว่าการควบคุมอาจจะทำให้ง่ายขึ้นได้ อาจได้รับการช่วยเหลือจาก AI (ระบบปัญญาประดิษฐ์) แต่การบินยานพาหนะนั้น ต้องการความสามารถที่แตกต่างจากการขับรถ ทางเลือกที่ดี คือ จ้างนักบินที่มีราคา 500 ปอนด์ (660 เหรียญสหรัฐฯ)/1 ชั่วโมงโครงสร้างพื้นฐาน
ในหลายๆ เมืองจะมีลานจอดเฮลิคอพเตอร์ แต่ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อรองรับการจราจรที่มากมาย UBERวางแผนว่าจะสร้างลานจอดในแต่ละเมืองเพื่อจะไม่เป็นภาระ แต่จะต้องพบกับกฎข้อบังคับและอาจจะถูกต่อต้านจากผู้อยู่อาศัยในพื้นที่นั้น วิศวกรหลายคนได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการจราจรบนท้องฟ้า รู้หรือไม่ ? พวงมาลัยของ AEROBIL มีปุ่มกดสีแดงที่เขียนว่า LAUNCH ซึ่งคุณสามารถกดเพื่อเปลี่ยนจากรถยนต์ให้เป็นเครื่องบินได้การปลอมตัวของรถบินได้
AEROBIL คือ ทรานส์ฟอร์เมอร์ในชีวิตจริง คุณอาจจะหลงคิดว่าเป็นซูเพอร์คาร์ ที่ผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่ดูเงางาม อยู่ระหว่างการทดลอง แต่เพียงแค่ 3 นาที รถสปอรท์ 2 ที่นั่งคันนี้ ก็พร้อมจะขึ้นบิน กับปีกที่คลี่ออกมาจากหลังคา และใบพัดด้านหลังที่โผล่ขึ้นมา หลังจากนั้นคุณต้องมีพื้นที่บิน หรือถนนทางยาว ในการบินขึ้นไปบนความสูง 10,000 ฟุต โชคไม่ดีนัก AEROBIL จะผลิตออกมาเพียง 500 คัน คันละ 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (908,400 ปอนด์)TF-X ใกล้พร้อมขึ้นบินแล้ว
TERRAFUGIA ถูกพัฒนาให้เป็นรถบินได้ตั้งแต่ปี 2006 หน้าตาเหมือนรถ เอสยูวี 4 ที่นั่ง พร้อมใบพัดพับเก็บได้ แต่ที่น่าตื่นเต้นกว่า คือ ใบพัดสามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้ ดังนั้น TF-X สามารถขึ้นบิน และลงจอดแบบเฮลิคอพเตอร์ (VTOL) หมายความว่า มันไม่จำเป็นต้องใช้รันเวย์ในการขึ้นบิน ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นการบินในแนวนอน TERRAFUGIA ถูกล้อว่าเป็นเทคโนโลยีรถบินปลอมๆ อยู่หลายปี แต่ตอนนี้บริษัทแม่ของ โวลโว อย่าง GEELY อาจทำให้ TF-X บินได้จริงๆ สักทีบินไปบนท้องฟ้า
ออพชันของยานพาหนะบนอากาศนี้ มีแนวโน้มว่าจะราคาถูก และประหยัดเวลาในการเดินทางเครื่องบินในชีวิตจริง
ในขณะที่ปัจจุบันมีบริษัท STARTUP มากมายมุ่งหมายที่จะสร้างรถบินได้ AIR BUS ซึ่งสร้างเครื่องบินมาเกือบ 50 ปี ได้สร้าง AIRBUS A3 VAHANA ออกแบบโดยมีใบพัดรอบๆ และมีเทคโนโลยีสำหรับลงจอด ตัวต้นแบบอยู่ระหว่างการสร้าง ทดลองช่วงสิ้นปี 2017LITIUM JET ที่ไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงของเจท
ในเดือนเมษายน 2017 LITIUM JET ได้ขึ้นบินเป็นครั้งแรกที่เมืองมิวนิค ในประเทศเยอรมนี เป็นเครื่องบินที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ที่สามารถบินขึ้นบนฟ้าได้ อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาการขึ้นบินเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น โดยไม่มีใครนั่งในห้องโดยสาร 2 ที่นั่ง นักบินควบคุมมันจากพื้นดิน สนับสนุนโดย EUROPEAN SPACE AGENCY LITIUM JET มั่นใจว่าจะสามารถพัฒนาพลังงานแบทเตอรีได้ เพื่อตอบรับความต้องการเมื่อนำไปใช้เป็นแทกซีในปี 2025ดโรน ขับเคลื่อนด้วยตัวเองที่คุณสามารถนั่งได้
EHANG 184 ความสูง 1.4 เมตร บินได้ระยะทางไกลสุด 16 กม. ที่ความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม. EHANG 184 บินด้วยตัวเอง สิ่งที่คุณต้องทำ คือ ใส่สถานที่ปลายทางลงไปในแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนของคุณที่เชื่อมต่อกับ EHANG 184 ผ่านบิวล์-อิน WI-FI และออกเดินทาง การทดลองบินในช่วงหน้าร้อนถูกเปลี่ยนกำหนดการ และคิดว่าจะได้บินในดูไบเร็วๆ นี้AIRBUS A3 VAHANA
1. สมาร์ทเซนเซอร์
กล้องหลายตัว เรดาร์ และไลดาร์เซนเซอร์ จะช่วยในการหลบหลีกสิ่งมีชีวิต เครื่องบิน และโดรนต่างๆ2. เร็วกว่าการขับรถ
A3 VAHANA สามารถทำความเร็วสูงสุด 225 กม./ชม. และเดินทางในระยะทางไม่เกิน 80 กม.3. แบทเตอรีถอดเปลี่ยนได้
สามารถถอดแบทเตอรีที่หมดแล้ว และใส่แบทเตอรีที่ชาร์จเต็มเข้าไปใหม่ได้4. เครื่องบินส่งของ
นอกจากจะขนส่งผู้คนแล้ว AIRBUS เผยว่า VAHANA ที่ขับเคลื่อนด้วยตนเองสามารถส่งของได้ด้วย5. เปลี่ยนรูปแบบใบพัด
การเคลื่อนที่ของใบพัด สามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้อย่างไร้ที่ติ ระหว่างการขึ้นบนในแนวตั้ง กับการจอดสำหรับเที่ยวบินถัดไปLITIUM JET
6. สร้างแรงขับเคลื่อน
LITIUM JET มีมอเตอร์ไฟฟ้ามีใบพัด 36 ตัว ในช่องของปีก ที่จะหมุนเพื่อขึ้นบินในแนวตั้ง7. ลดเสียง
เฮลิคอพเตอร์มีใบพัดขนาดใหญ่ซึ่งเสียงดัง LITIUM JET มีมอเตอร์แบบมิดชิด ดังนั้นเสียงมันจึงไม่รบกวน8. บินพร้อมกันหลายคน
ในขณะที่รถบินได้ส่วนใหญ่ ให้นั่งเพียงคนเดียว แต่ตัวต้นแบบของ LITIUM JET ออกแบบมาให้นั่งได้ 2 ที่นั่ง และมีแผนว่าจะทำให้ได้ 5 ที่นั่ง9. เดินทางรวดเร็ว
LITIUM JET สามารถเดินทางด้วยความเร็วสูงสุด 300 กม./ชม. ในระยะทาง 300 กม.EANG 184
10. ห้องนักบินที่ว่างเปล่า
EHANG 184 มีเพียงที่นั่ง 1ตัว WI-FI ฟรี ที่วางสมาร์ทโฟน และแก้วกาแฟ11. บินคนเดียว
EHANG 184 รับน้ำหนักได้ 120 กก. มี 1 ที่นั่ง และเดินทางได้ทีละคน12. ความเร็วสูงสุด
ประกอบด้วยขาใบพัด 4 ขา และ 8 มอเตอร์ใบพัด สามารถบินได้ความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม.13. ศูนย์ควบคุม
EHANG มีศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศส่วนตัว เพื่อตรวจสอบเที่ยวบินทั้งหมด 184 เที่ยว รู้หรือไม่ ? ในขณะที่การมีรถยนต์บินได้เป็นของส่วนตัว ราคาค่อนข้างสูง AIRBUS จึงคาดการณ์ราคาแทกซีเครื่องบินไว้ที่ 1.50-2.50 เหรียญสหรัฐฯ/1 ไมล์สูงขึ้นไปกับ UBER
บริการรถยนต์โดยสาร อย่าง UBER ประกาศแล้วว่าจะให้บริการบนท้องฟ้าด้วย บริษัทจะทดลองให้บริการ อูเบอร์ แอร์ แทกซี ในดูไบ และดัลลัส ในปี 2020 ซึ่งผู้โดยสารสามารถใช้งานได้เหมือนเดิมโดยผ่านแอพพลิเคชัน การบินของ UBER เป็นอีกระดับหนึ่ง ของการดำเนินธุรกิจนี้ นั่นคือเหตุผลว่า ทำไมเราจะต้องทำ PUSH A BUTTON GET A FLIGHT ให้เป็นจริง เจฟฟ์ โฮลเดน หัวหน้าฝ่ายผลิตของ UBER กล่าวในงานแถลงข่าวว่า ถึงแม้เที่ยวบินเหล่านี้ในเบื้องต้นจะเกี่ยวข้องกับเครื่องบิน แต่ในที่สุดมันจะราคาถูกลงเร็วขึ้น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าการขับรถ UBER แบบดั้งเดิม เนื่องจากใช้เครื่องบินอัตโนมัติพลังงานไฟฟ้า UBER จ้าง มาร์ค มอร์ เป็นวิศวกรเครื่องบินของ นาซา เขามีชื่อเสียงในการทำงานด้านการขึ้น/ลงในแนวดิ่ง และร่วมงานกับผู้ผลิตเกี่ยวกับการออกแบบ หรือสร้างเครื่องบิน เพื่อจะพัฒนายานพาหนะนี้ เมื่อมันสามารถใช้งานได้ UBER จะสร้าง VERTIPORT ลานจอดพร้อมกับที่ชาร์จไฟ ในบริเวณที่ UBERสามารถเข้าถึงได้ง่ายKITTY HAWK ที่ดึงดูดความสนใจ
เหมือนรถบินนิดหน่อย แต่เหมือนเจทสกีบินมากกว่า KITTY HAWK FLYER คือ เครื่องบินสำหรับ 1 คน น้ำหนักเบา ใช้ใบพัดระบบไฟฟ้า 8 ตัว สนับสนุนโดยผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทกูเกิล แลร์รี เพจ KITTY HAWK FLYER สามารถเดินทางด้วยความเร็วสูงสุด 40 กม./ชม. สูงจากพื้น 4.5 ม. เหมือนเจทสกี มีลักษณะเหมือนของเล่นมากกว่ายานพาหนะ ออกแบบเพื่อใช้งานเหนือน้ำเท่านั้น อย่างไรก็ตาม KITTY HAWK ยืนยันว่าผู้ขับไม่ต้องมีใบอนุญาตขับเครื่องบิน และคุณสามารถควบคุมมันได้อย่างคล่องแคล่วในระยะเวลาเพียง 1 ชม. ราคายังไม่ยืนยัน แต่ KITTY HAWK วางแผนว่าจะเริ่มขายในสิ้นปีนี้สุดยอด 5 นิยายเกี่ยวกับรถบินได้
CHITTY CHITTY BANG BANG, CHITTY CHITTY BANG BANG (1968)
ออกแบบโดยนักลงทุนที่แปลกประหลาดอย่าง CARACTACUS POTTS ขนาดใหญ่พอสำหรับครอบครัว CHITTY CHITTY BANG BANG สามารถบินได้ตามความยาวของทวีปยุโรป และล่องลอยได้เพื่อหลบหลีกโจรสลัดบนน้ำSCARAMANGA’s AMC MATADOR, THE MAN WITH THE GOLDEN GUN (1974)
ตัวร้าย SCARAMANGA ใช้ รถคูเป ที่เปลี่ยนเป็นเครื่องบินในการลักพาตัว 007 คุยว่า มันสามารถบินได้ 322 กม. ด้านทิศตะวันออกของกรุงเทพฯPOLICE SPINNER, BLADE RUNNER (1982)
การตรวจตึกสูงระฟ้าสุดล้ำในอนาคต ของ LA รถตำรวจในนิยายวิทยาศาสตร์แนวสืบสวนของ RIDLEY SCOTT บินขึ้นแนวดิ่ง และบินบนท้องฟ้าเหมือน HARRIER JUMP JETDE LOREAN DMC-12, BACK TO THE FUTURE PART II (1989)
หากการเปลี่ยนเป็นเครื่องย้อนเวลาในหนังเรื่องแรก “เจาะเวลาหาอดีต” ยังไม่เพียงพอ ดอค บราวด์ ปรับแต่งรถยนต์ของเขา โดยใช้เทคโนโลยีจากปี 2015 ซึ่งทั้งรถยนต์ และสเกทบอร์ดบินได้SKYJET, VALERIAN AND THE CITY OF A THOUSAND PLANETS (2017)
SKYJET ในมหากาพย์แนวนิยายวิทยาศาสตร์ของ ลุค เบสสัน สามารถสลับระหว่างการเดินทางในเมือง หรืออวกาศได้ และถูกออกแบบด้วยบริษัทในชีวิตจริงอย่าง เลกซัส UBER AIR จะสร้างเครือข่ายเครื่องบินที่บินระยะทางไกลสุด 40 กม. UBER ได้ออกหาพื้นที่สำหรับตั้ง VERTIPORT ที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายไว้แล้ว KITTY HAWK ไม่มีแผนการที่จะส่งออกเครื่องบินนอกสหรัฐอเมริกาในตอนนี้ UBER จะทดลองบินแทกซีที่ ดูไบ และดัลลัสในปี 2020ไม่ว่าเราจะไปไหน เราไม่ต้องการถนนอีกต่อไป
ในอนาคตรถยนต์บินได้สามารถเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานของเมือง และตามด้วยวิถีชีวิตของเรา
1. อยู่บนพื้น
การมีตัวเลือกว่าจะขับ หรือจะบิน จะทำให้ผู้คนยังคงขับรถในระยะทางสั้นๆ เช่น การเดินทางไปซูเพอร์มาร์เกทใกล้ๆ2. เดินทางระยะไกล
ทางเลือกในการเดินทาง แต่ใช้เวลาน้อยลง หมายถึง คนทำงานมากมายสามารถเดินทางจากเมืองใกล้ หรือพื้นที่รอบนอกเมือง3. ข้อมูลการบิน
ปัญญาประดิษฐ์บนเครื่องจะทำให้รถยนต์บินหลายๆ คันสามารถเดินทางใกล้กันเหมือนฝูงปลา เป็นการใช้น่านฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ4. นำถนนกลับคืนมา
เมื่อรถยนต์บินได้กลายเป็นมาตรฐาน ถนน และที่จอดรถจะหายไปเพื่อจะได้มีทางเดินสาธารณะมากขึ้น KITTY HAWK วางแผนจะเริ่มขาย FLYER ภายในสิ้นปีนี้ รู้หรือไม่ ? แขนหุ่นยนต์ที่ผลิตโดย เทสลา สามารถเปลี่ยนแบทเตอรีเพื่อนำไปชาร์จได้ภายใน 90 วินาที และสามารถใช้กับรถบินได้5. จัดที่จอดบนดาดฟ้าสำหรับแทกซีเครื่องบิน
VERTIPORT และลานจอดเครื่องบินจะกระจายอยู่บนดาดฟ้าตามเมืองต่างๆ ดังนั้นแทกซีเครื่องบินจะสามารถไปชาร์จแบทเตอรียังสถานที่ใกล้เคียงได้6. เดินทางอย่างไร้มลพิษ
กังหันลมที่ระดับความสูงสามารถให้พลังงานมากขึ้น และแผงพลังงานแสงอาทิตย์ก็จะให้พลังงานรถบินได้ที่สถานีชาร์จไฟ7. ส่งทางอากาศ
รถบินได้ด้วยตนเอง จะทำให้เข้าถึง โดรน ส่งของได้มากขึ้น จนกว่าจะถึงวันที่ของทุกอย่างจะส่งทางอากาศทั้งหมด8. AIRBUS ที่แท้จริง
เนื่องจากแบทเตอรีมีพลังงานมากขึ้น ยานพาหนะบินได้ระบบไฟฟ้าจึงสามารถบรรจุผู้โดยสารได้มากขึ้น และจะเป็นการปฏิวัติการขนส่งสาธารณะ9. ควบคุมการจราจรทางอากาศโดยไม่ใช้คน
ศูนย์ควบคุมอัจฉริยะจะประสานงานกับระบบการจราจรทางอากาศของแต่ละเมือง โดยสื่อสารกับยานพาหนะโดยตรง ดีกว่าการควบคุมด้วยมนุษย์ผ่านการพูดคุยกับนักบิน10. แทกซี ดโรน สาธารณะ
การเป็นเจ้าของยานพาหนะส่วนตัวจะกลายเป็นอดีต เมื่อฝูง ดโรน ขับเคลื่อนโดยอัตโนมัติสามารถขนส่งผู้โดยสารได้ทุกหนทุกแห่งABOUT THE AUTHOR
H
HOW IT WORK MAGAZINE
ภาพโดย : HOW IT WORK MAGAZINEนิตยสาร 399 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2561
คอลัมน์ Online : เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS