13-17 มิถุนายนนี้ เตรียมพบกับ “งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 42” (THE GLOSSY HERITAGE AWARD 2018) จัดโดย สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ณ ALIVE PARK HALL และ SPELL ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คบนท้องถนนของไทย เนื่องจากเราเป็นประเทศใหญ่ มีวัฒนธรรมอันเก่าแก่ และรุ่งเรืองเป็นลำดับต้นๆ ของภูมิภาค คนไทยจึงมีรถยนต์ใช้งานมาตั้งแต่ปีแรกๆ ของศตวรรษที่ 20 และด้วยความสงบร่มเย็นภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร มิได้มีสงครามใหญ่ภายใน ที่จะสร้างความเสียหายให้กับยานยนต์เก่าแก่เหล่านั้น เราจึงเป็นชาติที่มี “รถโบราณไทย” เป็นสมบัติของชาติในสภาพสมบูรณ์ไม่แพ้ใคร ชาวไทยจำนวนไม่น้อยได้สัมผัสคุ้นเคยกับรถยนต์ตลอดเวลากว่า 100 ปีของประวัติศาสตร์ของยานยนต์ กิจกรรมของสมาคมรถโบราณฯ จึงอยู่ในความสนใจของบุคคลทั่วไป โดยเฉพาะงานประกวดรถโบราณประจำปี ซึ่งจัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2516 จนถึงปัจจุบัน มีความยิ่งใหญ่ ระดับที่นานาประเทศต้องติดตาม
ดั้งเดิมกินความกว้างมาก มาจากคำว่า VINTAGE CARS ที่หมายถึงรถอายุมาก รูปทรงแตกต่างจากรถในโลกปัจจุบันอย่างมาก ในการประกวดของสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย รถโบราณ ได้แก่ รถประเภทที่ 1.1 รถรุ่นบรรพบุรุษ จนถึงรุ่น 1.5 รถหลังสงครามครอบคลุมรถที่ผลิตก่อนปี 1904 จนถึงปี 1960 เหมาะแก่ผู้สะสมที่มุ่งลงทุน เก็บรักษาเพื่อชื่นชมมากกว่านำมาใช้งาน
หมายถึงรถที่มีคุณค่าเอาชนะกาลเวลาได้ ผลิตในช่วง 10 ปีของการก้าวกระโดดในโลกรถยนต์ปี 1961-1970 อันเป็นช่วงสุดท้ายก่อนที่ ศาสตร์จะครอบงำศิลปะ มีความสวยงามแปลกตาโดดเด่น และส่วนใหญ่ยังมีสมรรถนะเพียงพอจะขับในการจราจรปัจจุบันได้ เหมาะกับผู้สะสมที่มุ่งใช้ขับขี่ รถคลาสสิคมักสร้างด้วยหลักคิด และบริบทที่ต่างจากยุคปัจจุบันแต่ไม่พ้นสมัยไปเหมือนรถโบราณ
หมายถึงรถที่มีอายุครบ 30 ปี ที่มีคุณค่าเพียงพอจะได้รับความนิยม มักสร้างในหลักคิด และบริบทใกล้เคียงกับรถใหม่ในยุคปัจจุบัน การออกแบบใช้ศาสตร์นำศิลปะ
อนึ่ง รถเก่าทุกคันไม่ได้เป็นรถคลาสสิค หรือโมเดิร์นคลาสสิค เมื่อครบช่วงเวลา ความโดดเด่น และคุณูปการต่อโลกรถยนต์ตั้งแต่เริ่มชีวิตของรถ ร่วมกับความนิยมการตอบสนองของสังคมต่อตัวรถ จะเป็นปัจจัยกำหนด การขึ้นชั้นเป็นรถคลาสสิค หรือโมเดิร์นคลาสสิค บทความแนะนำ

