อนาคตของการบรรทุกสินค้าอย่างปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนกว่า 90 % มาจากคนขับ ซึ่งมักเกิดจากความเหนื่อยล้า เสียสมาธิ บางครั้งก็เกิดจากการดื่มสุรา หรือกินยา ดังนั้น เมื่อเกิดอุบัติเหตุมีสาเหตุมาจากความผิดพลาดของมนุษย์ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะถูกแทนที่มนุษย์ด้วยเครื่องจักร โดยบางบริษัท รวมถึง กูเกิล และเทสลา กำลังเริ่มสร้างยานพาหนะอัตโนมัติ ?ซึ่งบริษัทขนส่งสินค้าเข้าร่วมโครงการนี้ด้วย นับเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าอย่างเต็มรูปแบบ ในอังกฤษมีกำหนดจะลงทุน 8 ล้านปอนด์ (10.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ใช้รถบรรทุกแบบไร้คนขับซึ่งใช้เทคโนโลยี PLATOONING เป็นระบบที่มีรถบรรทุกหลายคันขับเป็นขบวน ควบคุมโดยคนขับรถคันแรก ส่วนรถบรรทุกคันต่อๆ มาจะเป็นแบบไร้คนขับ ซึ่งสามารถเลี้ยว เบรค และเร่งความเร็วได้โดยอัตโนมัติ หากรถนำขบวนเบรค รถบรรทุกที่ตามมาก็จะเบรคตามกันทันที ระบบเดียวกันนี้มีใช้จริงในสิงคโปร์ โดย สแกเนีย และ โตโยตา ได้ทดสอบกับรถโดยสาร และแทกซีของตนเองบนถนน อีก 3 ปีข้างหน้าบริษัทต่างๆ จะเริ่มสร้างขบวนรถไร้คนขับ 3 คันที่จะวิ่งตามกัน ไปยังคลังเก็บสินค้า อย่างไรก็ตาม การนำรถบรรทุกไร้คนขับออกมาใช้ถนนร่วมกันกับรถยนต์คันอื่นๆ ในสภาพการจราจรแออัด ซึ่งเป็นความท้าทายอย่างมาก แม้ว่าจะดูเหมือนเป็นการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมการขนส่ง แต่ก็เป็นเพียงการใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วเท่านั้น คาดว่ารถบรรทุกจะทำงานในลักษณะเดียวกับรถยนต์ไร้คนขับ โดยติดตั้งเรดาร์เซนเซอร์รอบคัน เพื่อเฝ้าดูยานพาหนะที่อยู่ใกล้ๆ และติดตั้งกล้องวีดีโอเพื่อตรวจจับสัญญาณไฟจราจร อ่านป้ายสัญลักษณ์บนถนน และระบุตำแหน่งของสิ่งกีดขวาง, คนเดินถนน และนักปั่นจักรยาน ระบบตรวจจับขอบถนน และเลนจราจรสามารถทำได้ด้วยเซนเซอร์ ไลดาร์ ซึ่งใช้การสะท้อนแสงจากถนน เซนเซอร์อุลทราโซนิคในล้อสามารถตรวจจับตำแหน่งของขอบถนน และยานพาหนะอื่นๆ เมื่อจอดรถ ขณะที่คอมพิวเตอร์ส่วนกลางจะวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดจากเซนเซอร์ต่างๆ เพื่อควบคุมพวงมาลัย ความเร็ว การเร่ง และที่สำคัญที่สุด คือ การเบรค เทคโนโลยีเหล่านี้บางส่วนมีอยู่แล้วในท้องถนน เช่น ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติในรถบรรทุกอังกฤษ โดยสามารถตรวจจับสิ่งกีดขวาง และเบรคอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ การสร้างรถบรรทุกอัตโนมัติเป็นเพียงการรวบรวมความก้าวหน้าของเทคโนโลยี และทำมันให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น และปลอดภัยขึ้น แม้ความกังวลด้านความปลอดภัยจะถูกหยิบยกขึ้นมาถกเถียงกัน (เช่น จะตั้งพโรแกรมรถไร้คนขับอย่างไรให้สามารถตอบสนองการจราจรที่วุ่นวายบนท้องถนน และสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากรถทั่วไปพยายามวิ่งแทรกในขบวนรถบรรทุกอัตโนมัติ) แต่ก็คาดการณ์ว่าระบบอัตโนมัติจะตอบสนองได้ในเวลาที่รวดเร็ว และมีการคำนวณเชิงพื้นที่ที่แม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ถนนของเราปลอดภัยมากขึ้น