รายงาน(formula)
คุณพร้อมเป็นเจ้าของรถไฟฟ้าแล้วหรือยัง ?
แม้รถไฟฟ้า จะถือกำเนิดขึ้นบนโลกมานานกว่า 100 ปี แต่ด้วยข้อจำกัดมากมายในอดีต ทั้งเรื่องเทคโนโลยีและวัตถุดิบ ที่นำมาใช้เป็นส่วนประกอบ ทำให้การวิจัย และพัฒนาเป็นไปแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ จนกระทั่งสถานการณ์พลังงานน้ำมันเริ่มผันผวน รวมถึงเกิดภาวะโลกร้อน รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจึงได้รับการพัฒนาอย่างจริงจัง โดยมุ่งเน้นประสิทธิภาพ สมรรถนะ และไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ ZEV หรือ ZERO EMISSION VEHICLE

KNOWLEDGE
รู้ลึกเรื่อง “รถไฟฟ้า”
ประเภทของรถไฟฟ้า ตามมาตรฐานสากล จำแนกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ รถไฟฟ้า ไฮบริด (HYBRID ELECTRIC VEHICLE) หรือ HEV รถไฟฟ้า พลัก-อิน ไฮบริด (PLUG-IN HYBRID ELECTRIC VEHICLE) หรือ PHEV รถไฟฟ้า แบทเตอรี (BATTERY ELECTRIC VEHICLE) หรือ BEV และรถไฟฟ้า เซลล์เชื้อเพลิง (FUEL CELL ELECTRIC VEHICLE) หรือ FCEV โอกาสนี้เราจะนำเสนอเฉพาะรถไฟฟ้า แบทเตอรี หรือ BEV เพียงชนิดเดียว เพราะเป็นประเภทที่ในต่างประเทศเริ่มนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย และค่อนข้างแน่นอนว่าจะเป็นรถแห่งอนาคตที่ต่อเนื่องจากรถประเภทพลัก-อิน ไฮบริดประเภทแบทเตอรี

การชาร์จไฟ



มาตรฐานอุปกรณ์ชาร์จไฟ
อุปกรณ์ชาร์จรถไฟฟ้า และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง มีหลายมาตรฐานแตกต่างกันไป ซึ่งกำหนดโดยองค์กรหรือสมาคมต่างๆ และที่ใช้เป็นมาตรฐานในวงกว้าง ได้แก่ สมาคมวิศวกรรมยานยนต์นานาชาติ หรือ SAE (SOCIETY OF AUTOMOBILE ENGINEERING) เป็นสมาคมที่ทำหน้าที่ค้นคว้าวิจัย และวางกฎเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับยานยนต์ของประเทศสหรัฐอเมริกา องค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน หรือ ISO (INTERNATIONAL ORGANIZATION FOR STANDARDIZATION) องค์กรที่กำหนดมาตรฐานฐานทั่วไปทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประเทศในยุโรปส่วนใหญ่จะอ้างอิงตามมาตรฐานนี้ สำนักงานมาตรฐานสากล หรือ IEC (INTERNATIONAL ELECTROTECHNICAL COMMISSION) องค์กรระหว่างประเทศที่ร่างมาตรฐานทางด้านไฟฟ้าและอีเลคทรอนิคส์ โดยการกำหนดมาตรฐานต่างๆ จะศึกษาร่วมมือกับ ISO มาตรฐานส่วนใหญ่ของ ISO และ IEC จึงไปในทิศทางเดียวกัน สำหรับในประเทศไทยยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจน แต่รถไฟฟ้าที่มีขายในปัจจุบันจะมาพร้อมกับหัวชาร์จมาตรฐาน SAE และ IEC ซึ่งเป็นแบบที่นิยมใช้กัน ไม่ว่าจะเป็นหัวสำหรับการชาร์จปกติ หรือหัวสำหรับชาร์จเร็วติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จไฟ มาตรฐานสากล

สถานีชาร์จไฟ
ปัจจุบันมีสถานีบริการชาร์จไฟให้กับรถไฟฟ้า เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั่วประเทศ จากผู้ให้บริการหลากหลาย ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ซึ่งเราได้รวบรวมไว้ให้พร้อมลายแทงแบบ QR CODEEA ANYWHERE
เครื่องอัดประจุไฟฟ้าของ EA ANYWHERE จ่ายไฟแบบ AC 3 เฟส ชาร์จไฟฟ้าได้รวดเร็ว เมื่อเทียบกับสถานีประจุไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC) แท่นชาร์จปลอดภัย ด้วยกล่องโลหะและกระจกป้องกันความร้อนสูง รังสียูวี ทนต่อลมพายุ ทราย ฝุ่นละออง และแสงแดด EA ANYWHERE มีสถานีชาร์จไฟครอบคลุมทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล อาทิ ห้างสรรพสินค้า สยามพารากอน, ห้างสรรพสินค้า CDC, สถานีบริการน้ำมันซัสโก ราษฎร์บูรณะ ซึ่งมีทั้งแบบชาร์จปกติและชาร์จเร็ว, มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์, ห้างสรรพสินค้า CRYSTAL PARK สาขาราชพฤกษ์, เมืองโบราณ บางปู, ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขารัตนาธิเบศร์, ห้างสรรพสินค้า FN OUTLET สาขาพระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ ยังขยายสถานีชาร์จไฟไปตามเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวต่างจังหวัด เริ่มจากเส้นทาง กรุงเทพฯ-หัวหิน โดยมีสถานีชาร์จไฟ OPG AMAZON บางขุนเทียน, สถานีบริการน้ำมันบางจาก แพรกหนามแดง (อัมพวา), ร้านอาหารครัวบ้านขวัญ สถานีชาร์จที่ใหญ่ที่สุด มีช่องบริการทั้งหมด 16 ช่อง, ศูนย์บริการ A.C.T. (ประจวบคีรีขันธ์) และโรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน ผู้ใช้งานเพียงต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน ลงทะเบียน และสามารถใช้งานได้ทันที ค่าบริการ 50 บาท ชาร์จได้ 60 นาที, 80 บาท ชาร์จได้ 120 นาที และ 110 บาท ชาร์จได้ 180 นาทีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ก็ไม่น้อยหน้าภาคเอกชน เร่งติดตั้งเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า PEA VOLTA PLATFORM โดยนำร่องติดตั้งสถานีชาร์จไว้ตามสถานที่ท่องเที่ยว และเมืองใหญ่ใกล้กรุง ได้แก่ สำนักงานใหญ่ กฟภ. 1 สถานี, พระนครศรีอยุธยา 1 สถานี, หัวหิน 3 สถานี, พัทยา 2 สถานี, นครราชสีมา 2 สถานี และนครปฐม 1 สถานี โดยใช้เครื่องชาร์จไฟฟ้าแบบ MULTI-STANDARD ทั้งกระแสสลับและกระแสตรง (ชาร์จเร็ว) เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 06.00-20.00 น. ค่าบริการ ปัจจุบันยังให้บริการฟรี เพียงลงทะเบียนผู้ใช้กับ กฟภ. เพื่อรับคีย์คาร์ดสำหรับนำไปใช้ที่สถานีบริการ ต่อไปเมื่อเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ผู้ใช้ต้องดาวน์โหลดแอพลิเคชัน PEA VOLTA เพื่อคิดค่าใช้จ่าย ซึ่งคาดว่าจะประมาณ 4 บาท/กิโลวัตต์กระทรวงพลังงาน
กระทรวงพลังงานร่วมกับสมาคมยานยนต์ ไฟฟ้าไทย ติดตั้งจุดชาร์จไฟ “CHARGING STATION” ไว้ตามห้างสรรพสินค้า สำนักงานทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 13 สถานี ได้แก่ 1. กรมควบคุมมลพิษ 2. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตองครักษ์ 3. บริษัท บางกอกโซลาร์ พาวเวอร์ จำกัด ปทุมวัน 4. บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (สำนักงานใหญ่) 5. บริษัท เค.อี.รีเทล จำกัด (CDC) 6. ศูนย์ การค้าเทอร์มินัล 21 อโศก 7. บริษัท แรบบิท ออโต้ คราฟท์ จำกัด 8. บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด 9. บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ เซอร์วิส 2016 จำกัด 10. บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ราชพฤกษ์ 2) 11. บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด 12. บริษัท สแตนดาร์ด เอ็นจีวี จำกัด 13. บริษัท เกษรเรียลตี้ จำกัด (ศูนย์การค้าเกษร)CHARGENOW
ผลงานความร่วมมือของ บีเอมดับเบิลยู ประเทศไทย ร่วมกับ 4 พันธมิตร ด้วยงบประมาณ 20 ล้านบาท โดยเป็นเครือข่ายผู้ให้บริการชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบัน CHARGENOW ให้บริการสถานีชาร์จไฟสาธารณะมากกว่า 65,000 แห่ง ใน 27 ประเทศทั่วโลก ด้วยวิธีการชาร์จที่ง่ายดายและรวดเร็ว สำหรับในประเทศไทย สถานีชาร์จไฟ CHARGENOW จะแสดงที่ตั้งผ่านสมาร์ทโฟนหรือในเวบไซท์ เพื่อแจ้งให้ลูกค้าทราบได้ว่าสถานีไหนว่าง หรือมีการใช้งานอยู่ ระยะแรกเปิดสถานีชาร์จทั้งสิ้น 50 สถานี โดยมี เซนทรัล กรุพ และ เอพี เป็นพาร์ทเนอร์ในการให้บริการปตท.
พี่เอื้อยแห่งวงการธุรกิจพลังงาน ภายในปี 2561 จะสร้างสถานีชาร์จสำหรับรถไฟฟ้า เพิ่มอีก 20 สถานี จากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 21 สถานี แต่น่าเสียดายที่ยังไม่ได้เปิดบริการบุคคลทั่วไป เพราะรอการอนุมัติของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)ชาร์จ 1 ครั้ง วิ่งได้ไกลแค่ไหน ?
แน่นอนว่าเป็นคำถามที่อยู่ในใจทุกคน เรามาดูผลการจัดอันดับ รถไฟฟ้า ปี 2018 ที่จำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา เรียงจากน้อยไปหามาก ดังนี้

การบำรุงรักษา
เจ้าของรถไฟฟ้าจะสามารถประหยัดค่าซ่อมบำรุงตามระยะการใช้งานมากกว่า เพราะรถไฟฟ้าไม่มีเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนสึกหรอมีน้อยกว่า ส่วนที่ต้องบำรุงรักษาก็มีเพียง แบทเตอรี (รถไฟฟ้าก็มีแบทเตอรี 12 โวลท์) ใบปัดน้ำฝน ระบบรองรับ เบรค ยาง โดยผลจากการวิจัยของสหรัฐอเมริกาพบว่า ค่าซ่อมบำรุงของรถไฟฟ้า ต่ำกว่ารถยนต์ประเภทสันดาปภายในราว 12-15 % จากการใช้งาน 16,000 กม. และ 24,000 กม. ตามลำดับ สำหรับราคาแบทเตอรีของระบบขับเคลื่อนนั้น ในอดีต แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน 1 ชุด ราคาอยู่ที่ประมาณ 40 % ของตัวรถ คิดง่ายๆ ว่า รถไฟฟ้าคันละ 1 ล้านบาท แบทเตอรีจะมีราคา 400,000 บาท แต่ปัจจุบันมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณ 10-30 % ของราคารถ แปรผันตามขนาดความจุของแบทเตอรี อ้างอิงจากราคาแบทเตอรีของ นิสสัน ลีฟ รุ่นแรกที่ลูกค้าในประเทศญี่ปุ่นสามารถเปลี่ยน ให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานได้ ตั้งแต่ขนาด 24-40 กิโลวัตต์ชั่วโมง โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 3-8.2 แสนเยน หรือประมาณ 93,000-254,200 บาทแบทเตอรีเจ้าปัญหา


รถไฟฟ้ามาแล้ว
ปัจจุบันมีรถไฟฟ้าจากค่ายผู้ผลิตมาให้เลือกเป็นเจ้าของกันแล้ว 3 บแรนด์ ได้แก่
- เกีย โซล อีวี มอเตอร์ไฟฟ้า 110 แรงม้า ราคา 2,297,000 บาท

- บีวายดี อี 6 มอเตอร์ไฟฟ้า 121 แรงม้า ราคา 1,890,000 บาท

- ฮันเด ไอโอนิก อีเลคทริค มอเตอร์ไฟฟ้า 120 แรงม้า ราคา 1,749,000 บาท
รถไฟฟ้าที่ตั้งตารอ

เตรียมตัวอย่างไร ถ้าอยากใช้รถไฟฟ้า ?
- ศึกษาที่ตั้งสถานีชาร์จไฟ
- วางแผนเดินทาง เปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่
เรียนรู้ข้อจำกัด
- ห้ามลุยน้ำ
- ห้ามลากจูง
ABOUT THE AUTHOR
ก
กองบรรณาธิการบทความและสารคดี formula
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กันยายน ปี 2561
คอลัมน์ Online : รายงาน(formula)