เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS
ทดสอบ 3 จักรยานไฟฟ้า พกพาได้
หากคุณกำลังมองหาจักรยาน ที่ใช้เดินทางได้รวดเร็ว และพับเก็บคล่องตัว เชิญพบกับจักรยานไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดที่เราคัดสรรมาเหล่าจักรยานที่ผ่านการทดสอบ 1 TERN VEKTRON S10 จักรยานพับได้ โมเดลใหญ่ที่สุดใน 3 คัน มีพื้นที่สำหรับวางกระเป๋า และสามารถติดตั้งที่นั่งเด็กเพิ่มได้ ใช้มอเตอร์ BOSCH ราคาเริ่มต้น 3,400 ปอนด์ ternbicycles.com 2 BROMPTON ELECTRIC BROMPTON มีความคลาสสิค คล้ายจักรยานในเมือง แต่เพิ่มลูกเล่นด้านความเร็วเข้าไป เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ ราคาเริ่มต้น 2,595 ปอนด์ brompton.com 3 VELLO BIKE+ โดดเด่นด้วยระบบการชาร์จพลังงานรูปแบบใหม่ ที่สามารถชาร์จได้แม้กำลังปั่น พร้อมมอเตอร์ดุมล้อที่สมบูรณ์แบบ โครงไททาเนียม พับเก็บได้ง่าย ทำให้จักรยานคันนี้ดูน่าสนใจมากขึ้น ราคา 2,970 ปอนด์ vellobike.com ความจริงจักรยานพับได้ มีมาตั้งแต่ยุค 60 แล้ว ถ้าคุณอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย จักรยานพับได้ก็นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางไปทำงาน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถ คุณสามารถนำจักรยานขึ้นรถไฟ และปั่นต่อไปยังที่ทำงานได้ แถมยังช่วยประหยัดพื้นที่ในบ้าน เพราะสามารถพับ และเก็บไว้ในหรือนอกบ้านก็ได้ และเมื่อจะเดินทางไปท่องเที่ยว ก็แค่พับจักรยานใส่ท้ายรถไปได้เลย สะดวกจริงๆ หากเคยขี่จักรยานพับได้รุ่นเก่า คุณจะพบว่าเฟรม และล้อเล็กๆ นั้นเหมาะกับการขี่ในระยะสั้นมากกว่า แต่มั่นใจได้เลยว่า จักรยานพับได้รุ่นใหม่นั้น มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมแน่นอน เนื่องจากมีระบบไฟฟ้า เพื่อเพิ่มกำลัง ระบบเบรคที่ทรงพลัง และเฟรมน้ำหนักเบา ทำให้ใช้งานง่าย ไม่แพ้จักรยานขนาดปกติ ในการทดสอบครั้งนี้ เรามีจักรยานไฟฟ้าแบบพับได้ประสิทธิภาพสูง ทั้งหมด 3 คัน แต่ละคันต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไปดูกันเลยว่า คันไหนจะตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด การทดสอบ 01: การออกแบบ ต้องพับได้ และใช้งานได้ดี VELLO BIKE+ มาพร้อมกับตัวเฟรมสุดเจ๋ง ที่ได้รับรางวัล และการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อพับแล้ว ส่วนประกอบอื่นๆ จะถูกซ่อนไว้ในโครงหลักของจักรยาน วิธีพับก็ไม่ยาก ตัวจักรยานจะมีจุดลอคที่เชื่อมล้อหลังเข้ากับโครงหลัก ในขณะที่ตะเกียบคู่หน้ามีจุดเชื่อมต่อแบบพินลอค คุณจะต้องปลดลอค เหวี่ยงล้อเข้า ลอคบนตะเกียบ และเฟรมจะทำให้ตัวจักรยานติดเข้าด้วยกันอย่างแน่นหนา คอของจักรยานสามารถกดลงให้ต่ำได้ เพราะมีรอยต่อให้ปลดลงมาได้อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับแฮนด์ที่สามารถปลดลงมาได้ ทั้งหมดนี้ ทำให้เมื่อพับแล้ว จักรยานจะมีลักษณะยาว และไม่กว้างเกะกะ แถมมีน้ำหนักเบาเพียง 13.9 กก. หิ้วไปไหนมาไหนได้ง่าย แต่เนื่องจากตัวจักรยานไม่มีขาตั้ง เวลากางออก จึงไม่ค่อยสะดวกนัก รูปลักษณ์ที่ล่ำสันของ TERN VEKTRON 510 อาจดูไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้ว จักรยานคันนี้ใช้งานง่ายมาก เพราะมีคันโยกปลดลอคขนาดใหญ่ ทำให้การพับ หรือกางออก เป็นไปอย่างรวดเร็ว VEKTRON มีขาตั้งแบบบิลท์-อินที่ด้านล่างของเฟรม จึงไม่ต้องกังวลว่าจักรยานจะล้มในขณะพับเก็บ แถมยังมีแม่เหล็กลอคให้ตัวโครงและตะเกียบอยู่ติดกัน พร้อมสายคล้องแฮนด์ ให้ติดอยู่กับเฟรมอีกด้วย อย่างไรก็ตาม มันมีน้ำหนัก 21.8 กก. ค่อนข้างหนัก แถมยังดูเทอะทะเกินไปหน่อย แม้จะพับเก็บแล้วก็ตาม BROMPTON ผลิตจักรยานพับมาเป็นเวลานานแล้ว จักรยานระบบไฟฟ้าคันนี้ ดูผิวเผินเหมือนกับจักรยานทั่วไป เพราะสามารถพับเข้ารูปได้อย่างสวยงาม แม้จะไม่ใช่จักรยานที่สามารถพับเก็บได้เร็วที่สุด เพราะคุณจะต้องคลายนอทที่ยึดแต่ละส่วนไว้ แต่ก็มีข้อดีหลายอย่าง เช่น ตะขอที่ส่วนหลัง และข้อต่อที่ตะเกียบหน้า ทำให้จักรยานดูแข็งแกร่งเมื่อพับ แล้วยังมีล้อยางเสริมบริเวณขาตั้ง จึงง่ายต่อการเคลื่อนย้าย มีแผ่นรองที่ใต้อานนั่ง ทำให้พกพาสะดวก จักรยานหนัก 14.5 กก. และ 17.5 กก. พร้อมแบทเตอรี BROMPTON ยังมีข้อดีอีกหลายอย่าง เช่น ล้อยางเสริมบริเวณขาตั้ง ทำให้เคลื่อนย้ายได้ง่าย VEKTRON ให้ความรู้สึกหรูหราเวลาปั่น แต่ข้อเสีย คือ มีขนาดใหญ่ และหนักที่สุด การทดสอบ 01: การออกแบบ ผู้ชนะ คือ BROMPTON ELECTRIC ไม่แปลกใจเลยที่ BROMPTON เป็นผู้ชนะ เนื่องจากเมื่อพับแล้วมีขนาดเล็ก สามารถวาง และพกพาไปได้ทุกที่ แม้จะมีน้ำหนักไม่เบานักก็ตาม ข้อมูลจำเพาะ เฟรม HYDROFORMED 7005 ALUMINIUM ล้อ 20 นิ้ว ยาง SCHWALBE BIG APPLE 55x406 เบรค SHIMANO DEORE HYDRAULIC DISC เกียร์ SHIMANO DEORE 10 จังหวะ (11-34T) CHAIN DRIVE มอเตอร์ BOSCH ACTIVE PLUS 250 วัตต์ จุดติดตั้งมอเตอร์ ใต้เฟรมจักรยาน แบทเตอรี 400 วัตต์ชั่วโมง หน้าจอ BOSCH PURION ระยะทาง 50-100 กม. (ขึ้นอยู่กับโหมดที่ใช้ปั่น และสภาพแวดล้อม) น้ำหนัก 21.8 กก. BROMPTON ซ่อนระบบไฟฟ้าไว้อย่างแนบเนียน แม้แต่กระเป๋าใส่แบทเตอรีก็ดูไม่โดดเด่น เป็นโมเดลขนาดเล็ก และง่ายต่อการพกพา ตัวเชื่อมต่อแบบแม่เหล็กที่จุดเก็บโซ่ ทำให้พับจักรยานง่าย แต่เมื่อพับแล้วก็ยังมีขนาดใหญ่กว่าจักรยานพับได้ทั่วไป เฟรม เหล็ก ล้อ 16 นิ้ว ยาง SCHWALBE MARATHON RACER 35-349 เบรค RIM-MOUNTED CALIPERS เกียร์ 6 จังหวะ BWR (BROMPTON WIDE RANGE) HUB, CHAIN DRIVE มอเตอร์ BRUSHLESS DC 250 วัตต์ จุดติดตั้งมอเตอร์ ช่องว่างด้านหน้า แบทเตอรี 300 วัตต์ชั่วโมง หน้าจอ จอ แอลอีดี ใช้แบทเตอรี ระยะทาง 40-80 ก0ม. (ขึ้นอยู่กับโหมดที่ใช้ปั่น และสภาพแวดล้อม) น้ำหนัก 17.5 กก. เฟรม เหล็ก ล้อ 20 นิ้ว ยาง SCHWALBE KOJAK 406x35 เบรค SHIMANO DEORE HYDRAULIC DISC เกียร์ SINGLE SPEED BELT DRIVEN มอเตอร์ ALL-IN-ONE 250 วัตต์ จุดติดตั้งมอเตอร์ ช่องว่างด้านหลัง แบทเตอรี 160 วัตต์ชั่วโมง หน้าจอ แอพพลิเคชัน ZEHUS สำหรับสมาร์ทโฟน ระยะทาง 28.8 กม. หรือมากกว่า (ขึ้นอยู่กับโหมดที่ใช้ปั่นและสภาพแวดล้อม) น้ำหนัก 13.9 กก. จำเป็นต้องเล็กหรือไม่ ? จักรยานไฟฟ้าพับได้แต่ละคันมีขนาดไม่เท่ากัน และถ้าพูดถึงจักรยานที่เมื่อพับแล้วยังมีขนาดใหญ่ จักรยาน MONTAGUE นับเป็นโมเดลที่น่าสนใจทีเดียว แม้ว่า TERN VEKTRON จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และมีน้ำหนักมากเมื่อเทียบกับจักรยานไฟฟ้าคันอื่นๆ แต่มีล้อ และเฟรมที่เล็กกว่าจักรยานทั่วไป ซึ่งแม้จะดูไม่เท่เหมือนจักรยานไซซ์ปกติ แต่หากคุณกำลังมองหาจักรยานไฟฟ้าพับได้ดีๆ สักคัน บางครั้งแค่มีขนาดเล็ก ก็ไม่ได้แปลว่าจะตอบโจทย์ของคุณได้เสมอไป MONTAGUE (montaguebikes.con) เป็นจักรยานขนาดปกติที่พับได้ ด้วยระบบพับรูปแบบ UPS ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของ F.I.T. การออกแบบโครงรถ คือ ท่อที่ซ่อนอยู่ในท่อ ทำให้มีความแข็งแรงเทียบเท่ากับจักรยานปกติ (ถ้าไม่ได้มองที่รูปลักษณ์) จักรยาน MONTAGUE BOSTON ZE ให้ความสามารถในการพับที่เหนือกว่าของ ZEHUS BIKE+ เป็นวิธีการพับแบบเดียวกับ VELLO BIKE+ ที่เราทดสอบ การทดสอบ 02: ระบบไฟฟ้า แตกต่างกันทั้ง 3 แบบ และมีข้อดีเฉพาะตัว จักรยานไฟฟ้าทั้ง 3 คันมีการติดตั้งระบบไฟฟ้าที่ต่างกันออกไป VEKTRON ใช้มอเตอร์ BOSCH ACTIVE PLUS ติดตั้งไว้ที่หัวกะโหลกบันไดถีบ ได้ประสิทธภาพที่ดี และความนุ่มนวลในการปั่น ไม่เหมือนกับระบบมอเตอร์รุ่นก่อนของ BOSCH ซึ่งจะมีโซ่อยู่ด้านนอกของมอเตอร์ คุณจะไม่รู้สึกถึงมอเตอร์ที่กำลังหมุน รวมถึงมีการติดตั้งแบทเตอรี ที่สามารถถอดออกมาชาร์จ หรือจะเสียบสายชาร์จก็ได้ แบทเตอรีมีขนาด 400 วัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ 50 กม. ในโหมดใช้พลังงานได้สูงสุด หรือ 100 กม. ด้วยโหมดประหยัดพลังงาน ซึ่งนับว่าสุดยอดมาก หากมองเผินๆ คุณอาจคิดว่า BROMPTON ระบบไฟฟ้า ไม่ได้แตกต่างอะไรจากจักรยานธรรมดาเลย ต่างกันแค่มีแบทเตอรี และมอเตอร์ที่ติดตั้งไว้เหนือล้อด้านหน้า เพื่อช่วยเสริมพลังในการปั่น ซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมกันกับ WILLIAMS ADVANCED ENGINEERING (จาก F1) มอเตอร์ใช้สมาร์ทเซนเซอร์ เพื่อปรับพลังงานในขณะปั่น พร้อมกับกระเป๋าแบทเตอรี อยู่ที่ด้ามแฮนด์บาร์ สามารถถอดมาชาร์จไฟได้ง่าย ตัวควบคุมไฟฟ้าติดตั้งที่ด้านบนของแบทเตอรี คุณสามารถใช้งานได้ 3 โหมดพร้อมกับฟังค์ชันอื่นๆ เช่น ไฟอัตโนมัติ USB และพอร์ทสำหรับชาร์จโทรศัพท์ แบทเตอรีของ BROMPTON มีขนาด 300 วัตต์ชั่วโมง เดินทางได้ 40-80 กม. ขึ้นอยู่กับโหมดที่ใช้ จักรยาน VELLO BIKE+ ที่ชาญฉลาด มาพร้อมกับมอเตอร์ ALL IN ONE และแบทเตอรีน้ำหนัก 3 กก. ที่ล้อด้านหลัง ซึ่งถูกติดตั้งไว้อย่างดี และอยู่ในจุดต่ำเพื่อให้ใช้งานได้สะดวก แถมยังมีการนำระบบพลังงานสำรอง KINETIC ENERGY RECOVERY SYSTEM (KERS) ของ F1 มาใช้อีกด้วย เพราะฉะนั้น หากเดินทางด้วยโหมดนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ ก็ไม่ต้องชาร์จแบทเตอรี ซึ่งนี่ถือเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจมาก แต่จะใช้ได้จริงกับพื้นที่ราบเท่านั้น เวลาปั่นขึ้นเนิน จักรยานคันนี้จะมีระบบกำลังเสริม เพื่อประหยัดแรงของคุณ และหากต้องการความเร็ว โมเดลนี้ ก็ยังมีโหมดเทอร์โบ ที่จะช่วยเพิ่มความเร็วได้ ในระยะ 29 กม. มีการนำระบบพลังงานสำรอง KINETIC ENERGY RECOVERY SYSTEM (KERS) ของ F1 มาใช้กับ VELLO BIKE+ การทดสอบ 02: ระบบไฟฟ้า ผู้ชนะ คือ VELLO BIKE+ หากคุณปั่นภายใต้เงื่อนไขที่ถูกต้อง ก็ไม่จำเป็นต้องชาร์จแบทเตอรีเลย แถมตัวจักรยานยังมีน้ำหนักเบา นับว่าเป็นนวัตกรรมที่จะมาพลิกเกมนี้ การทดสอบ 03: การปั่น จักรยานคันไหนจะพาคุณสู่จุดหมายได้รวดเร็ว และสะดวกสบายที่สุด TERN VEKTRON ให้คุณสัมผัสประสบการณ์การปั่นจักรยานสุดอลังการ ด้วยล้อขนาดใหญ่ จึงเดินทางไปได้เร็ว พร้อมเกียร์ 10 จังหวะ ที่ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ BOSCH ที่จะให้ความสมดุลด้านพละกำลังแก่คุณ ซึ่งแตกต่างจากจักรยานไฟฟ้าบางคันที่มีแค่ระบบแบทเตอรีช่วยเสริมกำลังได้เพียง 25 กม./ชม. เท่านั้น แต่สำหรับ VEKTRON เพียงแค่ปั่นไปเรื่อยๆ แม้จะไม่มีกำลังเสริมจากมอเตอร์ มันก็สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วถึง 32 กม./ชม. บนที่ราบ ซึ่งน่าประหลาดใจมาก ฉะนั้น VEKTRON จึงเหมาะกับการปั่นระยะไกลมากที่สุด ขณะที่ VEKTRON มีขนาดใหญ่โตราวกับรถถัง VELLO BIKE+ เปรียบเสมือนจักรยานแข่งขัน เนื่องจากมีน้ำหนักเบา ปั่นสนุก โดยสามารถปั่นคล่องแคล่วรวดเร็วได้ตามใจคุณ แต่หากต้องการความเร็วที่มากกว่า เกียร์จังหวะเดียวกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำงานอย่างหนัก สามารถทำความเร็วได้เพียง 24 กม./ชม. ซึ่งจะไม่เป็นปัญหาหากคุณปั่นในเมือง แต่อาจจะน่าเบื่อถ้าปั่นทางตรง ถึงอย่างนั้น เกียร์จังหวะเดียวก็ทำงานร่วมกับระบบไฟฟ้าได้อย่างดี จนน่าประหลาดใจ และหากใช้โหมดเทอร์โบ จะพบว่าการปั่นขึ้นเนินนั้นเป็นเรื่องง่าย ถึงจะไม่เร็วนัก แต่ก็ประหยัดแรงได้ดี BROMPTON เป็นจักรยานที่เล็กที่สุดในการทดสอบครั้งนี้ รูปลักษณ์ดูน่าตลก โดยเฉพาะตะเกียบหน้าที่ยาวกว่าคันอื่นๆ แต่จักรยานคันนี้ปั่นสบายมากกว่า ที่เราเห็นล้อขนาดเล็ก แฮนด์บาร์สูง และแบทเตอรีที่หนักอึ้ง อาจทำให้การเลี้ยวค่อนข้างลำบากเล็กน้อย เพราะแบทเตอรีและมอเตอร์ตั้งอยู่ด้านหน้า แต่คุณจะคุ้นชิน และสนุกไปกับมันในไม่ช้า เกียร์ 6 จังหวะ ด้านหลังสามารถช่วยให้คุณไปได้ไกลพอประมาณ สัก 28 กม./ชม. แม้จะอยู่ในโหมด MID-RIDE อย่างไรก็ตาม จุดติดตั้งแบทเตอรีที่อยู่ด้านหลังแฮนด์บาร์ ก็ยังทำให้การปั่นค่อนข้างทุลักทุเล เมื่อต้องปั่นบนพื้นที่ขรุขระ ผู้ชนะ คือ TERN VEKTRON หากปั่นในระยะทางไกลเพื่อความเพลิดเพลิน จักรยานคันนี้เหมาะที่สุด เพราะความสะดวกสบาย ความเร็วที่เกิดขึ้นขณะปั่น แม้ว่าคุณจะมีสัมภาระก็ตาม ข้อความโปรย VEKTRON มีล้อขนาดใหญ่ จึงเดินทางไปได้เร็ว คำตัดสิน: ผู้ชนะองค์ประกอบโดยรวม คือ BROMPTON ELECTRIC ราคาเริ่มต้น 2,595 ปอนด์ brompton.com สิ่งที่เราประทับใจ คือ ขนาดของจักรยานเมื่อพับเก็บแล้ว พกพาขึ้นรถไฟไปทำงาน เกียร์ 6 จังหวะ ที่ใช้งานได้จริง สิ่งที่ต้องปรับปรุง จะต้องคอยปรับโหมดพลังงานตลอดเวลา ซึ่งมันอาจจะยุ่งยากไปสักหน่อย สรุป เป็นจักรยานที่ให้ประสบการณ์การปั่นได้ดี เวลาพับเก็บแล้วดูสวยงาม ให้ความรู้สึกคลาสสิค แถมยังมีขนาดที่พอดีอย่างเหลือเชื่อ ทำให้เห็นแล้วอยากเป็นเจ้าของสุดๆ TERN VEKTRON S10 ราคา 3,400 ปอนด์ ternbicycles.com สิ่งที่เราประทับใจ คือ การปั่นที่สนุกสนาน เหมาะสำหรับปั่นระยะทางไกล ระบบไฟฟ้าของ BOSCH นุ่มนวล และไปได้เร็วโดยไม่ต้องมีมอเตอร์คอยต้านลม เมื่อพับแล้วก็สะดวกดี สิ่งที่ต้องปรับปรุง คือ น้ำหนัก และขนาดที่มากไป ไม่เหมาะกับการปั่นไปทำงาน สรุป ใช้งานได้ง่ายและดี พอๆ กับ BROMPTON แต่เหมาะกับการใช้งานที่ต่างกัน VELLO BIKE+ ราคา 2,970 ปอนด์ vellobike.com สิ่งที่เราประทับใจ คือ เทคโนโลยีระบบไฟฟ้าที่ไม่ต้องชาร์จไฟ น้ำหนักเบามาก เกียร์จังหวะเดียว ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับปั่นในเมือง สิ่งที่ต้องปรับปรุง คือ รูปทรงยาวเกินไปเมื่อพับแล้ว และเวลาพับก็ไม่สะดวกนัก สรุป จักรยานที่ขับขี่สนุก รวดเร็ว เป็นอีกทางเลือกที่ดี
ABOUT THE AUTHOR
T3 MAGAZINE
ภาพโดย : T3 MAGAZINE นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2562
คอลัมน์ Online : เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS