เจาะสนามแข่ง
DAKAR RALLY 2018 การขับเคี่ยวกว่า 9,000 กม. บนดินแดน 3 ประเทศ
DAKAR RALLY 2018 การแข่งขันยานยนต์ประเภทครอสส์คันทรี, มอเตอร์ไซค์ มอเตอร์ไซค์ 4 ล้อ และรถทรัค ที่สุดยอดหฤโหดระดับโลก ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-20 มกราคม 2561 รวมทั้งสิ้น 14 สเตจ บนระยะทางกว่า 9,000 กม. ขับเคี่ยวกันในทวีปอเมริกาใต้ บนดินแดน 3 ประเทศ โดยเริ่มสตาร์ทจากประเทศเปรู ผ่านโบลิเวีย และกลับมาเข้าเส้นชัยที่อาร์เจนตินา ซึ่งนับเป็นปีที่ 10 แล้วที่รายการนี้ได้ย้ายจากฝั่งยุโรปและแอฟริกาใต้ มาแข่งขันกันที่อเมริกาใต้ มีผู้เข้าชมระหว่างเส้นทางการแข่งขันถึง 4.5 ล้านคน และผู้ชมสามารถดูรายการถ่ายทอดสดจากสถานีโทรทัศน์ถึง 70 ช่อง ตลอดระยะเวลา 1,200 ชม.
สเตจที่ 1
การแข่งขันในสเตจแรก ออกสตาร์ทกันที่กรุงลิมา ประเทศเปรู ไปสิ้นสุดการแข่งขันที่เมืองปิสโก รวมระยะทางทั้งสิ้น 272 กม. แต่มีช่วงทดสอบพิเศษเพียงแค่ 31 กม. นาสเซอร์ ซาเลห์ อัล-อัตติยาห์ (NASSER SALEH AL-ATTIYAH) นักขับฝีมือดีชาวกาตาร์ ซึ่งมี แมทธิว บูเมล (MATTHIEU BAUMEL) เป็นผู้นำทาง สังกัด โตโยตา กาซู เรซิง เอสเอ เป็นผู้นำวันแรกในประเภทรถยนต์แบบสบายๆ เป็นการอุ่นเครื่องก่อนเกมการแข่งขันจะดุเดือดขึ้นเรื่อยๆสเตจที่ 2
ใช้เส้นทางแข่งขันภายในเมืองปิสโกเป็นระยะทางทั้งสิ้น 278 กม. มีช่วงทดสอบพิเศษ 267 กม. ซีริล เดสเปรส (CYRIL DESPRES) สังกัดทีม เปอโฌต์ โททาล ขยับขึ้นเป็นผู้นำในประเภทรถยนต์ ด้วยเวลารวม 3 ชั่วโมง 21 นาที 18 วินาที เร็วกว่าเพื่อนร่วมสังกัดอย่าง ชเตฟาเน เพเทร์ฮันเซล (STEPHANE PETERHANSEL) แชมพ์เก่าชาวฝรั่งเศสทีมเดียวกัน ที่รั้งอันดับ 2 เพียงแค่ 27 วินาที อันดับ 3 เซบัสเตียง โลบ์ (SEBASTIEN LOEB) ทีม เปอโฌต์ โททาล ตามผู้นำอยู่ 3 นาที 8 วินาที ส่วน อัล-อัตติยาห์ ผู้นำในวันแรกหล่นลงไปอยู่อันดับ 5 ตามหลังผู้นำ 12 นาที 15 วินาทีสเตจที่ 3
ยังคงใช้เส้นทางแข่งขันบนดินแดนประเทศเปรูเป็นระยะทางทั้งสิ้น 504 กม. มีช่วงทดสอบพิเศษ 296 กม. ออกสตาร์ทที่เมืองปิสโก ไปสิ้นสุดการแข่งขันที่ซัน ฮวน เดอ มาร์โกนา เส้นทางในสเตจนี้เป็นหุบเขาและเนินทราย สร้างความยากลำบากและเพิ่มความเข้มข้นให้กับการแข่งขัน สรุปผลการแข่งขันหลังผ่านวันที่ 3 ของศึก DAKAR RALLY 2018 เป็นทางด้าน เพเทร์ฮันเซล แชมพ์เก่าจาก ทีม เปอโฌต์ โททาล ที่ขึ้นเป็นผู้นำในประเภทรถยนต์ ด้วยเวลารวม 6 ชั่วโมง 34 นาที 58 วินาที ชนะเพื่อนร่วมทีมอย่าง เดสเปรส อันดับ 2 ทำเวลาตามหลังผู้นำอยู่ 03 นาที 11 วินาที ส่วน อัล-อัตติยาห์ คว้าอันดับ 3 ไปครอง ตามหลังผู้นำอยู่ 7 นาทีสเตจที่ 4
วันนี้แข่งขันกันที่ซัน ฮวน เดอ มาร์โกนา ประเทศเปรู มีช่วงทดสอบพิเศษถึง 330 กม. สภาพเส้นทางค่อนข้างโหด ระยะทางกว่า 100 กม. เต็มไปด้วยเนินดูนขนาดต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการทำความเร็วของนักแข่งในทุกประเภท อดีตแชมพ์ WORLD RALLY CHAMPIONSHIP 9 สมัย ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำครั้งแรกในสเตจนี้ ตามมาด้วย การ์โลส เซนซ์ (CARLOS SAINZ) และเพเทร์ฮันเซล ในสเตจ 4 นี้ทีม เปอโฌต์ สามารถคว้าอันดับ 1-3 ไปครองเป็นผลสำเร็จ โดยเวลารวมทั้งหมดตำแหน่งผู้นำของการแข่งขันยังตกเป็นของ เพเทร์ฮันเซล ทีม เปอโฌต์ โททาล ส่วน โลบ์ ตามมาเป็นอันดับ 2 และเซนซ์ คว้าอันดับ 3 ส่วน อัล-อัตติยาห์ อดีตแชมพ์ DAKAR RALLY แม้ว่าจะมีทักษะในการขับรถบนเนินดูนอย่างยอดเยี่ยม แต่เขาเสียเวลาไปร่วม 1 ชม. จากการหลงเส้นทาง ทำให้เวลารวมตกไปอยู่ที่ 4สเตจที่ 5
การชิงชัยในสเตจที่ 5 เป็นสเตจสุดท้ายที่ใช้เส้นทางแข่งขันในประเทศเปรู เป็นระยะทางทั้งสิ้น 934 กม. โดยเป็นช่วงทดสอบพิเศษ 268 กม. ออกสตาร์ทจากซัน ฮวน เดอ มาร์โกนา ไปสิ้นสุดการแข่งขันที่อาเรกิปา ซึ่งเป็นช่วงที่ยาวมากในการชิงชัยปีนี้ โดยสเตจนี้ รถยนต์ และรถทรัค จะแยกวิ่งคนละเส้นทางกัน สำหรับผลการแข่งขันในสเตจนี้ เพเทร์ฮันเซล เป็นผู้นำ คว้าแชมพ์ประเภทรถยนต์ไปครองด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 51 นาที 19 วินาที เร็วกว่า เบิร์นฮาร์ด เตน บริงเก (BERNHARD TEN BRIKE) จาก โตโยตา กาซู เรซิง เอสเอ ที่ทำเวลาตามผู้นำเข้ามาเป็นอันดับ 2 ถึง 4 นาที 52 วินาที ขณะที่ โลบ์ พยายามเร่งเครื่องเพื่อทำตำแหน่งที่ดีขึ้น แต่พลาดท่าไปติดอยู่บนเนินดูนที่ทะเลทรายทานากะ ทำให้เสียเวลาไปร่วม 2 ชม. รวมไปถึงโค-ดไรเวอร์ ของเขาได้รับบาดเจ็บจากการที่รถแข่งกระแทกเข้ากับเนินดูน จนไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันในช่วงทดสอบพิเศษที่ 2 ได้ ผลการแข่งขันดังกล่าวส่งผลให้เวลารวม เพเทร์ฮันเซล ยังคงรั้งตำแหน่งผู้นำในประเภทรถยนต์ด้วยเวลารวม 13 ชั่วโมง 27 นาที ทิ้งห่างเพื่อนร่วมสังกัดอย่าง เซนซ์ ที่รั้งอันดับ 2 ถึง 31 นาที ส่วน เตน บริงเก มาเป็นที่ 3สเตจที่ 6
ยอดรถมอเตอร์ไซค์ 110 คัน มอเตอร์ไซค์ 4 ล้อ จำนวน 41 คัน รถยนต์ 71 คัน และรถทรัค 30 คัน สามารถวิ่งข้ามจากประเทศเปรู มาสู่เมืองลาเปซ ประเทศโบลิเวีย ที่มีความสูง 4,722 ม. จากระดับน้ำทะเลเป็นผลสำเร็จ สเตจที่ 6 จะแข่งขันกันทั้งหมด 447 กม. มีช่วงทดสอบพิเศษ 313 กม. เป็นทแรคที่ใช้ความเร็วกันค่อนข้างสูง เซนซ์ ควบ เปอโฌต์ คู่ใจขึ้นมานำ เพเทร์ฮันเซล เป็นผลสำเร็จและทำสถิติผู้ที่สามารถเป็นแชมพ์ถึง 30 สเตจ นำหน้า แจคคี อิค (JACKY ICKX) แต่ยังเป็นรอง อารี วาทาเนน (ARI VATANEN) ที่เคยชนะถึง 50 สเตจ และเพเทร์ฮันเซล ชนะไป 39 สเตจ ในขณะที่เวลารวม เพเทร์ฮันเซล ยังคงเป็นจ่าฝูง นำหน้า เซนซ์ อยู่ 27 นาที เตน บริงเก ยังรักษาตำแหน่งตามเข้ามาเป็นที่ 3 ในวันรุ่งขึ้น ทั้งนักแข่งและทีมงานจะได้หยุดพักเบรคเป็นเวลา 1 วัน ที่เมืองลาเปซ ก่อนจะเข้าแข่งขันกันต่อในสเตจที่ 7สเตจที่ 7
หลังจากที่ได้พักผ่อนกันอย่างเต็มที่ก็เริ่มลุยกันต่อในเมืองลาเปซ เมืองหลวงที่มีความงดงามของโบลิเวีย มีช่วงทดสอบพิเศษยาวๆ ให้พิสูจน์ฝีมือกันถึง 425 กม. รวมทั้งมีสายฝนกระหน่ำลงมาในบางช่วง ทำให้ต้องใช้ความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของนักขับค่อนข้างสูงทีเดียว เซนซ์ สามารถขึ้นมาเป็นผู้นำประเภทรถยนต์ได้สำเร็จ และยังเป็นจ่าฝูงของเวลาโอเวอร์ออลล์ด้วย ส่วน เพเทร์ฮันเซล ผู้นำในช่วงแรกต้องเสียหลักจากการหลบรถแข่งมอเตอร์ไซค์ 4 ล้อ ทำให้ด้านหลังรถไม่ว่าจะเป็น ชอคอับ, ระบบถ่ายทอดกำลัง, ระบบรองรับ ล้วนได้รับความเสียหาย ต้องใช้เวลากับการซ่อมรถ เปอโฌต์ 3008 ไปถึง 1.45 ชม. จำเป็นต้องมอบตำแหน่งที่ 2 และ 3 ให้แก่ ฌีนีล เดอ วิลลิเอร์ส์ (GINIEL DE VILLIERS) และอัล-อัตติยาห์ สังกัดทีม โตโยตา ไปอย่างน่าเสียดาย แต่เวลารวม เพเทร์ฮันเซล ยังมาเป็นที่ 3 โดน อัล-อัตติยาห์ ทิ้งอยู่เพียง 9 นาทีสเตจที่ 8
มีช่วงทดสอบพิเศษที่ยาวถึง 500 กม. ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในช่วงที่ยาวและโหดที่สุดในรายการ DAKAR RALLY แถมมีฝนตกลงมาบางช่วงในแถบโบลิเวียอีกด้วย โดยที่รถแข่งทั้งหมดจะไม่ได้รับการช่วยเหลือจากทีมเซอร์วิศมาตั้งแต่เมื่อคืน เพเทร์ฮันเซล หลังจากเกิดอุบัติเหตุไปเมื่อวาน ต้องซ่อมรถขนานใหญ่ แต่ยังคงสามารถขึ้นมาเป็นผู้นำในสเตจนี้ ตามมาด้วย เดสเปรส เพื่อนร่วมทีม ส่วน อัล-อัตติยาห์ ทีม โตโยตา ตามมาเป็นอันดับ 3 ส่วน เซนซ์ อันดับตกไปอยู่ที่ 5 ส่วนเวลารวมของการแข่งขันทั้งหมด เซนซ์ ยังทำเวลาได้เร็วที่สุด ตามมาด้วย อัล-อัตติยาห์ และเพเทร์ฮันเซล โดย อัล-อัตติยาห์ กล่าวว่าถึงแม้จะมีอุปสรรคมากมายในระหว่างการแข่งขัน แต่เขายังมีความสุขที่จะสู้ต่อไปในอีก 6 วันที่เหลือ ถ้า เซนซ์ พลาดเมื่อไหร่ นั่นหมายความว่า เขาจะสามารถแซงขึ้นมานำได้อย่างแน่นอนสเตจที่ 9
ผู้จัดการแข่งขันได้ยกเลิกการแข่งในสเตจนี้ เนื่องจากสภาพอากาศระหว่างเมืองตูปิซา และซัลตา เลวร้ายมากทีเดียว อาจจะเกิดความไม่ปลอดภัยต่อนักแข่ง จะข้ามไปแข่งขันกันต่อในสเตจที่ 10 จากซัลตา ไปบีเลนสเตจที่ 10
การแข่งขัน DAKAR RALLY ได้เดินทางมาถึงสเตจแรกในอาร์เจนตินาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางอุณหภูมิที่ร้อนจัดถึง 40 องศาเซลเซียส ซึ่งค่อนข้างจะเป็นอันตรายต่อยางที่ต้องวิ่งอยู่บนพื้นทรายอันร้อนระอุ สเตจนี้ เพเทร์ฮันเซล เป็นผู้นำ ตามมาด้วย เดอ วิลลิเอร์ส์ และเซนซ์ โดยเวลารวม เซนซ์ ยังเป็นผู้นำประเภทรถยนต์ แม้ว่า เพเทร์ฮันเซล จะค่อนข้างมาแรงและคอยกดดัน เดอ วิลลิเอร์ส์ จากทีม โตโยตา ส่วน อัล-อัตติยาห์ มีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ มีผลให้ เพเทร์ฮันเซล ทำเวลารวมขึ้นมาเป็นอันดับ 2 เป็นที่น่าสังเกตว่าในปีนี้ ทีม เปอโฌต์ ส่งรถเข้าแข่งถึง 4 คัน หมายมั่นที่จะเป็นแชมพ์ DAKAR RALLY ในปีนี้ให้จงได้ เท่าที่ดูในช่วง 45 กม. สุดท้ายก่อนจบสเตจนี้ ความเร็วของรถแข่ง โตโยตา ของ อัล-อัตติยาห์ ทำไว้ที่ 56 กม./ชม. ในขณะที่ เพเทร์ฮันเซล ทีม เปอโฌต์ กดไปเต็มๆ ถึง 100 กม./ชม. เลยทีเดียวสเตจที่ 11
ถือว่าเป็นปีที่ 3 แล้วที่มีการปรับจุดสตาร์ทในบางสเตจให้กลับมาสตาร์ท ณ จุดเดิม โดยใช้เวลาของรถแต่ละคันของทุกประเภทที่ทำได้ในสเตจก่อนหน้านี้ มาเป็นตำแหน่งสตาร์ทในสเตจต่อไป สเตจนี้จะแข่งขันกันถึง 467 กม. เป็นช่วงทดสอบพิเศษ 280 กม. เตน บริงเก ทีม โตโยตา ขึ้นมานำเป็นจ่าฝูง ตามมาด้วย เดสเปรส และเซนซ์ ทีม เปอโฌต์ ทั้งคู่ แต่เวลารวมในตารางทั้งหมด เซนซ์ ยังคงเป็นผู้นำ โดยทำเวลารวมไว้ 36 ชม. 16 นาที ทิ้งห่าง เพเทร์ฮันเซล ตามมาเป็นที่ 2 อยู่ถึง 1 ชม. เต็ม ส่วน อัล-อัตติยาห์ ยังคงตามผู้นำอยู่ 1.24 ชม.สเตจที่ 12
มาถึงดินแดนซัน ฮวน ที่เข้าใกล้เส้นชัยมาทุกขณะ นักแข่งทุกประเภทจะเจอกับความท้าทายอีกครั้งในช่วงทดสอบพิเศษที่ยาวถึง 523 กม. ผิวทางวิ่งจะสลับระหว่างพื้นทราย, ทแรคที่สามารถใช้ความเร็วสูง, โขดหินที่รถแข่งต้องกระโจนข้ามไป อัล-อัตติยาห์ สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำในสเตจนี้ได้ ตามมาด้วย เพเทร์ฮันเซล และเดอ วิลลิเอร์ส์ จากทีม โตโยตา ส่วนเวลารวมประเภทรถยนต์ เซนซ์ ยังคงเป็นผู้นำ ทำเวลาได้ 42 ชม. 24 นาที อันดับ 2 เพเทร์ฮันเซล ตามผู้นำอยู่ 44 นาที อัล-อัตติยาห์ ยังคงอยู่อันดับ 3 ตาม เซนซ์ อยู่ 1 ชม. 5 นาที อัล-อัตติยาห์ ทำเวลาได้ดีทีเดียวในช่วง 3 สเตจที่ผ่านมา คงต้องลุ้นว่าจะไปถึงตำแหน่งผู้นำหรือไม่ และนักแข่งจ่าฝูงทั้งหลายห้ามพลาดอย่างเด็ดขาดสเตจที่ 13
แข่งขันกันถึง 929 กม. สเตจนี้ อัล-อัตติยาห์ เป็นผู้นำอีกเช่นเคย ตามมาด้วย ลูซีโอ อัลวาเรซ (LUCIO ALVAREZ) และเดอ วิลลิเอร์ส์ จากทีม โตโยตา ส่วนเวลารวม เซนซ์ ยังนำอยู่ด้วยเวลา 47.46 ชม. อันดับ 2 และ 3 ล้วนมาจากทีม โตโยตา ได้แก่ อัล-อัตติยาห์ ตามผู้นำอยู่ 46 นาที และเดอ วิลลิเอร์ส์ ส่วนอันดับ 4 เพเทร์ฮันเซล ตามท้าย โตโยตา ซึ่งขึ้นมาอยู่ที่ 3 เพียงแค่ 8 นาที เหลือเพียงอีกแค่ 1 สเตจ ก็จะรู้ผลจากการขับเคี่ยวกันมาอย่างดุเดือดและยาวนานในครั้งนี้จะจบลงเช่นใด อาจมีการพลิกโผได้ทุกขณะสเตจที่ 14
ขับเคี่ยวกันบนดินแดนโคร์โดบา เป็นการชิงชัยในสเตจสุดท้ายเป็นระยะทาง 286 กม. ก่อนสิ้นสุดการแข่งขันในปีนี้ ผู้ชนะการแข่งขัน ได้แก่ เซนซ์ ทำเวลารวมทั้งสิ้น 49 ชม. 16 นาที ในขณะที่ อัล-อัตติยาห์ และเดอ วิลลิเอร์ส์ 2 นักขับทีม โตโยตา จับมือกันเข้าเส้นชัยในอันดับ 2 และ 3 ทำเวลาตามผู้นำอยู่ 43 นาที และ 1 ชม. 16 นาที ตามลำดับ เพเทร์ฮันเซล ผู้นำในช่วงแรก จบการแข่งขันอันดับตกไปอยู่ที่ 4 เป็นความสำเร็จของทีม เปอโฌต์ บนทางฝุ่นอีกครั้งหลังจากทุ่มเทให้กับรายการนี้มากทีเดียว โตโยตา ก็ทำผลงานได้ดีในปีนี้ คงต้องรอเวลาอีก 1 ปีเต็มในแมทช์ล้างตากันอีกรอบอย่างแน่นอนผลการแข่งขัน DAKAR RALLY 2018
ประเภทรถยนต์
[table] อันดับ,ผู้ขับ/ผู้นำทาง,ทีม 1,การ์โลส เซนซ์/ลูคัส ครูซ,เปอโฌต์ โททาล 2,นาสเซอร์ ซาเลห์ อัล-อัตติยาห์/แมทธิว บูเมล,โตโยตา กาซู เรซิง เอสเอ 3,ฌีนีล เดอ วิลลิเอร์ส์/เดิร์ค ฟอน ซิทเซวิทซ์,โตโยตา กาซู เรซิง เอสเอ [/table]ABOUT THE AUTHOR
โ
โฟร์ไฮ
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2561
คอลัมน์ Online : เจาะสนามแข่ง